Photo from Website: Traditional Objects of Everyday Use
by ศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน)

ลมหนาวแผ่วพลิ้วมาจากทางตะวันออกเฉียงเหนือ น้ำในนาเริ่มงวดลง ช่วงนี้ทั้งนกกินปลาประเภทกระยาง กระสา ฯลฯ และชาวบ้านต่างก็อิ่มหมีพีมัน เอาแค่เดินสะพายข้องลัดเลาะไปตามคันนา ชั่วประเดี๋ยวประด๋าวก็ได้แบกปลากันจนไหล่ลู่ ทั้งปลาช่อน ปลาหมอ ปลากระดี่ ปลาขาว รวมไปถึง ปลาหลด ไปโน่นเลย วิธีหาก็ไม่ยาก เพียงกั้นน้ำแบ่งเป็นช่วง ๆ ใช้แรงวิดน้ำออกให้แห้ง แค่นี้ก็จับปลากันไม่หวาดไหวแล้ว

เมื่อแม่จะทำปลาร้า แม่จะแยกประเภทปลาไว้ เช่น ปลากระดี่อันนี้ไว้ทำปลาร้าไว้กินตัว ตำส้มตำก็อร่อย หากเป็นปลาช่อนก็ทำปลาร้าแห้ง แบบที่เก็บไว้ทอด หรือทำปลาแห้งเก็บไว้ปิ้งกิน ส่วนปลาเล็กปลาน้อย อันนั้นทำปลาร้าไว้เอาน้ำ เวลาต้มน้ำปลาร้าจะใช้ปลาประเภทนี้ ส่วนปลาขาว ปลาตะเพียน อันนี้ต้องทำปลาส้ม ห่อใบตองมัดไว้ 2 วันก็ส่งกลิ่นหอมฉุยแล้ว

เราเริ่มเบื่อปลากันแล้ว กินปลากันจนหมดเมนู ชักอยากกินอะไรที่มีขาบ้าง ว่าแล้วก็ดุ่มเดินไปทุ่งนา ดวงตะวันอ้อมข้าวไปไกลแล้ว ลมหนาวแผ่วยะเยือก ต้นข้าวเอนลู่ตามแรงลม มองเห็นสีทองอร่ามตา ใช้เสียมที่เตรียมมาด้วยลงมือขุดตามรูอยู่ไม่นาน ก็ได้สิ่งที่ต้องการสิบกว่าตัว เนื่องจากน้ำเพิ่งงวดไป ดินยังไม่แข็งมากนัก การขุดหาปู จึงไม่ใช่เรื่องเกินแรงน้อย ๆ เลย

เมื่อได้ปูมา เราเอามาลงครก ตำพอบุ ๆ เทลงถุง เปิดไหตักน้ำปลาร้าเหยาะเล็กน้อย เพื่อเติมกลิ่น เพียงแค่นี้เราก็จะได้เหยื่อเพื่อไปดักเจ้าสิ่งมีขาแล้ว เอาอุปกรณ์ที่ใช้ดักมาตรวจสอบความพร้อม ลักษณะคล้าย ๆ ข้องใส่ปลา เพียงแต่สัณฐานจะออกแบน ๆ ไม่ใหญ่มาก สานด้วยไม้ไผ่เป็นตาห่างประมาณนิ้วสอดเข้าไปได้ ด้านปากทางเข้าทำเป็นงาดักไว้ อนุญาตให้เข้าได้แต่ห้ามออก ใช่แล้วสิ่งนี้ก็คือ “ตุ้ม” วันนี้เราจะไปดักกบกัน

เราเดินไปที่หนองน้ำท้ายบ้านเมื่อตะวันเกือบลับแล้ว อากาศรอบตัวเริ่มเย็นลงอีก พอถึงที่ก็ไม่รอช้า จัดการหามุมเหมาะ ๆ ใช้เสียมแต่งสภาพแวดล้อมเล็กน้อย วางตุ้มให้สูงกว่าพื้นน้ำประมาณ 1 ศอกน้อย ๆ นี่แหละ หันปากไปหาน้ำ หยอดเหยื่อเข้าไปในตุ้ม หาหญ้ามากลบและตกแต่งปากตุ้ม โดยหาเลนที่ไม่แฉะมากนักมาละเลงหน้าปากตุ้มให้เรียบ ด้านบนคลุมด้วยหญ้าและเอาดินกลบเล็กน้อย เพียงเท่านี้เราก็ทำตุ้มดักกบเรียบร้อย วันนั้นก่อนตะวันจะชิงพลบ เราก็วางตุ้มไปได้ 10 อันพอดี ขากลับก็เก็บผักบุ้งนาที่ขึ้นริมหนองนั่นแหละได้ไปหอบใหญ่

