ไม่ค่อยเขียนเรื่องงาน ในแง่ของ “คนทำงาน” แต่วันนี้มีข้อสังเกตกับตัวเองนิดหน่อย
ครั้งหนึ่งในการสัมภาษณ์งานบริษัท Big Name แห่งหนึ่ง เขาให้ผมเล่าถึง “หัวหน้างาน” ผมเลยเล่าไปประมาณนี้
ผมมีเจ้านาย (หลัก ๆ) มาแล้ว 3 คน
คนแรกใจดีมากกกกกก (เกิน) ให้อิสระในการคิด-ทำ ได้ทำในสิ่งที่รัก ที่อยากทำ จนบางทีเราเหลิง บางทีก้าวร้าวต่อจุดยืนบางอย่าง บวกกับวันวัยหนุ่มมุทะลุ มั่นใจในตัวเอง
คนที่ 2 นี่ซับซ้อน เขี้ยวลากดิน มีวาระซ้อนเร้นแทบทุกตารางพื้นที่ชีวิต แม้นิสัยส่วนตัวจะดี สนิทสนม แต่พอเข้าโหมดทำงาน จะกลายเป็นอีกคนที่เพื่อบรรลุเป้าหมายแล้วยอมทำทุกอย่างได้ แม้จะแลกด้วยมิตรภาพ หรือความจริงใจ
คนที่ 3 ออกแนวเจ้าขุนมูลนายเล็กน้อย เจ้ายศเจ้าอย่าง คำสั่งไหนต้องตามนั้น เป๊ะ!! ไม่มีต่อรองกับความต้องการของตัวเอง แถมยังละเอียดถี่ถ้วน ทุกเม็ด ทุกขีด ทุกรอย ต้องเนียบสุด
ผมตอบไปแบบนี้แหละ (แต่เขาไม่เรียกผมไปทำงานนะ 555)
เราเรียนรู้และซึมซับสิ่งดีและไม่ดี จากทุกคนที่เราประสบ มันผสมปนเปกัน จนเป็นตัวเราแบบที่เป็นทุกวันนี้ มองอีกด้านผมก็เคยรับผิดชอบดูแล “ลูกทีม” อยู่เหมือนกัน แม้บางจังหวะงาน ผมไม่ได้เป็นหัวหน้าเขาโดยตรง แต่ก็เหมือนเราร่วมงานกันบนฐานที่ผมเป็นผู้อาวุโสกว่า แก่กว่าว่างั้น จึงอยากได้คำแนะนำอยู่เนือง ๆ เรารับผิดชอบทำงานใหญ่ ๆ มาก็ไม่น้อยนะ ทั้งเป็นส่วนหนึ่งการบริหารคลื่นวิทยุ จัดคอนเสิร์ตคนเหยียบหมื่น งาน Festival กลางเมืองที่มีเด็กทั่วประเทศกว่า 200-300 ชีวิตมาแสดง ไม่นับงานค่าย งานอีเว้นท์ งานออนไลน์ งาน Art งาน Rally บลา ๆ ๆ ๆ ๆ ทุกงานต้นจนจบ เริ่มเองจบเอง แน่นอนละมันมีความร่วมมือจากหลายส่วนอีกมาก แต่ผมพูดเฉพาะในส่วนที่เรารับผิดชอบละกัน
ทีมแรก เป็นพวก Activists ทำงานเก่ง แต่ระเบียบวินัยน้อย ติสเรื่อย ๆ บางทีเชื่อแต่ไม่ฟัง บางทีฟังแต่ไม่ทำตาม บางทีก็ไม่เชื่อไม่ฟังไม่ทำงาน เนียน ๆ ไป
ทีมที่ 2 ผสมปนเปหลายส่วน ทั้ง Activist Creative Admin รวมไปถึงพวกแนวศิลปิน รับผิดชองงานใหญ่ ๆ ความครบเรื่องของทีมทำให้เราทำงานสนุก แม้ข้อจำกัดจะมากมาย
ทีมที่ 3 นี่ “เยอะ” หมายถึงจำนวนนะ แต่ป่าว…ไม่ใช่ทีมใหญ่ ไซต์ 4-5 คนแต่เข้า ๆ ออก ๆ ออก ๆ เข้า ๆ ส่วนมากเป็นพวกทำงานตามระเบียบ ตามระบบ คิดในกรอบ ทำในกรอบ ไม่ถึงขนาดเป็นหุ่นยนต์หรอกนะ แต่ก็ใกล้เคียง ความทุ่มเทน้อย มักเน้นพวกงานจุกจิกเยอะ
ความแตกต่างมีหลายปัจจัย และหลาย ๆ ปัจจัยเหล่านั้นเราควบคุมไม่ได้ ผมค้นพบกับตัวเองว่า “การเป็นหัวหน้าที่ดีมันยากกว่าเป็นลูกน้องที่ดี” และ “ถ้าอยากมีลูกน้องที่ดี ก็จงเป็นหัวหน้าที่ดี แต่ห้ามคาดหวังว่าจะมีได้ เพราะหัวหน้ามีเดิมพันมากกว่า ส่วนธรรมชาติของคนเป็นลูกน้องจะไม่พร้อมเดิมพันอะไร”
ผมถึงชอบทำงานคนเดียวไง
9 ตุลาคม 2559