พี่คะ… ฉันรู้สึกว่านานเหลือเกินที่เราไม่ได้พบกัน… อาจเป็นเพราะโลกของฉันมันหยุดนิ่งมานานเกินไป หัวใจมันอ่อนล้าเกินกว่าจะหยิบจับปากกาขึ้นมาขีดเขียน…

ฉันเขียนจดหมายฉบับนี้ ภายใต้แสงของดาวดวงหนึ่ง เขียน… ทั้ง ๆ ที่ไม่รู้ว่ามันจะเดินทางไปถึงพี่รึเปล่า แต่ฉันก็ยังเต็มใจที่จะทำ เพราะมันเป็นหนทางเดียวที่จะทำให้เราได้พบกัน

ตอนนี้พี่อยู่ที่ไหนนะ? อยู่บนสรรค์.. บนฟ้า.. หรือ บนดาวดวงนั้นที่ฉันกำลังจ้องมองอยู่ พี่กำลังมองมาที่ฉันอยู่มั้ย… แล้วเห็นหยดน้ำตาของฉันรึเปล่า… ฉันอายจัง (เพราะเคยสัญญากับพี่ว่าฉันจะไม่ร้องไห้อีก แต่ก็ไม่เคยทำได้เลยสักที)

ฉันแค่อยากจะเขียนมาสารภาพอะไรบางอย่าง (บางครั้ง…ฉันอาจจะเผลอเล่าเรื่องนี้ให้พี่ฟังแล้วก็ได้)

มันเป็นคืนที่ฉันนอนไม่หลับ… ก็พี่น่ะ… ออกไปแต่หัวค่ำ จนป่านนี้ยังไม่ยอมกลับมา ฉันรอ… รอจนกระทั่งม่อยหลับไป รู้สึกตัวขึ้นมาอีกที ก็เห็นพี่ปล่อยตัวเองนอนตากยุงอยู่ข้างนอกแล้ว ฉันทั้งโกรธพี่ ทั้งโกรธยุงพวกนั้นที่มันมารุมตอม รู้มั้ย… พี่น่ะ เมามายไม่มีสติเอาเสียเลย ไม่มีแรงแม้แต่จะลุกขึ้นมาปัดป้องตัวเองจากยุงตัวเล็ก ๆ พวกนั้น ลำบากฉันที่ต้องคอยมาไล่มันออกไป

อย่ามากัดพี่ชายของฉันนะ ไอ้พวกยุงบ้า… พี่ฉันจะพักผ่อน พรุ่งนี้เค้ามีภาระที่จะต้องทำอีกมาก พวกแกรู้มั้ย…!!?

ฉันชอบมองเวลาที่พี่หลับ มันคงเป็นเวลาที่พี่ได้คลายจากความเมื่อยล้า พี่ชอบทำตัวเหมือนคนแบกโลกทั้งใบว้บนบ่า ทั้ง ๆ ที่ใครต่อใครต่างก็รู้ดีว่า โลก…มันมีเอาไว้ให้เหยียบย่ำ พี่รู้สึกหนักบ้างมั้ย? ฉันอยากช่วยพี่แบกบ้างจัง แต่บ่าของฉันมันคงเล็กเกินไป ฉันนั่งไล่ยุงอย่างนี้ก็ดีอยู่แล้ว ได้เห็นพี่วางมันลงตอนที่พี่หลับ

พี่ชอบทำเป็นดุให้ฉันกลัวเหมือนเสือตัวใหญ่ แต่พี่รู้มั้ยว่าสภาพของพี่ตอนนี้มันทำให้ฉันนึกถึงลูกแมว 3 ตัวที่เคยเลี้ยงสมัยยังเด็ก มันเป็นลูกแมวตัวเล็ก ๆ ที่ยังไม่ลืมตาดูโลกเลย ฉันเห็นมันหลับอยู่ในความมืด มีฝูงยุงมาตอมมันบ้าง… กัดมันบ้าง… มันอ่อนแอมาก ไม่มีแรงที่จะต่อสู้กระทั่งกับยุงตัวกระจิดริด ฉันรู้สึกสงสารพวกมันจัง คิดว่า… ถ้าเอามันเข้าไปนอนด้วยท่าจะดี แต่แม่ไม่อนุญาตหรอก แม่ไม่เข้าใจฉันเลยสักนิดว่าฉันกลัวมันตายมากแค่ไหน กลัวว่าพอถึงพรุ่งนี้เช้า ลูกแมวของฉันคงจะถูกสูบเลือดจนตายหมดแน่ ฉันได้แต่นั่งร้องไห้อาลัยอาวรณ์กับมัน พอโตขึ้นมาหน่อยถึงได้รู้ว่าไม่เคยมีใครถูกยุงกินเลือดจนหมดตัวหรอก…