แม่แกงส้มผักบุ้งใส่ปลาช่อน รวมถึงหมกปลาส้มกลิ่นหอมฉุย โดยที่ผมยังเป็นลูกมือคนเดิม เราได้ตั้งวงกินข้าวกันก็พระจันทร์ลอยมาเยี่ยมฟ้าแล้ว แม่สอนเคล็ดลับในการทอดปลาส้มไม่ให้เละ และน้ำมันไม่กระเด็นใส่เนื้อตัววิธีง่าย ๆ คือเอาปลาส้มที่จะทอดไปชุบไข่เล็กน้อย เพียงแค่นี้ก็ได้กินของดีแล้ว คืนนั้นผมเจริญอาหารมากผิดปกติ กว่าจะได้ล้มตัวนอนก็ดึกโข

ผมกับพี่ชายลุกจากที่นอนเมื่อค่อนรุ่ง เมื่อคืนหนาวมากถึงขนาดน้ำค้างหยดจากสังกะสี เราก่อกองไฟกัน สักพักพ่อเข้าสวนไปขุดมันห้านาทีและสาคูมาให้ เรารอให้มีขี้เถ้าจึงเริ่มหมกมันและสาคูเข้าไป ดาวเหนือยังส่องแสงเป็นประกาย ช่างสวยงามนัก ก่อนตีนฟ้าเปิดหลังจากที่รองท้องกันด้วยมันเผาจนได้ที่แล้ว เราก็เดินไปเก็บตุ้มที่ดักไว้

การเดินผ่านกอหญ้าคาในเช้าที่หนาวเหน็บ ช่างทรมานเหลือคณา ไหนจะหญ้าคาบาด ไหนจะน้ำค้างกระเซ็นใส่ เรามาถึงหนองน้ำก็พอดีแสงทองผสมแดงเริ่มจับขอบฟ้าเบื้องบูรพา มวลหมูนกเริ่มออกหากิน บางตัวเกาะกิ่งไม้นิ่ง สงสัยจะรอให้ความร้อนจากแสงแดดช่วยอบอุ่นร่างกาย หรือเพราะต้องตากปีกก็เหลือจะเดา ตุ้มแรกมีกบนอนอัดกันอยู่ 4 ตัว เขื่อง ๆ ทั้งนั้น กว่าเราจะเก็บตุ้มทั้ง 10 อันเสร็จ ดวงตะวันก็โผล่มาเยี่มฟ้าเต็มดวงแล้ว วันนั้นเราช่วยกันหามตุ้มกลับบ้าน คะเนคร่าว ๆ กบทั้ง 10 ตุ้มไม่น่าจะน้อยกว่า 40 ตัวแน่นอน กว่าจะถึงบ้านก็หลังแอ่นกันทั้งพี่ทั้งน้อง

พอถึงบ้าน เราแกะเชือกผูกก้นตุ้ม จับกบออกมาหักขาครั้งละตัว ใส่โอ่งไว้ ไม่ต้องใส่น้ำ พ่อเดินเข้าสวนไปหาสอยมะม่วงพิมเสนซึ่งเพิ่งเป็นลูกเล็ก ๆ บอกจะมายำกบกินหน่อย แม่ให้ผมไปปีนเก็บยอดมะกอก และใบช้าพลู แม่จะอ่อมกบให้กิน

กรรมวิธียำกบก็ไม่ยาก นำกบไปย่างให้สุก (หรือจะต้มก็ได้ แต่ไม่หอมเท่าย่าง) แกะเอาเฉพาะเนื้อ พริกใหญ่แห้ง พริกขี้หนูแห้ง หอม กระเทียม กะปิเล็กน้อย ย่างไฟให้สุก นำมาโขลกเข้าด้วยกันให้ละเอียด เอาเนื้อกบที่แกะแล้วนำมาคลุกเคล้าสับมะม่วงใส่ลงไป (หากไม่มีมะม่วง ให้ใช้มะขามเปียกแทน) ปรุงรสด้วยน้ำปลา หากไม่เปรี้ยวบีบมะนาวเข้าไปอีก มะพร้าวขูดคั่วให้เหลืองนวลอีกเล็กน้อย เอามาคลุก ๆ เข้าไป ปิดท้ายด้วยสะระแหน่คลุกหยาบ ๆ และแต่งหน้าอีกเล็กน้อย

ส่วนอ่อมกบสูตรแม่ผมก็ยิ่งไม่ยาก ต้มกบให้สุก เหยาะน้ำปลาร้าไปด้วยพอหอม แกะเอาเฉพาะเนื้อกบ ซอยพริก หอม กระเทียม หั่นใบมะกอก ใบช้าพลูและใบมะกรูดเล็กน้อยให้เป็นชิ้นเล็ก ๆ เอาน้ำต้มกบตั้งไฟให้เดือด ใส่กบแกะเนื้อแล้วลงไป ตามด้วย พริก หอม กระเทียมซอย ใบมะกอก ปรุงรสด้วยน้ำปลาและน้ำปลาร้า พอได้ที่ก็ใส่ใบช้าพลูและใบมะกรูดลงไป โรยพริกป่นเพิ่มความหอม รสเปรี้ยวจะได้จากยอดมะกอก หอมน้ำปลาร้า โอย!!! วันนั้นใคร ๆ ต่างค่อนขอดว่าผมเป็นชูชกกลับชาติ….ก็มันอร่อยจริง ๆ นี่ครับ…

ทิดโส โม้ระเบิด