
นอกจากปัญญาชนจะได้รับอิทธิพลจากวัฒนธรรมเพลงตะวันตก แนวความคิดเรื่องศิลปวัฒนธรรมโดยกระแสการเมืองของจีนมีส่วนสำคัญอยู่ด้วย โดยเฉพาะในความคิดเรื่องการใช้เพลงในการต่อสู้ทางชนชั้น
จากการศึกษาผลงานศิลป์เพื่อชีวิต ศิลป์เพื่อประชาชน งานแปล งานวรรณกรรม และบทเพลงที่ จิตร ภูมิศักดิ์ แต่งขึ้น งานของจิตรเป็นที่สนใจของปัญญาชนยุคนั้น โดยเฉพาะบทเพลงของจิตรนำมาขับร้องเผยแพร่ในปี 2518 จำนวนมากมาย
เพลงที่สะท้อนให้เห็นถึงการใช้เพลงชี้นำ ปลุกระดมความสำนึกของคนจีนในสงครามปฏิวัติของคนจีน มีลักษณะเป็นเพลงมาร์ช เหมือนเพลงปฏิวัติทั่วไปที่กล่าวว่า
“Arie, With over way flesh and blood let us build our new great wail
Chinas masses have met the day old danger,
Hate and anger fill the heart of all our country men,
Arise ! Arise ! Arise !
Many hearts with one mind.
Brave the enemys gunfire
March on
Brave the enemys gunfire
March on! March on! March on!”
เพลง Chi Lai (Rise up) ซึ่งแปลโดย Tien-Han เรียบเรียงโดย Lee Pas-Chen
สำหรับเพลง The East is Red เป็นเพลงปฏิวัติอีกเพลงหนึ่งที่มีอิทธิพลของประเทศต่าง ๆ ในเอเชียเรียบ เรียงโดย Ho Lu Ting มีข้อความปลุกระดมให้เชื่อมั่นประธาน เหมา เจ๋อ ตง ผู้นำของจีนในยุคของการเปลี่ยน แปลงโค่นล้มประเทศนั้นเอง ดังที่กล่าวว่า
“Form the Red East rises the sun
There appears in Chaina Mao-Tse-Tung.
He Works for the peoples Welfare
He is the peoples great savior
Chairman Mao Loves the people
He is our guide
He leads us oneward
To build up New China”
เพลงยกย่องประธานเหมา ผู้นำของจีน เจ้าของลัทธิที่ครั้งหนึ่งเคยมีอิทธิพลสามารถโค่นล้มระบบศักดินาจีน และนำประชาชนส่วนใหญ่สร้างสังคมใหม่ได้สำเร็จ ด้วยการล้มล้างวัฒนธรรมชนชั้นศักดินา
งานกวีนิพนธ์ของจีนและบทเพลงที่ จิตร ภูมิศักดิ์ เรียบเรียงไว้นั้น ได้สะท้อนให้เห็นว่าบทบาทของเพลงจีน มีอิทธิพลงต่อวรรณกรรมเวียตนาม และพ้องต่อความคิดปัญญาชนของคนในแถบเอเชีย รวมทั้งประเทศไทยที่ต้องการการเปลี่ยนแปลงสังคม โค่นล้มอำนาจศักดินาด้วยการเลียนแบบการใช้ศิลปะเพื่อชีวิต เพื่อประชาชน ของจีน