เรือรักกระดาษ
คำร้อง : สมพงค์ ศิวิโรจน์

ทำนอง : สมพงค์ ศิวิโรจน์

เรือรักกระดาษ คลื่นสาดในธารมายา
โลกีย์บังตา บังใจอ่อนไหวไหวเอน
นาวาสุขสม ไม่นานก็ล่มสลาย
อยากจูบรูปกาย ไขว่คว้าได้เพียงรูปเงา

ห่างกันแปรผัน บอกรักคนอื่น
ข้ามคืน หยิบยื่นความสาวให้ชม
ดอกไม้กลิ่นแรง ล่อแมงตัวผู้มาดม
แลกร่างเสพสม ยอมตรมเพื่อหารักจริง

ยามรักหนีจาก รักฝากปวดร้าวนานา
เก็บซ่อนน้ำตา เย็นชากับความรักลวง
รักแสนสุดหวง รักลวงรู้ตัวเมื่อสาย
เสน่ห์เรือนกาย เสพได้แค่เพียงกามา

ธงชัย รักษ์รงค์ กล่าวขึ้นเนื้อหาของเพลงเรือรักกระดาษว่า “ความเป็นจริงในสังคมปัจจุบัน เป็นเรื่องธรรมดาของคนเราเดี๋ยวนี้ ที่ใช้ชีวิตร่วมกันโดยใช้หน้ากากเป็นสื่อในการอยู่ร่วมกัน อยู่ภายใต้กรอบของกฎหมาย เนื้อแท้ของชีวิต เรากลับฝังลึกจนเกินจะค้นหาและถ่ายทอดมาจากใจได้ เหลือเพียงเนื้อกายที่ให้ชีวิต และมีที่ผิดธรรมชาติก็เยอะ เปลี่ยนกายจากชายเป็นหญิง ลืมทุกสิ่งที่โลกให้มา สุดท้ายหลั่งน้ำตาเพ้อหาความเป็นจริง เราเลยสื่อเพลงนี้ออกมา ส่วนเรื่องดนตรีความจริงเพลงนี้ ตามความต้องการของผม ผมต้องการมีเสียงเปียโน กับออเคสตร้าเป็นหลัก แต่ติดด้วยเรื่องเงินอันเป็นปัจจัยหลัก เราต้องตัดเครื่องดนตรีที่ต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากออกไป เหลือแค่เปียโน”

สมพงค์ ศิวิโรจน์ มือเขียนเพลงประจำวง เสริมว่า “แต่งที่หอพักข้างวัดระฆัง กทม. บ้าง บนรถไฟ หัวตะเข้-ดอนเมือง ขณะเรียนช่างศิลป์ปี 2535 หลังเกณฑ์ทหารบ้าง บางท่อน เช่น เสน่ห์เรือนกาย เอามาจากประสบการณ์จริง มองผู้หญิงมีค่ากว่าตัวเอง…มีนิสัยไม่กล้ากับผู้หญิง – ห่างกันแปรผัน… ดอกไม้กลิ่นแรง เป็นบนรถไฟ และประทับใจท่อนนี้มาก – เรือรักกระดาษ เป็นคำเก่าที่เลือกไว้อย่างเหมาะสม”

“รับทำนองมา เสียงหรีดอันแรก..โหยหวน ..ลื่นไหลของตัวละคร คล้ายผู้หญิงโดดตึก ..ช่วงหนึ่งในวัยสาว เสาะหาคนที่เหมาะสม.. ไม่มีใครจริงใจ…” ธงชัย รักษ์รงค์ กล่าวต่อ

“มีตัวตนจริง…เคยเป็นแฟนระยะหนึ่ง..” สมพงค์ ศิวิโรจน์ ทิ้งท้าย

เรือรักกระดาษ