
ตั้งแต่รู้จักและได้มีส่วนร่วมในการทำงานของเขาตั้งแต่ปี 2540
รู้จักตัวตนของเขา
รู้สึกงานของเขา
รู้ซึ้งถึงความตั้งใจ ที่แน่วแน่และทุ่มเท
รู้ว่าเขารักงานของเขาเพียงใด
ฉันชื่นชอบเขา
ไม่ใช่ชื่นชอบในความเป็นนักร้อง ศิลปิน หรือดารานักแสดง
แต่ชื่นชอบในความสามารถหลาย ๆ อย่างที่มีอยู่ในตัวเขา
เขาเป็นนักดนตรี ที่สามารถเล่นเครื่องดนตรีได้หลายชนิด
เขาเป็นนักร้อง ที่มีผลงานเป็นที่ประจักษ์
เขาเป็นนักแต่งเพลง ผู้ใช้ภาษาเพลงได้อย่างไพเราะสละสลวย
โดยเฉพาะอนุรักษ์ภาษาล้านนา
เขาเป็นนักแสดง ที่สวมบทบาทได้อย่างสมจริง
เขาเป็นผู้เขียนบทละคร
เขาเป็นผู้กำกับการแสดง
เขาเป็นผู้ออกแบบการแสดงละคร
เขาเป็นนักเล่าเรื่อง โดยเฉพาะประวัติศาสตร์ล้านนา
เขาเป็นอะไรอีกมากมาย …ที่ฉันไม่อาจพรรณนาได้หมด
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
เขาเป็น “ครู”
เขาเป็นครูของนักดนตรี โดยเฉพาะเด็ก ๆ จากล้านนา
เขาเป็นครูของนักร้อง
เขาเป็นครูของนักแสดง
ในยามที่เขาเป็นครู
เขาถ่ายทอดความรู้ ความสามารถให้แก่ลูกศิษย์อย่างตั้งใจ
และมีความสุข ไม่เคยเหนื่อยหน่าย
เขาจะเรียกตัวเองว่า “ครู” เมื่ออยู่กับเด็ก ๆ
ฉันคิดว่าเป็นคำที่เหมาะสมกับตัวเขามากที่สุด
เขาเป็นครูแม้ในวาระสุดท้ายของชีวิต
เป็นครูผู้รื้อฟื้น ประเพณีการทำศพแบบโบราณ ล้านนาไทย
ที่มีลูกศิษย์นับหมื่นมารับการถ่ายทอดความรู้จากเขา
โดยที่เขาใช้ร่างของเขาเป็นนักแสดง เป็น “ครู”
เขาเรียกฉันว่า “พี่”
ซึ่งฉันก็ภูมิใจที่มีคนที่มีชื่อเสียงก้องเมืองไทยให้เกียรติฉันถึงปานนี้
ก่อนที่เขาจะจากไปก่อนวัยอันควร
เขาทำหน้าที่เป็น “ครู” ให้ฉัน
เขาสอนฉันอื่อกรรโลงล้านนา
กรรโลงบทเดียวและบทสุดท้ายในละครเรื่อง “มะเมี๊ยะ”
ที่กลั่นออกมาจากใจของเจ้าน้อยศุขเกษม
ละครซึ่งเขาตั้งใจจะกำกับการแสดงเอง
ละครซึ่งสร้างขึ้นจากบทเพลงของเขา
ละครซึ่งจะนำออกสู่สายตาของผู้ชมในงานคอนเสิร์ต 25 ปี ของเขา
ละครซึ่งผู้แสดงล้วนเป็นลูกศิษย์ของเขา
เสียงอื่อกรรโลงยังดังก้องอยู่ในโสตประสาทของฉัน
เหมือนจะฝากฉันว่า
ช่วยสานต่อเจตนารมณ์ของเขาด้วย
“นาเฮยนานาฏเจ้า ดวงใจ
เผือพี่จักเยียใด เลี่ยงพ้น
ฤากรรมเก่าควีไคว กางกีด คุมคาง
อกว่าจักแหลกล้น ปิ่มสิ้นใจตาย”
หัวใจของเจ้าน้อยศุขเกษมจากละครเรื่อง มะเมี๊ยะ แตกดับไปพร้อม ๆ กับหัวใจของผู้เขียนบทละคร จรัล มโนเพ็ชร
ทองศรี จันทร์ธง, 21 กันยายน 2544
จาก “ประวัติชีวิตผลงาน จรัล มโนเพ์ชร”
หนังสืองานพระราชทานเพลิงศพเป็นกรณีพิเศษ