ในช่วงสงครามเวียดนาม ประมาณ 30-40 ปีก่อน ตอนนั้นยังมี เวียดนามเหนือ และเวียดนามใต้ สหรัฐอเมริกา หนุนเวียดนามใต้ สู้กับเวียดนามเหนือหรือพวก “เวียดกง”
เวียดกง ใช้กลยุทธ์การสู้รบแบบกองโจร วิธีซุ่มโจมตี “เอ็งมา ข้ามุด เอ็งหยุด ข้าแหย่ เอ็งแย่ ข้าตาม” ไม่สู้แบบปะทะตรง ๆ เพราะสู้กับกองทัพสหรัฐอเมริกาไม่ได้แน่ ๆ และที่เด็ดมาก แสดงถึงความมานะอดทนของเวียดกง ก็คือ การขุดอุโมงค์ใต้ดิน ต่อเชื่อมกันเป็นระยะทางไกล ๆ โผล่ขึ้นมาถล่มทหารสหรัฐ แล้วก็มุดเข้าอุโมงค์หนีไปไร้วี่แวว
จนวันหนึ่ง กองทัพสหรัฐคิดวิธีใหม่ในการค้นหาอุโมงค์ของเวียดกง ได้สำเร็จ เขาใช้ “สุนัข” ทหารที่ดมกลิ่นเก่งมาก ๆ เป็นตัวนำทาง ทหารสหรัฐจะส่งสุนัขล่วงหน้าไป เพอจออุโมงค์ที่ไหนมันก็จะเห่าบอกเป้าหมาย ทหารสหรัฐก็จะบุกไปถล่มอุโมงค์นั้นทันที
เจอลูกเล่นนี้เข้าไปหลายครั้ง เวียดกงก็ต้องประชุมกันเพื่อคิดหาวิธีแก้เกม ในที่สุดก็คิดแก้ลำเจ้าสุนัขทหารของสหรัฐได้สำเร็จ ด้วยการคิดนอกกรอบตามสไตล์เดิม ๆ
รู้ไหมครับว่า เวียดกง ทำอย่างไร มี 2 วิธี
- หา “หนังเสือ” และ “มันเสือ” มาแขวนไว้แถวปากอุโมงค์ ธรรมชาติของสุนัข เมื่อได้กลิ่นเสือก็จะตกใจกลัวและวิ่งหนีไป
- วิธีที่สองเด็ดกว่า คือ แปรศัตรูให้เป็นมิตร วางแผนดึงเจ้าสุนัขทหารมาเป็นพวก โดยหา “สุนัขตัวเมีย” ที่ติดสัดมาผูกล่อไว้ พอสุนัขทหารที่เป็นตัวผู้ได้กลิ่นตัวเมีย มันก็จะพุ่งเข้าหาทันที ลืมหมดว่าภารกิจที่ได้รับมอบหมายคืออะไร
“ความรัก” นั้นไม่ใช่เพียงแต่ทำให้ “คน” ตาบอด แม้แต่ “หมา” ก็ยังลืมตัว 555+
กลยุทธ์นี้ทำให้สหรัฐอเมริกาเสียฟอร์มอย่างมาก เพราะนอกจากจะทำลายแผนของกองทัพแล้ว ยังต้องเสียสุนัขที่ได้รับการฝึกเป็นอย่างดีให้กับเวียดกง ไปฟรี ๆ อีกหลายตัว
จึงเป็นที่มาของคำว่า “เสียหมา” ที่แปลว่า “เสียฟอร์ม”
