วันใหม่วันไหนวันผ่าน..หวานใด!ขมขื่น!วันใหม่…เวียนมาวันไหน…คิดถึงซึ่งคิดถึง…ซึ่งห่วงหาแห่งศรัทธาของเราหากเอกภาพอันยิ่งใหญ่เหมือนรักที่ยืนยงขอเธอจงเชื่อใจในความใฝ่ฝันนั้น ๆ ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
บทกวี – ดาวดิน
แสงสายสอดสาดส่องดาวเรืองรองบนแผ่นดินปกคลุมด้วยไพรภิณฑ์ระบายกลิ่นทั่วดินดาน ปาดป้ายปูห่มพื้นข้างหินชื้นเด่นตระการแผ่คลุมทั่วไพรศาลอยู่คู่กาลนานสมัย สีสันแสนสดสวยแม้สำรวยไร้กลิ่นละมัยอิ่มเอมอบอุ่นนัยดวงฤทัยเกษมสันต์ ถ้าเดินบนดาษดินโกฐบัวนิลอวดสีสันครั้นแย้มแซมไพรวัลย์อีกหนึ่งฝันคู่พงไพร แสงสายแม้นอ่อนล้าเลือนลับลาเดี๋ยวคืนใหม่ใบแกแลร่วงไปยอดอ่อนใหม่ใบแทนมา มองโลกสีแสนเก่าภายใต้เงาเผ่าพนาสองมือที่มีค่าเติมแต่งป่าให้โลกงาม ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
ชีวิต…
ชีวิตถึงคราต้องโบยบินแม้ปีกที่หลุดลอยคล้อยจากร่างงามยังต้องต่อสู้ จงทำอะไรก็ได้ ที่คิดว่าเรามีค่าจงทำอะไรก็ได้ อย่างที่ใจเราปรารถนาจงทำอะไรก็ได้ ที่ทำให้คนอื่นรู้สึกเห็นคุณค่าของเราจงเดินไป บินไป ไปให้ไกล หกเหินบนฟากฟ้าอย่างอิสระเสรีหรือล่องลอยไปหาจุดหมายที่แสนไกลแล้วให้ถึงบางอย่างเหมือนมันจะไร้ค่าแต่ไม่เคยเลยจะไร้ค่า เดินเถิด…เดินไป!บินเถิด…บินไป! สู่จุดหมายและหนทางอิสระเสรี …
วัย วัน หวัง
นิ่งเงียบทำไมเด็กสาว….ยามเย็นแห่งกลางฤดูหนาวเยือนเข้ามาแล้ววัยเจ้าย่างเหย้าเพิ่มเข้าอีกฤดู ลมหายใจเจ้าถูกลบถอยลง…ความจริงโอบกอดเจ้าตัวเจ้าสั่นเทาเมื่อเจอะเจอผู้ผ่านทาง เย็นย่ำนี้… กลางฤดูหนาวนี้เจ้าอย่าสงสัยในคนผ่านทางวันหนึ่งกาลหนึ่ง….เจ้าจักต้องเดินทางผ่านใครไปสักคนเหมือนคนผ่านทางวันหนึ่งเจ้าจักเป็นความเงียบที่ถูกครอบครองด้วยไอแห่งความวังเวง เมื่อวัยเจ้าต้องพบกับฤดูหนาวสุดท้าย…เจ้าอาจจะเป็นดั่งดาวดวง หรือดาวอาจเป็นเฉกเช่นเจ้าฤดูหนาวจะผ่านไปแล้ว เด็กสาวจะเดินทางผ่านเจ้าไปเงียบ ๆผ่านไป และผ่านไป ไม่กลับมา! …
บอกฉันสิ
หยาดน้ำค้างหรือที่พรมหน้าหรือเธอจะเอาผ้าเช็ดหน้าซับให้มีสีแห่งฝันกับเวลาของวันติดที่แก้มหยาบนั้นมีแสงแห่งวันแต้มติดที่แก้มงามนั้นบอกเธอสิ เช็ดมันให้เธอสิ ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
นักเดินทาง