พี่คะ เวลาพี่หลับน่ะ ดูน่ารักเหมือนลูกแมวของฉันเลยล่ะ

ว่าแล้วฉันก็หยิบเอาโลชั่นกันยุงมาทาให้พี่ ไม่นานยุงพวกนั้นก็หนีไป (ไม่รู้ว่ามันเข้าใจในสิ่งที่ฉันบอก หรือเพราะโลชั่นมันออกฤทธิ์กันแน่) หมดภาระของฉันแล้วล่ะ ฉันก็ไปนอน สิ่งที่ฉันจะสารภาพก็คือ ฉันไม่เคยใจดีกับใครแบบนี้มาก่อน นอกจากพี่ ก็เท่านั้นเอง

ฉันเคยสงสัยด้วยว่าใครจะมาเป็นเจ้าสาวของพี่ ใครกันจะเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนนั้น เขาต้องเป็นคนน่ารัก จิตใจดีใช่มั้ยคะ? ฉันยินดีเสมอที่จะได้เห็นคนรักกัน โดยเฉพาะคนที่ฉันรัก แม้ตัวฉันจะหลบหลีกเรื่องนี้สุดชีวิตก็ตามที แต่พี่บอกว่ามันเป็นธรรมชาติของคนเรา ความรัก การแต่งงาน มันเกิดขึ้นได้กับทุกคน

ฉันเลยแอบคิดไปว่า ถ้าวันนั้นของฉันมีจริงขึ้นมา คนแรก…ที่ฉันจะพาเขาไปแนะนำให้รู้จักก็คือ…พี่ ฉันจะถามพี่ว่า “พี่คะ ผู้ชายคนนี้ เค้าดีพอสำหรับฉันแล้วหรือยัง?”

เรื่องราวระหว่างเราคงจะดำเนินอย่างนี้ต่อไปเรื่อย ๆ ใช่มั้ยคะ ถ้าไม่เกิดเหตุการณ์ในวันนั้นซะก่อน เหตุการณ์ที่ฉันไม่เคยยอมรับได้เลยซักวันว่ามันคือความจริงที่เกิดขึ้น วันที่ฉันต้องสูญเสียพี่ไปตลอดกาล…

พี่บอกว่า ฉันมันเด็กดื้อ เด็กวุ่นวาย ชอบโอ้อวดตัวเอง พี่จึงลงโทษฉันโดยการจากฉันไปโดยไม่กลับมา พี่เพียงแต่บอกกับฉันในวันนั้นว่า ฉันต้องเข้มแข็ง… และอย่าร้องไห้ แต่มันไม่ยุติธรรมเลยสำหรับฉันเลยสักนิด พี่ไม่เคยถามเลยสักคำว่าฉันจะอยู่ได้อย่างไรกันถ้าโลกของฉันไม่มีพี่อยู่ โลกของฉันจึงปิดเงียบตั้งแต่นั้นมา…

มันคงปิดเงียบมานานเกินไป เลยดูมืดมิดอยู่แบบนี้ มันควรจะตื่นขึ้นมา… ถึงมันจะไม่หมุนรอบพระอาทิตย์อย่างน้อยก็ควรหมุนรอบตัวเองบ้างใช่ไหมคะ ไม่อย่างนั้นแล้วมันคงหยุดนิ่งชั่วกาล และกลายเป็นเพียงสิ่งไร้ค่าที่แห้งตายอย่างโดดเดี่ยว ฉันดีใจจังที่รู้ว่า… ความจริงแล้วตัวเองยังมีแรงพอที่จะหยิบปากกาขึ้นมา ขีดขียน และสิ่งที่ฉันเลือกเขียนถึงก็คือพี่…

พี่หลับสบายดีมั้ยคะ… บนดาวดวงนั้น ยังออกมานอนตากยุงเล่นอยู่รึเปล่า ฉันห่วงพี่นะ…รู้มั้ย ถ้าพี่รู้ว่าฉันรักพี่มากแค่ไหน พี่คงไม่ใจร้ายกับฉันแบบนี้… ฉันรู้

ตราบที่ดวงดาวยังคงส่องแสง พี่ยังคงเฝ้ามองฉัน… ฉันรู้

ธิดามนต์ พิมพาชัย