ชายสองคนต่างวัยออกเดินทางไกลหาฝันกลางคืนใต้ฟ้าใต้จันทร์บรรเลงเพลงฝันบันดาลใจ โบกรถรายทางใต้ดาวพราวพร่างสว่างไสวออกเดินรอรถล้อถ่อทางไกลได้บ้างไม่ได้บ้างอดทน… โบกรถสัญจรตะรอนแรมร้อนร้าวรนดาวจรจรัสจ้าจางฝนจันทร์หม่นดาวดลแจ่ม รถผ่านโบกพันรถหมื่นแสนทางคดใจแซมลมโชยบางคืนแอบหอมแก้มโอบกายแต้มใจให้หนาวสั่น… ชายสองคนต่างวัยมุมมองใหม่ในโลกนั้นบ้างดีมีสุขทุกข์ปนปันบ้างยิ้มพริ้มฝันผันผ่านเพียงสอง หนึ่งครูอีกหนึ่งศิษย์ประดิษฐ์ฝันร้อยกรองคืนหนึ่งนั้นพลันหมองอีกหนึ่งคะนองกับภาพใหม่ ย่ำผ่านบางเมืองสุขสนุกลืมทุกข์เข็ญเล่นกันไปพบบางเมืองยิ่งใหญ่บางเมืองน่ากลัว บางมุมโศกเร้าเคร่งเครียดบางครั้งเกลียดเรื่องหมองมัวบางครั้งพบชายชั่วบางครั้งพบหญิงมั่ว – ชายเลว… …
ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
ดอกรัก
ดอกรัก… เธอคือหนึ่งในมวลชน เพี่อจุดมุ่งหมายและความปรารถนาของชายคนนั้น! เขากำลังหว่านล้อมเธอ….เขากำลังให้เธอหลงกลหลงหลุมพรางอันแยบยลยิ่งใหญ่…ดอกรัก! ดอกรัก… เธอคือความหวังของพ่อ… เธอคือความหวังดีของแม่… เธอคือความหวังของชายคนนั้น เธอคือส่วนประกอบหนึ่งของกองทัพโกงกินกองทัพธรรมะอสูร…เธอไม่รู้หรอกหรือ ดอกรัก… เธอคือตุ๊กตาตัวหนึ่งราคาถูก ๆ …
บทกวี – นาฬิกาเด็กน้อย
จากคืนค่ำย่างย่ำรุ่งอรุณฉายทอแววพรายสายทองรองเรืองวับขับแสงนวลชวนหลงตะวันขลับคืนลาลับ-วันแจ้งแห่งเวลา นาฬิกาเด็กน้อยคือรอยยิ้มน้ำเหงื่ออิ่มปริ่มสุขปลุกหรรษานวยนาดเน้นเป็นเรื่องราวธรรมดาอวดสายตาที่ร้อยสุขสนุกจริง จากสายแสงแรงกล้าในป่าหวันรุ้งทอตะวันเย็นยามอาบทุกสิ่งเผชิญหน้าจินตนามาประวิงวนเวียนวกสู่สิงแผ่นดินธรรม นาฬิกาเด็กน้อยคือร้อยรักษ์สืบ-สาน-สมัคร-ประจักษ์ล้ำคู่ป่าไพรเยาวมาลย์ในคืนค่ำล่องเลยสู่ลู่ล้ำคำบรรพชน ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะบางเหรียง, 24 กุมภาพันธ์ 2549