เราเดินทางมานานนะ หนึ่งปี สองปี สามปี สี่ปี ห้าปีและ…วันนี้ จากเหนือจรดใต้ จากขอบฝั่งหนึ่งของแผ่นดินไปถึงอีกขอบฝั่งหนึ่งของแผ่นดิน เดินทางด้วยรองเท้ายาง… เป้ใบใหญ่บนหลังที่สำคัญความฝันที่แบกไปทั่วทุกทิศ …
บทกวี – เจ้าเป็นเจ้า… มีใครว่า
เจ้าจะไหลก็ไหลไปเถอะน้ำเจ้าจะงามก็งามอยู่อย่างนี้เจ้าจะหวนหรือเหคืนกี่ทีเจ้าก็คือสายชีวีของผองชน เจ้าจะหยุดดุจไหลดั่งคมเหล็กเจ้าจะเสกหรือปั้นอย่าสับสนเจ้าจะล่องจะลอยสู่เมืองมนต์เจ้าจงคงเป็นเจ้าเถอะธารา เจ้าจะเอ่ยจะร้องบทเพลงไหนเจ้าก็จงไหลไปอย่างมีค่าเจ้าจงไหลเลื่อนไหลใต้เมฆาเจ้าจงหยัดคู่โลกหล้าที่ว้าวุ่น เจ้าจงสร้างธารฝันแห่งวันใหม่เจ้าจะสร้างสิ่งใดอย่าดับสูญเจ้าจงอยู่ไหลล่องรับอรุณเจ้าการุญคุณเจ้ามากบรรยาย ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
เสียงกระซิบของสายลม
เสียงกระซิบของสายลมกระซิบมาแผ่วเบา เบา เบา เมื่อค่อนรุ่งอรุณยิ้มเรียกหาเธอที่ขอบเขา? เรียกหาให้ภาวนาขอเธอให้หวนคืนรอเธอค่ำเช้าความฝันในเมืองแห่งความจริงที่หายไปเมฆครึ้มทะมึนก่อร่างทิวเมฆหนาเป็นระนาบที่ขอบฟ้า ริ้วฟากฟางเอนอ่อนสายลมและกาลสมัยโอบร่างอยู่นานชั่วนาตาปี อีกปี อีกปี….และอีกปีฉันสารภาพกับละอองแสงผสมละอองฝันอันแสนไกล ฉันรู้คืนวันโกหกฉันเวลาก็หลอกฉันด้วยเช่นกันหลอกมาอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ครั้งหนึ่งที่ได้รับรู้ว่าความฝันของฉันเริ่มมีตัวตนความสับสนน่ากลัวต่าง ๆ …
บทกวี – แสงใหม่ และ มือแม่
โอ้เอย เจ้าเด็กน้อยที่อ่อนไร้เจ้าสงสัยในสาดแสงที่ผ่านม่านแห่งวัยฝันหรือไรเล่า… จงรู้เทิดรู้ไว้… เจ้ายังต้องผ่านวันวัยยาวไกลอีกนานเนิ่น…เจ้าจะต้องได้ดุ่มเดินบนด่านฝันอันสุดปรารถนาแม่เฒ่าเฝ้าเหย้าเฮือนอยู่อย่างพันผูกเจ้าดุจดวงใจ เจ้าเห็นไหม!สาดแสงแห่งรุ่งอรุณและนั่นความอ่อนละมุนของมือแม่… โอ้เอย เจ้าเด็กน้อยเจ้าจงคอยมองแสงหม่นของคืนค่ำอยู่คู่ดูแลแม่… ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
ชายชรา
สายลมผวนพัดผ่านขณะที่เรากำลังเดินทางผ่าน ภาพเบื้องหน้าโปร่งโล่งไร้ทุกสิ่ง ไม่มีพันธนาการในมาโอบกอดเอาไว้นอกจากสายลมและช่วงกาลเวลา มีเสียงกวีเศร้า ๆ ปนเหงาลอยล่องมาเบา ๆ ให้ได้ยินจากที่ไกลแสนไกล พลันนั้นฉันพบกับ ชายชรา! ชายผู้นี้ฉันเคยพบจากหมู่บ้านหนึ่งที่อีกฟากของแผ่นดิน แต่เรา! …
