รวมพลคนค่าย 17 โรงเรียนบ้านคำปะกั้ง สาขาบ้านดงอ่าง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย (14-28 ตุลาคม 2546)

24 .00 น. ในห้องนอน

ขอพูดความอึดอัดใจหน่อย… มาค่ายอาสาพัฒนาชนบทนะไอ้น้องเวรทั้งหลาย โปรดเข้าใจในชื่อของชมรมด้วยด่วน แล้วรีบปรับตัวให้เข้ากับสภาพแวดล้อมเดี๋ยวนี้เลยนะ มันเสื่อเสียไปถึงบรรยากาศของคนส่วนรวม ถ้ามาแต่ตัว… หัวและความคิดไม่ได้เอามา ก็ขอให้รีบกลับไปแล้วหาค่ายฯ แบบของน้องอยู่เถอะ แต่น้องเวรทั้งหลายก็ต้องปรับให้เข้ากับเขาอยู่ดี เพราะน้องเวรทั้งหลายถ้าไม่มีความเป็นคนเพื่อสังคม หรือเรียก นักกิจกรรม …อีกข้อเสนอแนะ…. พวกคุณไปเที่ยวกันดีกว่า ไปรบกวนพวกสัตว์มันดีกว่า อย่ามาทำลายสังคมในฝัน, สังคมแห่งความดีงาม, เส้นทางแห่งศรัทธาของพวกเราเลย มันไม่คุ้มกันหรอก กะอีแค่ไอ้พวกอยากจบแต่ติดศีลธรรมบางอย่างนะ ขอร้องและได้โปรดอย่าทำให้เรื่องใหญ่แล้วมันจะยุ่ง และมุ่งทำลายคนที่เขาต้องการมาศึกษาชนบทจริง ๆ

ขอสาปแช่งให้เป็นคนดีเพื่อสังคมตลอดชีวิตคุณ ๆ

*จากหมายเหตุค่ายฯ 17

จากใจถึงเพื่อนร่วมอุดมการณ์

ค่ายนี้คงเป็นค่ายสุดท้ายที่ผมได้ทำหน้าที่เป็นส่วนหนึ่งของการสร้าง การกระตุ้นให้สมาชิกใหม่ ๆ ที่มาร่วมทำกิจกรรมแบบนี้ได้ตระหนักถึงความเป็นสังคมไทยที่บริสุทธิ์ ถึงแม้จะทำได้ไม่ดีในสายตาของคนอื่น แต่สำหรับผมแล้วมันเป็นสิ่งที่ทรงคุณค่าอย่างยิ่งในชีวิตหนึ่ง ที่มีโอกาสได้สัมผัสเรียนรู้มาโดยตลอด

ขอบคุณรุ่นพี่ที่หยิบยื่นโอกาสและสร้างสิ่งดี ๆ ให้เสมอมา ขอบคุณเพื่อน ๆ น้อง ๆ ที่ได้เดินร่วมเส้นทางเดียวกัน ตะวันลับขอบฟ้าในวันนี้ แต่มันก็ยังโผล่มาส่องแสงสว่างในวันหน้า (คงเป็นคำพูดที่สวยหรูเกินไปสำหรับหลาย ๆ คน) อย่างน้อยสิ่งที่มีคุณค่าได้เกิดขึ้นแล้วในชีวิตผม เพียงพอแล้วกับความภูมิใจเป็นที่สุดสำหรับผม

