
พิศมร หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย จ.สมุทรสงคราม ปี 2450 หรือ ตะกรุดใบลานบังฃปืน ของหลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย เป็นเครื่องรางยอดนิยมอันดับต้น ๆ เป็น 1 ใน 9 สุดยอดเครื่องรางยอดนิยม และในยุคแรก ๆ จะไม่ได้ลงรัก แต่การชำรุดจากการใช้งาน จึงได้นำไปลงรักเพื่อรักษาสภาพในภายหลัง
9 สุดยอดนิยมเครื่องราง ประกอบด้วย
“หมากดีที่วัดหนัง
ถ้าเบี้ยขลังวัดนายโรง
ไม้ครูอยู่คู่วัดอินทร์
ส่วนมีดบินวัดหนองโพ
พิศมรวัดพวงมาลัย
ครั่งเหลือร้ายวัดโตนดหลวง
ราหูคู่วัดศรีษะ
แหวนอักขระวัดหนองบัว
ลูกแร่ที่วัดบางไผ่
ฤทธ์เหลือร้ายหาใดปาน
เก้าสิ่งล้วนเป็นมงคล
ทั่วทุกคนควรค้นหา
ติดกายยามยาตรา
ภัยมิกล้ามาแผ้วผาน”
อันหมายถึง
- หมากทุย หลวงปู่เอี่ยม วัดหนังราชวรวิหาร ธนบุรี กรุงเทพมหานคร
- เบี้ยแก้ หลวงปู่รอด วัดนายโรง บางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
- ตะกรุดไม้ครู หลวงปู่ภู วัดอินทรวิหาร บางขุนพรหม กรุงเทพมหานคร
- มีดหมอ หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ จ.นครสวรรค์
- ตะกรุดพิสมร หลวงพ่อแก้ว วัดพวงมาลัย จ.สมุทรสงคราม
- ตะกรุดอุดครั่ง หลวงพ่อทองศุข วัดโตนดหลวง จ.เพชรบุรี
- ราหู หลวงพ่อน้อย วัดศีรษะทอง จ.นครปฐม
- แหวนพิรอด หลวงปู่ยิ้ม วัดหนองบัว จ.กาญจนบุรี
- ลูกสะกด เนื้อแร่บางไผ่ หลวงปู่จันทร์ วัดโมลี จ.นนทบุรี
หลวงพ่อแก้ว เป็นเกจิผู้มีชื่อเสียงโด่งดังในเรื่องตะกรุดที่ทำจากใบลาน รวมทั้ง เหรียญ ผ้ายันต์ และลูกอม มีผู้นิยมศรัทธากันมาก เลื่องลือกันว่าพุทธคุณด้านอยู่ยงคงกระพันชาตรีนั้นดีเป็นเลิศ โดยปัจจุบันแต่ละอย่างล้วนมีราคาแพงมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตะกรุดใบลาน
ใบลาน ที่หลวงพ่อแก้วใช้ทำตะกรุด หลวงพ่อเจาะจงต้องนำมาจากต้นตาลที่ขึ้นอยู่ที่ ปากคลองบางปืน เท่านั้น (ปัจจุบันคือ บ้านบางปืน หมู่ 6 ต.นางตะเคียน อ.เมือง จ.สมุทรสงคราม) โดยใบลานที่ได้นี้จะเป็นยอดใบลานเดือน 5 เป็นใบลานอ่อน ตากแห้งม้วนไม่แตก ต้นตาลที่ว่านี้จะขึ้นโดดเดี่ยวกลางทุ่งบ้านบางปืน
สาเหตุที่ต้องใช้ใบลานปากคลองบางปืน หลวงพ่อแก้วบอกว่าเพราะชื่อ “บางปืน” อันพ้องเสียงว่า “บังปืน” ให้ความหมายในการข่มนาม เป็นเคล็ดลับของการลงเครื่องรางของขลังประการหนึ่ง คือ การข่มนามแจ้งเทพ ใช้ชื่อในการสะกดลงอักขระเลขยันต์ เพื่อบ่งบอกให้เทพเทวดาฟ้าดินได้รับรู้ว่าของของท่านใช้ดีทางไหน เป็นอุปเท่ห์ในการลงวิชาอาคม
ดงใบลานของบางปืนมัยนั้นการคมนาคมลำบากยากยิ่ง ไม่ง่ายเหมือนอย่างสมัยนี้ เมื่อหลวงพ่อสั่งให้ลูกศิษย์เดินทางไปตัดใบลานจากบ้านบางปืน ก็มักมีผู้ถามหลวงพ่อว่า ทำไมถึงต้องไปเอาไกลขนาดนั้น หลวงพ่อตอบว่า “อยากได้ของดีก็ต้องรี่ไปเอา ไกลแค่ไหนถ้าไม่ไป ก็ไม่ได้ของดี”
เมื่อได้ใบลานจากบางปืนมาแล้ว ท่านจะตัดเป็นชิ้นเล็ก ๆ ขนาดประมาณ 5-6 นิ้ว แล้วนำไปผึ่งแดดให้แห้ง จากนั้นจึงนำมาลงอักขระบนใบลาน ด้วยตัวขอม อ่านได้ว่า “ภู ภิ ภู ภะ” ล้อมรอบด้วยตัว “มิ” ไว้ตรงกลาง ประกอบด้วยอักขระหนุนตามสมควร ม้วนด้วยคาถาหัวใจเสือสมิง “ภู ภิ ภู ภะ” ในเวลาค่ำคืนดึกสงัด ปราศจากเสียงหวีดร้องของเหล่าสรรพสัตว์ อันถือเป็นฤกษ์มหาอุตม์

ตะกรุดใบลานบังปืน ของ หลวงพ่อแก้ว จะพันด้วยด้ายสายสิญจ์ ไม่ใช่การถักลาย หลวงพ่อจะพันด้วยตัวท่านเอง และระหว่างการพันด้าย ท่านจะบริกรรมคาถาไปด้วย ให้สังเกตจะเป็นการพันแบบง่าย ๆ
ตะกรุดลูกเล็ก ๆ เเบน ๆ จะเรียกว่า ตะกรุดพิสมร ส่วนดอกยาวขึ้นมาหน่อย ป้อม ๆ อ้วน ๆ ลักษณะเหมือนกลองเพลวัดจะเรียกว่า ตะกรุดลูกกลอง ถ้าดอกยาว ๆ มีทั้งแบบถักเชือกและไม่ถักเชือก เป็นใบลานเปล่า ๆ ลงอักขระแล้วม้วน บ้างปิดทองเก่าก็มีแต่พบเห็นได้น้อย โดยมากจะเสียหายหมด แบบนี้จะเรียกว่า ตะกรุดใบลาน ซึ่งทั้งหมดนี้เรียกรวม ๆ กันว่า ตะกรุดใบลานบังปืน
สำหรับคาถาในการอาราธนาตะกรุดใบลานบังปืน ให้ตั้งนะโม 3 จบ เอาตะกรุดจบที่หน้าผากแล้วว่าคาถา “ภู ภิ ภู ภะ อะมิ อุทถัง อัดโธ นะโมพุทธายะ”
เมื่อคาดเข้าติดตัวให้ว่าคาถาเวลาผูกปมเชือกว่า “ภู ภิ ภู ภะ อะมิ มิมังกา ยะพัทธนัง อธิษฐานมิ”