บทกวี – ทิวบรรทัด
รินหลากรด หยดพรำ กำเนิดก่อเกิด เชิดชูกล้า มาใหม่แตกก่อ ก่อร่าง กลางไพรแตกใบ วัยเยาว์ เผ่าพรรณ ฝนโปรย …
ชีวิต…ต้องการอยู่กับสิ่งใดกัน
ชีวิต…ต้องการอยู่กับสิ่งใดกันชีวิต…ต้องการเรียนรู้สิ่งใดหรือ หรือ…ชีวิต ต้องการเสียงหัวเราะเหมือนสายน้ำที่ไหลไม่ย้อนกลับหรือ…ชีวิต ต้องการความอ่อนหวานเหมือนดอกไม้แย้มผลิบานหรือ…ชีวิต หรือต้องการสิ่งใดรอบข้างปลอบใจในคืนหม่น ดวงตะวันยังทอแสงแม้นมีห่าพายุฝนบดบังยอมอ่อนล้ารับความฝันที่ผ่านไปกับสายลมธารธาราร้องเพลงเศร้า ๆ รับเสียงสายลมที่โหยหวนก้อนหินร้องเพลงเหงา ๆ บอกพรรณพฤกษาอยู่ชั่วกาลชาวไร่แบกจอมเสียมกลับบ้าน…ใต้ดวงจันทร์อีกฟากกลับมีฝนพรำเบา ๆ กล่อมใจในวันพรุ่ง ก่อคเณศ …
เรือลอยลำต้องสายแสงแห่งรุ่งอรุณ
“เอก… ตื่นได้แล้วลูก ตะวันจะกินสันเขาหมดแล้ว เมื่อวานเราใส่ตาข่ายใหญ่ไว้ด้วย ไป! เดี๋ยวพวกชักแอบเอาปลาเราไปหมด” เสียงของพ่อนั่นเองที่ปลุกให้ เอก ลุกจากที่นอนใช้สองมือลูกลำโขงขยี้ตา “เช้าแล้วหรือพ่อ” เอกถาม “ใกล้แล้ว… …
บทกวี – นาชีวิต
ก็แค่ดิน ในนา ป่าในเขาก็แค่น้ำ สายยาว ที่คงไหลก็แค่นา หนึ่งแปลง บนโลกอันกว้างไกลก็แค่ป่า พงไพร ในชีวิต ฤดูฝัน …
บทกวี – ก็อยากจะ…
ก็อยากจะเขียน…เพลงฝันมาปันเจ้าก็อยากจะเขียน…เพลงเหงารักที่ห่างหายก็อยากจะกล่อม…ปลอบใจเจ้าให้มันคลายก็อยากจะเป็น…คนช่วยระบายยามทุกข์ตรม ก็อยากจะควง…แขนนั้นก้าวเคียงคู่ก็อยากจะอยู่…เป็นเพื่อนรักอย่างสุขสมก็อยากจะร้อง…เพลงรักจากดาวโดมก็อยากจะสุข…สมรักฝากเจ้าใจ ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะบ้านนครพนม, 26 พฤษภาคม 2557
บทกวี – ดอกไม้ชรา
ราวดอกไม้ชรา ริมถนน ที่ทนสู้หยัดยงคงอยู่ ริมชลานั้น ไม่ไปไหนกร้าวกล้าแกร่ง คนทน อยู่เรื่อยไปเกราะกุม เกี่ยวใจนั้นไว้ จะดูแล! เหี่ยวแห้ง …
บทกวี – นครพนม
นครพนม… ดินแดนแห่งมนต์ขลังสาวงามสองฝั่งลำน้ำของหมอกเมยห่มคลุมทุ่งทองฝากใจกับหมอกหมองใหม่ในสายแสง ย่ำรุ่งอรุณฉายนครพนมงดงามมิได้แสร้งทิวทัศนียภาพแปลงในทิวหมอกขาวใต้สายแสงแห่งอรุณ ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ30 เมษายน 2557
