ขอพักเรื่องการหาอยู่หากินซักเล็กน้อย กลัวว่าจะอิ่มกันเกินไปครับ ประเดี๋ยวน้ำหนักขึ้นมาก ไปสอบพยาบาลไม่ได้อีก 555 ในช่วงวัยของผมและเพื่อนๆ ในก๊วนเดียวกัน เรามีของเล่นที่ประดิษฐ์ง่าย ๆ อุปกรณ์เสริมหาได้ในพื้นที่นั่นเอง

เมื่อฝนมา ไผ่ป่าไผ่บ้านก็เริ่มแทงหน่ออ่อน ช่วงนี้เราจะเข้าป่า (ก็แถว ๆ บ้านนั่นแหละครับ พูดให้ดูผจญภัยหน่อย ๆ) หาหน่อไม้กัน วันละเป็นหาบ ๆ หลังจากแกะเปลือกเรียบร้อยก็หั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ล้างน้ำ ซาวเกลือ หมักทิ้งไว้ ช่วงเช้า-เย็น แม่จะใช้น้ำซาวข้าวเทลงไปในไหหน่อไม้ดอง แม่บอกว่าจะช่วยให้เปรี้ยวเร็วขึ้น

ส่วนประกอบในการหาหน่อไม้ของทะโมนรุ่นผมก็คือ การหาเก็บลูกหว้ากินบ้าง มะเม่าบ้าง ซึ่งมีอยู่กลาดเกลื่อน อีกอย่างที่เป็นสิ่งจรุงใจของเด็ก ๆ ก็คือ การแบ่งพวกต่อสู้กัน ซึ่งปัญญาชนระดับ ป.1 โรงเรียนวัด เช่นพวกเรา ก็ต้องมีเครื่องทุ่นแรงประกอบในการต่อสู้ครับ “บั้งโผะ” ครับ

“บั้งโผะ” หรือ “บั้งโพล้ะ” ก็ทำไม่ยาก เริ่มจากหาลำไผ่ป่าไม่อ่อน-ไม่แก่ เกินไป เลือกปล้องยาว ๆ ตรง ๆ เข้าไว้ เพื่อผลของกระสุนที่จะทำร้ายฝ่ายตรงข้าม ตัดมา 1 ปล้องไม่ให้ติดข้อไผ่ กะว่าความยาวประมาณ 1 ฟุตกำลังดี (ขอเรียกว่า ชิ้นที่ 1) ขั้นต่อไปตัดปล้องอีกอันยาวประมาณ 5 นิ้วให้ติดข้อไว้ 1 ข้าง (ขอเรียกว่าชิ้นที่ 2) เกือบเป็นอาวุธแล้วเหลือเข็มแทงชนวนซึ่งก็ทำไม่ยาก ผ่าไม้ไผ่อีก 1 ปล้อง (หาให้ยาวกว่า 1 ฟุต 5 นิ้ว) เหลาให้กลมสวย วัดให้ได้ขนาดพอดีกับรูของไม้ไผ่ชิ้นที่ 2 (เข็มแทงชนวนนี้ขอเรียกเป็นชิ้นที่ 3) นำชิ้นที่ 3 ดันเข้ารูของชิ้นที่ 2 ตอกให้แน่น เท่านี้เราก็ได้ด้ามพร้อมเข็มแทงชนวนแล้ว ครานี้วัดความยาวของชิ้นที่ 3 ที่โผล่ออกมาจากชิ้นที่ 2 ให้ได้ความยาวประมาณ 11 นิ้ว 4 หุน (ทำง่าย ๆ โดยการวัดด้านนอกของชิ้นที่ 1ให้ชิ้นที่ 3 เกือบถึงปลายกระบอกซัก 1 เซนติเมตร กำลังดี …เท่านี้ก็เรียบร้อย มีปืนไว้ต่อสู้แล้ว ขาดเพียงกระสุน)

กระสุนในหน้านี้ก็หาไม่ยาก มีผลไม้ป่าอยู่ประเภทหนึ่ง ลูกเล็กประมาณ ครึ่งเซ็น ดิบ ๆ สีเขียว พอสุกจะสีดำกินได้หวานดี เราเรียกว่า “บักคันส้ม” หรือ “ลูกคอม” จะมีลูกติดเป็นพวง ๆ ละ 10 กว่าลูก เก็บมาให้ได้มากที่สุดเท่าที่ต้องการ

เริ่มต้นแบ่งกองกำลังให้มีจำนวนเท่า ๆ กัน เช็คยอดกระสุนที่แต่ละฝ่ายมี แล้วก็ตกลงกติกา ใครแพ้จะต้องเสียหน่อไม้ที่หามาได้ในวันนี้ให้กับผู้ชนะ ฝ่ายใดโดนจับได้ จะต้องโดนยึดเป็นตัวประกัน และต้องมาร่วมเป็นพวกเดียวกัน ไล่ถล่มกันต่อไป ทีมไหนเหลือแค่คนเดียว ถือว่าแพ้ …ตกลง

หลังจากทีมตรงข้ามแยกย้ายไป เราเริ่มประชุมวางแผน ผมเป็นเสนาธิการตามเคย (อาจจะเนื่องมาจาก ด้ำ ดำ ก็ได้ 5555) เราตกลงกันว่า จะไม่สนใจเรื่องไล่ยิงกันนัก แต่จะรวมตัวกัน บุกโจมตีเอาตัวประกัน น่าจะง่ายกว่า ทีมงานซึ่งมีอยู่ 3 คนรวมผม ตกลงตามนั้น

เราบรรจุกระสุน บักคันส้ม เข้ารังเพลิง ใช้เข็มแทงชนวน ดันกระสุนเข้าไปที่ปากลำกล้อง รอการปลดปล่อยจากลูกต่อมา ยัดกระสุนอีกลูกตามเข้าไป ใช้เข็มแทงชนวน ดันกระสุนเข้าไปแค่ 1 ใน 4 ของลำกล้อง (เรียกว่าขึ้นลำ รอสับไก 5555) ทุกคนพร้อม !!! …พร้อม! …เอ้า ลุยยยยยยย!!

