“มูจิ เป็นบริษัทที่ไม่มีอะไรเลยครับ” คุณ Kanai Masaaki ประธานกรรมการบริษัท Ryohin Keikaku ผู้บริหารแบรนด์มูจิเอ่ยขึ้นมา

มูจิ ไม่มีเทคโนโลยีหรือนวัตกรรมในการผลิตสินค้า
มีแค่ดีไซเนอร์

มูจิไม่มีโรงงานเป็นของตัวเอง ต้องจ้าง Supplier ผลิต
ไม่มีที่ดินร้านเป็นของตัวเอง ต้องเช่าคนอื่นเขา

สิ่งที่มูจิมี คือมีแค่ “พนักงาน” เท่านั้น

และนี่คือ สมบัติอันล้ำค่าของมูจิ มีแค่พนักงานเท่านั้น ที่จะสามารถสร้างคุณค่าให้กับบริษัทได้

มูจิ จึงมี KPI (ดัชนีวัดความสำเร็จ) ด้านพนักงานง่ายๆ ที่ผู้บริหารมูจิต้องคำนึงถึงเสมอ (และโดนประธานบริษัทถามเสมอ)

ได้แก่

ด้านที่ 1: บริษัทที่เห็นอกเห็นใจกัน

1. พนักงานจิตใจดีไหม
2. พนักงานมีความคิดสร้างสรรค์ไหม
3. ธุรกิจมีกำไรพอเพียงที่จะหล่อเลี้ยงตัวเองไหม

ด้านที่ 2: พลังของพนักงาน

4. พนักงานยังรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานที่มูจิไหม
5. พนักงานเคารพกันและกันไหม
6. พนักงานมีทักษะการทำงานที่พอเพียงไหม

ด้านที่ 3: ค่าตอบแทนที่น่าอวด (คนอื่น)

7. พนักงานรู้สึกสบายใจที่ทำงานที่นี่ไหม (ไม่กังวลหรือห่วงอนาคตข้างหน้า)
8. งานท้าทายพอไหม
9. เงินเดือน เป็นที่น่าพึงพอใจไหม

คำถามเหล่านี้ อาจวัดเป็นตัวเลขไม่ได้ แต่ทุกครั้ง ท่านประธานฯ จะให้หัวหน้าลองให้คะแนนแผนกของตัวเองดู

แต่ละหมวด แต่ละข้อ…เต็ม 10 คะแนน เราได้เท่าไร และให้คิดเอง แผนกตนเอง ขาดเหลือประเด็นใดไปบ้าง

บริษัททั่วไปกำหนด KPI เน้นไปที่ผลประโยชน์ของบริษัท ยอดขายเท่าไร… ปริมาณของเสียไม่เกินกี่ % ความพึงพอใจของลูกค้าไม่ต่ำกว่ากี่ % เพิ่มทักษะของพนักงานได้เท่าไร

แต่สิ่งที่ผู้บริหารมูจิต้องถามตัวเอง กลับมี “ความรู้สึก” ของพนักงานผสมผสานอยู่เต็มไปหมด เช่น “เราจะสร้างบริษัทที่เห็นอกเห็นใจกัน” “พนักงานรู้สึกภูมิใจที่ได้ทำงานที่นี่ไหม”

หรืออย่างเรื่องผลตอบแทน มูจิไม่ได้บอกว่าจะให้ “ผลตอบแทนที่สูง” แต่เขียนว่า ผลตอบแทนที่ดีจน “อยากอวด” คนอื่น ช่างเป็น KPI ที่คิดถึงความรู้สึกพนักงานเหลือเกิน

Key Performance Indicator (KPI) ทั่วไป เป็นตัววัดที่ถูกตั้งขึ้นมาเพื่อ “เช็ค” ประสิทธิภาพของพนักงาน แต่ KPI ของมูจิ กลับถูกตั้งขึ้นมา เพื่อให้ผู้บริหารเช็คง่ายๆ ว่า พนักงานยังมีความสุขกับการทำงานที่นี่อยู่หรือเปล่านะ

KPI ทั่วไป คือ การตรวจสอบ การควบคุม ส่วน KPI มูจิ คือ การสังเกตความรู้สึกของพนักงาน

ถ้าเปรียบกับชีวิตคู่ KPI มูจิ ก็คือการที่บริษัทจูงมือพนักงานเดินไปด้วยกัน และคอยหันไปถามคนที่เดินอยู่ข้าง ๆ ว่า “เธอยังมีความสุขที่ได้อยู่กับฉันอยู่นะ?”

สัมผัสได้ถึงความรัก ความห่วงใย

มูจิอาจไม่มีเทคโนโลยีที่ล้ำสมัย หรือทรัพย์สินคงที่จำนวนมหาศาล

แต่มูจิสามารถครอบครอง (จิตใจ) พนักงาน …ที่รักและศรัทธาในปรัชญาของแบรนด์ที่ภูมิใจในงานที่เขาทำอยู่ และที่รู้ว่า ทุกงานของพวกเขาเป็นประโยชน์ต่อสังคมอย่างไร

เกตุวดี Marumura
Japan Gossip