มิติสัมพันธ์ การเดินทาง วิถีชีวิต มิตรภาพและเส้นทางใหม่ที่เรามุ่งไป
บางครั้งที่ฉันเพื่อนพ้องและน้องพี่ออกเดินทางสู่พงพีและหุบเขาย่างเหยียบย่ำเยาะเหยียบย่องล่องลุยสู่ลำเนาด้วยจิตใจแกร่งก้าวเกินที่เรามุ่งไป ผ่านหุบเหวขุนเขาทั้งใหญ่น้อยผ่านล่องรอยสัตว์สากี่ขวากไหนก็จับมือกันและกันออกก้าวไปเพื่อค้นหาเรื่องราวมากมายมาให้ชม…. ช่วงหนึ่งของชีวิตคน ช่วงหนึ่งของวัยหนุ่มสาว การเดินทางท่องป่าในชีวิตสักครั้งถือเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคน พวกเราก็เช่นกัน มันเป็นเรื่องท้าทายของใครบางคน มันเป็นเรื่องอันยิ่งใหญ่ของช่วงวัยชีวิต คุณคิดดูสิว่า ครั้งหนึ่งคุณเคยมีเป้ …
ศิลป์ สาน สัญจร ภาพสะท้อนความสุข สู่ชุมชน : กลุ่มมาลัยดาว จ.สงขลา
ศิลปะกับนักขับเคลื่อน กลุ่มมาลัยดาว ถือเป็นกลุ่มคนทำงานทางด้านศิลปะที่เกิดขึ้นจาก “พี่เณศ” ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ พี่ใหญ่ของกลุ่มที่คิดจัดตั้งกลุ่มเยาวชนขึ้นมาเพื่อทำงานศิลปะกับชุมชน โดยมุ่งเน้นส่งเสริมงานศิลปะให้สอดคล้องและบูรณาการเข้ากับวิถีชีวิตของชุมชนมากกว่าที่จะใช้งานศิลปะเพียงแค่การวาดภาพหรือร้องรำทำเพลง “พี่เรียนจบปริญญาตรีมาทางศิลปะ จบใหม่ …
บทกวี – สานศิลป์…รักถิ่นเกิด (ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ)
สานศิลป์…รักถิ่นเกิดโลกบรรเจิดจากศิลป์สานจากอดีตมายาวนานผ่านตำนานกาลยืนยง สองมือของวัยเยาว์สองตาของผู้เฒ่าเฝ้ามั่นคงเลือนรางมิจบลงรุ่นต่อรุ่นคงก้าวไป เกิดเป็นเรื่องเล็กเล็ดแตกจากเม็ดผลิบานใหม่ขมขื่นชื่นกันไปร้อยหลากหลายศิลปะ สานศิลป์เพื่อวิถีทั้งดนตรี กวีวาทะรูปแบบแห่งอิสระ-เสรีแห่งจินตนาการ จากรุ่นสู่อีกรุ่นร่วมลงทุนร่วมสืบสานหลายแรงเป็นหลายล้านเพื่อสร้างสานบ้านของเรา วัฒนธรรมนำก่อเกิดความบรรเจิดมาร่วมสร้างเขียนเพลงบรรเลงทางต่างร่วมผสานสร้างสามัคคี ดนตรีแม้แตกแขนงแต่ไม่แกร่งแย่งแบ่งศักดิ์ศรีเส้นบรรทัดเขียนกวีเส้นดนตรีสร้างเยาวชน คนหนุ่มและคนสาวฝันถึงคราวดาวร่วงหล่นแสงงามกลางเมืองมนต์ไม่น่ายลให้หลงมอง เพราะเมืองดูแปลกตาวิถีอันมีค่าดูเศร้าหมองดาวงามดูละลองแผ่นดินร่ำร้องหาสิ่งงาม …
ดอกไม้