เรารวมตัวกัน 3 คนมุ่งเข้าตีในจุดที่เรามองเห็นคู่ต่อสู้ผ่านเข้าไป อะฮ้าาาา เข้าทางละ คู่ต่อสู้วางกำลัง เป็นปีกนก หวังจะแยกกันตีโอบเรา ผมหมายตาไว้แล้ว เจ้าคนแรกคือเหยื่ออันโอชะ 5555 สะกิดเพื่อน เอาไอ้นี่ก่อน ..โพล้ะ ..โพล้ะ ..โพล้ะ เสียงดังขึ้น 3 ครั้งแสดงว่าคู่ต่อสู้ยิงกระสุนมาครบคนแล้ว กำลังกรอกกระสุนนัดใหม่ เราโผเข้าไปพร้อมกัน ล้อมเจ้าคนแรกไว้กลาง-วง ปืนบั้งโผะ 3 กระบอก จ่ออยู่ที่หัวของตัวประกัน เจ้านั่นหน้าซีดเผือด โยนปืนบั้งโผะในมือทิ้งไป ..โพล้ะ ..โพล้ะ ..ฮั่นแน่ ไอ้สองคนนั้นจะยิงมาช่วยเพื่อน สายไปแล้วไอ้หนู 5555 เพราะตอนนี้ทีมผมเป็นต่อแล้ว 4:2 หมูมาก ต้องรีบเผด็จศึก

เราแบ่งกำลังเป็น กองละ 2 คน ไม่พูดพล่ามทำเพลง ตามหาคู่ต่อสู้อย่างเดียว ไอ้ 2 คนนั่นก็ฉลาดเป็นกรด จับมือกันแน่น ไม่ยอมแยกกัน เราเข้าตีหลอกก็แล้ว รุมยิงก็แล้ว ยังเผด็จศึกไม่ได้ เอาใหม่ ไปกันทั้ง 4 คนนั่นแหละ ตีโอบอย่างเดียว ..โพล้ะ ..โพล้ะ ..โพล้ะ เสียงลั่นไปหมด แต่การต่อสู้ก็ยังไม่เห็นผล เอาไงดีจะค่ำอยู่แล้วนะ

5555 ฟ้าประทานก้อนสมองให้ไอ้ ด้ำ ดำ คนนี้มามากผิดปกติ เราประชุมเครียดกันอีกครั้ง คราวนี้ ทั้ง 3 คนฟังผมอย่างเดียว ทุกคนพยักหน้า ตกลงตามนั้น

ฝ่ายผม “ไอ้ 2 คนฟังทางนี้ ตอนนี้กูล้อมไว้หมดแล้ว พวกมึงแพ้แน่ 5555 ยอมซะไอ้หนู”

ฝ่าย 2 “กูไม่ยอมโว้ย แน่จริงมึงบุกเข้ามาสิ”

ฝ่ายผม “กูจะให้โอกาสมึง 2 คนใครก็ได้ หากใครยอมแพ้แต่โดยดี จะไม่โดนรุม แต่ใครเหลือคนสุดท้าย กูจะจับมัดแล้วรุมยิง เอามดแดงกัดด้วย”

ฝ่าย 2 “อย่าฝันเลย ไอ้บ้า กูไม่ยอมโว้ยยยยย… อีกคน …เฮ่ย กูว่าน่าจะยอมนะ ถ้าเหลือคนเดียว เกิดมันจับให้มดแดงกัด กูกลัวว่ะ อีกคน…”

ฝ่ายผม “ว่าไง 5555 จะยอมดี ๆ มั้ย กูหารังมดแดงไว้แล้วนะ จะนับ 1 ถึง 3… ..หนึ่งงงงงงงง?

ฝ่ายผม “สองงงงงงงง เฮ้ย เตรียมรังมดแดงมาอีก”

ยังไม่นับถึงสาม ทั้งคู่เดินชูมือขึ้นเหนือหัว ยอมศิโรราบแต่โดยดี หน่อไม้โดนยึดทั้งหมด รังมดแดงก็เป็นอันยกเลิกไป เย็นวันนั้น ทีมผมทั้งสามคน เดินเอ้อระเหย โดยมีไอ้ 3 เชลยทั้งแบกทั้งหามหน่อไม้มาส่งถึงบ้าน แต่แม่ก็จัดการแบ่งให้ทุกคนเอากลับบ้านเท่า ๆ กันทั้งหมด

เฮ้อ!!!!! กระสุนยังไม่ได้หลุดจากลำกล้องซักนัดเลย…

ทิดโส โม้ระเบิด