ร่ายพัฒนา
โอม…ธรณีประลัย แผ่นดินไทยดั่งดินเดือด ฟ้าสีเลือดคำรณ ครางเกียรติกระดางลางลือระบัด อา…ยุคพัฒนาการ จอมอันธพาลเถลิงอำนาจ ปวงประชาราษฎร์อาเภท เปรตกู่ก้องร้องตระเมิม กระหายเหิมแลบลิ้นอยู่วะวาบวะวาบ แสยะเขี้ยวเขียวปลาบอยู่วะวับวะวับ จับชนเชือดเลือดสดสด ซดอิ่มเอมเปรมแประท้อง ร้องโลกฮือ มือถือสาก ปากถือศีลตีนกระทืบ คืบก็หอกศอกก็ปืน หืนโหดโฉดชาติ… อนาถหนอกรุงเทพมหานคร อมรรัตนโกสินทร์ อา…เมืองอินทร์หยาดฟ้า ผีเปรตย่ำหยาบช้า จักช้ำฤๅไฉน ฯ
โคลงสี่สุภาพ | |
เมืองไทยยุคคลั่งเพ้อ | พัฒนา นี้ฤๅ |
บังเกิดผู้นำมหา- | บุรุษแท้ |
บุรุษเหล็กทุกยุค-บา | เผยอทาบ เขาฤๅ |
เหล็กเท่าเหล็กล้วนแพ้ | พ่ายสิ้นทุกสมัย ฯ |
อำนาจบาตรใหญ่เหี้ยม | โหดหืน |
ย่ำระบบยุติธรรมยืน | เหยียบเย้ย |
ปืนคือกฎหมาย…ปืน | ประกาศิต |
“ผิดชอบอั๊วเองเว้ย” | “ชาตินั้นคือกู” ฯ |
ถือ ม. สิบเจ็ดใช้ | ประหารชน |
เหมือนหนึ่งหมากลางถนน | หนักหล้า |
เห็นคนบ่เป็นคน… | ควายโง่ (โอยพ่อ) |
กดบ่ให้เงยหน้า | “นิ่งโว้ย…ม่ายตาย” ฯ |
ยานีลำนำ | |
“กูนี้แหละผู้สร้างชาติ” | ประวัติศาสตร์ยุคพัฒนา |
ฝากชื่อให้ลือชา | ให้ปวงชนได้ชื่นชม |
กูสร้างกูรับเหมา | ทั้งหนักเบากูฟัดจม |
โครงการทุกกองกรม | ย่อมกวาดกำในมือกู |
บริษัทอภิสิทธิ์ | ผูกขาดปิดทุกประตู |
ประมูลอย่างข่มหมู | เขมือบเมือบจนมันมือ |
ชาติเสือต้องไว้ลาย | และชาติชายต้องไว้ชื่อ |
กูเสือในครัว…ฮือ | เป็นชาติเสือต้องนอนกิน |
คำขวัญอันสวยสด | ก้องปรากฏเหนือธรณินทร์ |
เบื้องหลังสิเล่ห์ลิ้น | ที่หลอกลวงปวงประชา |
เขากินเขากอบโกย | เขาร้องโวยว่าพัฒนา |
ใครเห็นอย่าพูดจา | จงนิ่งเศร้าอยู่ซึมซึม |
…อย่าพูดจา …อย่าพูดจา | |
…จงนิ่งเศร้าอยู่ซึมซึม | |
แต่คนย่อมเป็นคน | บ่คือควายที่โง่งึม |
ไผเหวยจะยอมพึม | และพ่ายแพ้ลงพังภินท์ |
ฟ้าลวกด้วยเปลวเลือด | ระอุเดือดทั้งแดนดิน |
วอดวายทุกชีวิน | แต่คนยังจะหยัดยืน |
ถึงยุคทมิฬมาร | จะครองเมืองด้วยควันปืน |
ขื่อแปจะพังครืน | และกลิ่นเลือดจะคลุ้งคาว |
แต่คนย่อมเป็นคน | ในสายธารอันเหยียดยาว |
คงคู่กับเดือนดาว | ผงาดเด่นในดินแดน |
ถึงปืนก็เถอะปืน | เจ้ายิงคนอย่างหมิ่นแคลน |
ใจสู้นี้เหลือแสน | กว่าปืนสูจะตัดสิน |
คาวเลือดที่ไหลอาบ | ซึมกำซาบในเนื้อดิน |
ปลุกใจอยู่อาจิณ | ให้กวาดล้างพวกกาลี |
ฟ้ามืดเมื่อมีได้ | ก็ฟ้าใหม่ย่อมคงมี |
แสงทองเหนือธรณี | จะท้าทายอย่างทระนง |
เมื่อนั้นแหละคนนี้ | จะยืดตัวได้หยัดตรง |
ประกาศด้วยอาจอง | “กูใช่ทาสหากคือไท” |
หากคือไทย…ฮา !! |
กวีการเมือง (จิตร ภูมิศักดิ์)
จิตร แอบส่งบทกวีนี้ จากคุกมาลงหนังสือพิมพ์ประชาธิปไตย เมื่อ พ.ศ. 2507 หลังจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ เสียชีวิตไม่นาน ภายใต้นามปากกา “กวีการเมือง” ต่อมาได้มีผู้นำมาลงพิมพ์ในวารสาร “เศรษฐกร” พ.ศ. 2514