สีของเจ้าดูสวยสดใสในวัยเยาว์กลีบบอบบางมาเยือนโลกใหม่ไก่ขันและเงียบไปเมื่อตะวันยิ้มร่ากลิ่นของเจ้าโชยกรุ่นหอมหวนให้สิเน่หาวันเวลาสม่ำเสมอ สรรพสิ่งกร่อนผุไปตามกาลเวลาสายลมหนาวหอบหิ้วไออุ่นเย็น ๆ ที่ซ่อนละอองฝนใหม่ฟ้าขับกล่อมแผ่นดินเป็นหยาดน้ำเสียแล้วอีกครั้ง… ลำนำกวีคือ เสียงฝนกระทบยอดใบแรกที่แต้มฟ้าอันสูงเทียมเมฆแผ่นดินที่เจ้าล้มตัวลงเหยียบแนบนอนเนาได้รับหยาดน้ำนั้นโอ้หนอ กลีบกายเจ้าเปียกปอนน้ำใสชะชอนไปทั่วเรือนร่างเจ้าแอบอิจฉาแม้สายลมหนาวจับมือสายลมฝนเดินเข้ามาหาอีกครั้ง… กลีบโรยร้างไร้เรี่ยวแรงเมื่อเช้าวันใหม่มาเยือนตะวันอ่อนแสงอยู่คงเดิมดูไร้แรงแห่งวันลงกว่านี้เสียงนกกลับหลังร้องหาลูกๆทั่วทุ่งหนาแห่งมวลชีวิตเจ้าเอยดอกไม้หุบกลีบงามเข้าหว่างดอกดวงสวรรค์คู่นั้นอยู่ในกลีบเงียบ ๆอยู่ในกลีบสวรรค์แห่งวัยชีวิตคอยส่งเสียงกวีกังวานไกลในในราตรีคอยส่งกลิ่นอันหอมไกลในกลางวันอีกครั้ง… ข้าเท่านั้นที่คอบเติมชีวิตให้เจ้าในทุก …
บทกวี – ระหว่างที่เดินทาง
ระหว่างที่เดินทางความอ้างว้างมายิ้มร่าเห็นฝนหล่นโรยระรินโปรยปรายมาเห็นเหล่าผู้อาสาฯ ต่างเดินทาง ระหว่างที่แรมรอนเห็นคนพเนจรเหงื่อโทรมร่างเห็นพี่เห็นน้องในความต่างเห็นน้ำใสไหลหลั่งในตาหม่น ระหว่างที่เฝ้าดูเห็นศัตรูดูทุกข์ทนแดดแผดเผาเร้ารุกล้นกายเกล้ากรนร้อนรนใจ ระหว่างที่ออกเดินเผชิญโลกใบใหญ่ผ่านเข้าออกตรอกซอกซอยไปผ่านแยกถนนหนทางใหม่ในชีวิต ระหว่างที่คล้ายหนีราวจับพลัดจับผีอย่างไม่คิดหนทางเดินไกลใครลิขิตผ่านวันคืนไร้มิตรมาเยียวยา ระหว่างที่ร้าวรานคล้ายกับผ่านเมืองมายาแดนดลสับสนอุราแผ่นดินไร้ผู้อาสาอย่างจริงใจ ระหว่างที่หายหนีมีเพียงปากกาขีดกวีเป็นเพื่อนได้สมุดอาสาหมึกมารับใช้อยู่ภายใต้คมคำคิด ระหว่างที่หายหน้าเริ่มคิดถึงกลุ่มเพื่อนผู้อาสาอันสนิทโลกใบใหญ่แห่งชีวิตบนถนนที่เราตัดสินใจลิขิตเอง ก่อคเณศ …
บทกวี – เด็กและ
คำขึ้นต้น กำเนิดทุ่งแห่งฝัน…ดอ – เอ – กอ ไม้ไต่คู้ = เด็กรวมกันเป็นฝันใหม่เกี่ยวก้อยร้อยเรียงเรื่องราวอย่างหลากหลายจับร้อยดาวดวงใดยาวไกลกว่าฝันนี้ ดอ …
ช้าง
มีใครรู้ไหม ช้าง ต้องการป่าคนต้องพึ่งพาป่าพูดง่าย ๆ ก็คือต้องการป่า ช้างเดินทาง คนเดินทาง ป่าเดินทางไม่มีอะไรเลยที่จะหยุดนิ่ง หรือ อยู่กับที่เวลาเดินทาง …
