ชีวิต “นักดนตรีกลางคืน” ของผม ที่จริง ๆ จัง ๆ ก็จะมี 2 ช่วง คือ สมัยเรียนมหาลัย ปี 3-4 ผมเล่นประจำที่ร้าน พรรคกระยาจก สาขาซอยวัชรพล ทุก ๆ วันช่วงหัวค่ำ แนว Folk กีตาร์ตัวเดียว ร้องเพลงเพื่อชีวิต ตอนนั้นใช้ Takamine ที่ผลิตที่ไต้หวัน (ราคา 16,000 บาท จำได้แม่น เพราะเก็บเงินซื้อเอง) เจ้าของร้านชื่อ พี่พงษ์ แกเอ็นดูผมมาก เพราะผมเป็นพวกนักดนตรี ที่อยากเล่นดนตรี มากกว่าอยากได้ค่าจ้าง แกว่างั้น หลาย ๆ ครั้งพอเล่นเสร็จ แกจะพาผมไปเที่ยวเล่น นั่งร้านโน้น คุยกะคนนั้นคนนี้ ช่วงนั้นปี ’40 ฟองสบู่ กิจการร้านเลยไม่ค่อยดีนัก ไม่นานก็ปิดตัวไปหลังผมลาออกไม่นาน

ต่อมาอีก 2-3 ปี พี่เจมส์ รุ่นพี่ค่าย เปิดร้านเหล้าหน้า ม.หอการค้า ชื่อร้าน Folk House ก็ขอให้ไปช่วยเล่นดนตรี ช่วงร้านเพิ่งเปิดใหม่ ๆ ก็เล่น Folk เหมือนกัน กีตาร์ตัวเดียว แต่จะเป็นเพลง Pop เพลงฮิต ๆ ทั่วไป ช่วงนั้นตกงาน แล้วก็กำลังทำวงดนตรีอยู่ด้วย เล่น ๆ ไปไม่กี่เดือนก็ขอ Fade ตัวเองออก ก็ชวนมือเบสในวงผมนั้นแหละ ให้ไปเล่นที่ร้านแทน

ผมเล่นคนเดียวมาตลอดเลย ไม่เคยเล่นประจำที่เป็นวงเต็มวง มีแต่เคยรับงานเป็นชิ้น ๆ ไป

ชีวิตนักดนตรีกลางคืน… มันก็ไม่สนุก เฮ้ว!! สาวตรึมอะไรกันมากมายหรอก บางทีก็เหงา ๆ นะ เราทำงานในขณะที่ผู้คนกำลังหลับไหล แขก คนมานั่งร้านเหล้า ก็ล้วนแต่พกมิตรภาพ Version ฉาบฉวยติดตัวทั้งนั้น

แต่ก็มีมุมสนุกเยอะนะ โดยเฉพาะคืนวันศุกร์ หรือเวลาพรรคพวกมาเยี่ยม มาแจม เรียกว่าถึงไหนถึงกัน

ผมคิดถึงมันนะ เสียงดนตรี กีตาร์ กระดาษทิชชู่ขอเพลง โจ๊กรอบดึก ไม่ก็ก๋วยจั๋บ

อรรณพ นิพิทเมธาวี
1 สิงหาคม 2559, 22.57 น.