ครั้งหนึ่ง…ผู้ชายเลว ๆ คนนึงได้ถูกปลูกจิตสำนึกขึ้นมาจากกิจกรรมในรั้วมหาวิทยาลัย ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบกิจกรรมเหล่านี้มาก่อนเลย เรียน เที่ยว เล่น ไร้จิตใต้สำนึกอันลึกซึ้งของความเป็นคน บัดนี้กลับมานั่งทบทวนและด่าทอพฤติกรรมของตัวเองโดยสิ้นเชิง มีบ้างที่ยังเปลี่ยนไม่หมด อย่างน้อยมันก็ยังทำให้ความสำนึกต่อสังคมดีขึ้นกว่าเก่า อยากจะเป็นคนดีของสังคมเหมือนคนอื่น ๆ หลาย ๆ ครั้งที่รู้สึกท้อแท้แต่ก็ไม่เคยคิดจะทอดทิ้งความตั้งใจเหล่านี้ มีคนอีกเยอะที่ไม่มีโอกาสได้ทำกิจกรรมแบบนี้ แต่เค้าก็เป็นคนดีได้ การเป็นคนเลวมันง่ายแต่การเป็นคนดีมันยาก ตอนนี้สังคมเปลี่ยนไป การครอบงำจากวัตถุนิยมทำให้คนเลวมีมากขึ้น สังคมเน่าเฟะ ถูกหนอนชอนไชจนแทบจะไร้ทางเยียวยา แต่คนก็ยังเห็นเป็นสิ่งที่ดีเพื่อตอบสนองความอยู่รอดและความสะดวกสบายของตัวเอง จริงหรือยุคมืดกำลังจะเกิดขึ้นแล้วกับโลกใบนี้ มันเป็นสิ่งที่ต้องยอมรับมัน ถ้าคนในสังคมปัจจุบันยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อารมณ์ ความโลภ เห็นแก่ตัว ฯลฯ ล้วนเป็นสิ่งที่กัดกร่อนสังคมและภาวะจิตใจของตนเอง อีกทั้งยังเบียดเบียนผู้อื่นที่มีสถานะด้อยกว่า จนกลายเป็นลูกโซ่ของการแก่งแย่งชิงดี ความต่ำทรามบรรลุเป้าหมายของมัน ส่วนความสงบสุขถูกบีบคั้นให้แตกสลายไป สังคมจะเป็นอย่างไรคงไม่ต้องเดา

ดีใจ…ที่ได้ทำหน้าที่กรรมการของกิจกรรมเพื่อสังคมโดยแท้จริง อย่างค่ายอาสาพัฒนาชนบทเป็นครั้งสุดท้ายในบ้านเกิดตัวเอง

ภูมิใจอย่างยิ่ง

น้ำโขง

22 ตุลาคม 03

ไม่คิดว่าเวลาจะผ่านไปเร็วอย่างนี้ จำได้ว่าเพิ่งออกจากกรุงเทพมาแป๊ปเดียว แต่นี่ก็ผ่านมาเป็นอาทิตย์กว่า ๆ แล้ว แรก ๆ ที่มารู้สึกว่าไม่ค่อยสนุกเท่าไร ทำอะไรก็ค่อนข้างรู้สึกอึดอัด น่าเบื่อ พอเวลานานขึ้น อะไร อะไรก็ลงตัวมากขึ้น รู้สึกดีกับค่ายฯ ทำอะไรก็อยากเก็บไว้เป็นความทรงจำทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นเพื่อน งานที่ได้ลองทำหรือแม้แต่วิถีชีวิตชาวบ้านที่ได้เรียนรู้ รู้สึกว่าเป็นประสบการณ์ที่ไม่สามารถหาได้จากในมหาวิทยาลัย มีความรู้สึกว่าเราโตขึ้น เอาแต่ใจตัวเองน้อยลง รู้จักปรับตัวมากขึ้น.

นอกจากนั้นรู้สึกว่าจะชอบเพลงแนวเพื่อชีวิตมากขึ้น (รวมถึงเพลงปฏิวัติด้วย) อาจจะเป็นเพราะโดนเปิดให้ฟังทุกวัน ๆ จนรู้สึกว่าเป็นส่วนหนึ่งไปแล้ว

P.S. ชอบกองไฟ…และดาวบนฟ้ามาก ดีใจมาก ๆ เลยที่ได้มา

ยาหม่อง


เสื้อค่าย รุ่นโรงเรียนในฝัน ค่ายฯ 17 ค.หนองคาย ด้านหน้าเป็นรูปวาดง่าย ๆ ที่เราเห็นมาจากกำแพงในห้องเรียนของค่ายที่แล้ว (เชียงราย) เลยนำมาใช้ ส่วนด้านหลังเป็นการออกแบบของเพื่อนจากศิลปากร รุ่นนี้มีความผิดพลาดในการผลิตคือ ชื่อมหา’ลัย สะกดผิด เป็น “อัสสัมชัน”


จุลสารค่าย ฉบับที่ 29
ปลาเป็น-ปลาตาย เล่มที่ 16 ประจำค่ายฯ 17 (หนองคาย)