ความเป็นมาเพลง รองเท้าแตะ (ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ)
พูดถึงเพลงนี้…. ข้าพเจ้าอยากขออนุญาตหัวเราะหน่อย เพราะเพลงนี้จริง ๆ แล้วมันเกิดจากการรับปากพี่นกเอาไว้ว่า “ผมจะแต่งให้นะ เพลงรองเท้าแตะ” แต่เมื่อเอาเข้าจริง… เวลาล่วงเลยผ่านไปหลายเดือนก็ไม่ได้แต่งสักที พูดง่าย ๆ ก็คือลืมนั่นเอง …
ความเป็นมาเพลง ใครเปิดไฟให้ดาว (ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ)
ใครเปิดไฟให้ดาว เพลงนี้ถูกเขียนขึ้นในค่ำวันนั้น มันเป็นวันที่ข้าพเจ้ากำลังง้วน วุ่น ยุ่งอยู่กับการเขียนบทความเพื่อแนบเอกสารประกอบ โครงการโรงเรียนร้อยหวันพันธุ์ป่า ม.3 ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เพื่อส่งไปยังที่ต่าง …
ป่าในกระเป๋าของชายหนุ่ม
ป่ายิ้มให้เด็กน้อย… สายน้ำรักษาบาดแผลของหน้าดินและความรู้สึกที่แตกร้าวให้เป็นแผลเดียวกัน เนื้อเดียวกันทีละนิด… ฝนหัวเราะร่าเริงเป็นหยดน้ำฉ่ำชื่น น้ำแตกกระเซ็นปลาเล็กนับล้านไล่ต้อนปลาช่อนยักษ์ที่เข้าไล่คลุกครามแผ่นดินตน ดอกไม้ริมน้ำเหี่ยว แต่กับสดขึ้นมาใหม่อีกครั้งเมื่อสาวน้อยคนหนึ่งลงแหวกว่ายเล่นในสายธารลำพัง ชายหนุ่มหนีหน้าจากเมือง โบกรถเข้าสู่ป่า ในกระเป๋าเป้ใบนั้นมีป่าจากเมืองอยู่ในกระเป๋าของเขา! …
บทกวี – หมานุด
ใครกันหนอที่สร้างโลกคนเกิดมาบริโภคซึ่งตัณหา…หลง-มักง่าย-กิน-ถ่าย-อุจาดตาใครกันหนา สร้างคนมา…คนไม่เป็นคน! ใครสร้างคนให้มีจิตอกุศลปุถุชนเดินดินกับบินได้…ข้ามจากโลกไปอีกโลก ถึงอีกโลกสุดแสนไกลกลับมาแล้วยังไง-ทำไม…ไกลแค่ไหนคนคือคน คนไป-คนมา…คนมา-คนไปผสมดี-ร้าย-จัญไรและปัญหายิ่งมากคนยิ่งมากความ-น่าเวทนาทุกข์โศกา-โลภา-ทุกขา-โลภัง ทุกจังชีวิตปนถูก-ปนผิด…ดับมอดมืดสนิทใครกันปลิดซึ่งขีดลิขิตลมหายใจใครกันหนาเอ่ยไว้ เรียกหมา-นุด คือ คน! ก่อคเณศ …
ภาพวาดของ อามีนา
อามีนา เด็กหญิงชอบวาดภาพ…แต่เธอไม่มีสีเด็กหญิงชอบวาดฝัน ฝันของอามีนาช่างงดงาม!เธอชอบวาดสายน้ำ…อามีนา อามีนา ชอบวาดรูป – รูปแห่งความฝัน…แต่เธอไม่มีแบบนกตัวนั้นอยู่ในฝันของอามีนา…นกที่โบยบินด้วยจินตนาการนกของเธอไร้ขน….เป็นเหล็กมีใบพัด…บินอยู่บนฟ้า? ลอยตัวอยู่เหนือน้ำ….มันมักเดินทางอยู่บนฟ้า…มันส่งเสียงดังน่ากลัวแต่เธอก็ชอบมองฟ้าของอามีนาอยู่แค่ปลายจมูก…ฝันอยู่ไกลสุดหล้า – นกไร้ขน …
บทกวี – รอยต่อหน่อเผ่าพันธุ์
ตระหง่าน งดงามพฤกษ์ ลึกลับสลับที่ ลี้ลับ ทิวเขาเงาแผ่ ห่มคุม ชุมนุมเราพันธุ์เผ่า ยืนยง คงบรรทัด สายธาร …
บทกวี – วลีนักรบดำ
ตอนที่ 1 – นักรบดำ เผชิญเหล่าผจญมารกล้าหาญผจญภัย…กำจัดศัตรูร้ายให้สยบแพ้พ่าย – แก่เรา – เหล่านักรบดำ เพื่อปก …
บทกวี – นักโบกรถของแม่
ชายสองคนต่างวัยออกเดินทางไกลหาฝันกลางคืนใต้ฟ้าใต้จันทร์บรรเลงเพลงฝันบันดาลใจ โบกรถรายทางใต้ดาวพราวพร่างสว่างไสวออกเดินรอรถล้อถ่อทางไกลได้บ้างไม่ได้บ้างอดทน… โบกรถสัญจรตะรอนแรมร้อนร้าวรนดาวจรจรัสจ้าจางฝนจันทร์หม่นดาวดลแจ่ม รถผ่านโบกพันรถหมื่นแสนทางคดใจแซมลมโชยบางคืนแอบหอมแก้มโอบกายแต้มใจให้หนาวสั่น… ชายสองคนต่างวัยมุมมองใหม่ในโลกนั้นบ้างดีมีสุขทุกข์ปนปันบ้างยิ้มพริ้มฝันผันผ่านเพียงสอง หนึ่งครูอีกหนึ่งศิษย์ประดิษฐ์ฝันร้อยกรองคืนหนึ่งนั้นพลันหมองอีกหนึ่งคะนองกับภาพใหม่ ย่ำผ่านบางเมืองสุขสนุกลืมทุกข์เข็ญเล่นกันไปพบบางเมืองยิ่งใหญ่บางเมืองน่ากลัว บางมุมโศกเร้าเคร่งเครียดบางครั้งเกลียดเรื่องหมองมัวบางครั้งพบชายชั่วบางครั้งพบหญิงมั่ว – ชายเลว… …
ดอกรัก
ดอกรัก… เธอคือหนึ่งในมวลชน เพี่อจุดมุ่งหมายและความปรารถนาของชายคนนั้น! เขากำลังหว่านล้อมเธอ….เขากำลังให้เธอหลงกลหลงหลุมพรางอันแยบยลยิ่งใหญ่…ดอกรัก! ดอกรัก… เธอคือความหวังของพ่อ… เธอคือความหวังดีของแม่… เธอคือความหวังของชายคนนั้น เธอคือส่วนประกอบหนึ่งของกองทัพโกงกินกองทัพธรรมะอสูร…เธอไม่รู้หรอกหรือ ดอกรัก… เธอคือตุ๊กตาตัวหนึ่งราคาถูก ๆ …
บทกวี – นาฬิกาเด็กน้อย
จากคืนค่ำย่างย่ำรุ่งอรุณฉายทอแววพรายสายทองรองเรืองวับขับแสงนวลชวนหลงตะวันขลับคืนลาลับ-วันแจ้งแห่งเวลา นาฬิกาเด็กน้อยคือรอยยิ้มน้ำเหงื่ออิ่มปริ่มสุขปลุกหรรษานวยนาดเน้นเป็นเรื่องราวธรรมดาอวดสายตาที่ร้อยสุขสนุกจริง จากสายแสงแรงกล้าในป่าหวันรุ้งทอตะวันเย็นยามอาบทุกสิ่งเผชิญหน้าจินตนามาประวิงวนเวียนวกสู่สิงแผ่นดินธรรม นาฬิกาเด็กน้อยคือร้อยรักษ์สืบ-สาน-สมัคร-ประจักษ์ล้ำคู่ป่าไพรเยาวมาลย์ในคืนค่ำล่องเลยสู่ลู่ล้ำคำบรรพชน ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะบางเหรียง, 24 กุมภาพันธ์ 2549