พอฝนมาทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวดูเหมือนจะเปลี่ยนไป หญ้าที่มองแห้ง ๆ เริ่มระบัดใบ อาหารสดจำพวกปู ปลา กบ อึ่ง ก็มีให้กินได้ทุกวัน เพียงขยันออกส่องไฟ เป็นไม่มีอด ผักกระถินริมรั้วเริ่มแตกยอด ผักขา (ชะอม) ก็ยอดอวบงามเปล่งปลั่ง ตำลึงก็เลาะเลื้อยตามรั้วเยอะแยะ
น้าข้าง ๆ บ้านมาชวนผมออกไปหาเก็บ “หอยโข่ง” ในนา อุ๊บ๊ะ! งานชอบแบบนี้ไม่ปฏิเสธอยู่แล้ว แกเตรียมไถ เตรียมคราด เตรียมควาย เราออกเดินทางกันตั้งแต่เช้ามืด ระยะทางพอประมาณ ก็ถึงนาของน้าแก..ไม่พูดพล่ามทำเพลง ผูกควายเข้ากับแอกไถได้ แกก็ลุยไถดะไปเรื่อย ก่อนหน้านั้นในวันพืชมงคล แกได้มาทำพิธีไว้เรียบร้อย พอฝนมาก็เริ่มไถนาได้ทันที เจ้าควายหนุ่มลากไถโดยไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ดินที่ได้รับน้ำฝนแล้วจะเริ่มซุย ไถง่ายไม่กินแรงควายมากนัก ผมก็สนุกกับการเดินตามรอยไถ ถือกระป๋องใบหนึ่ง ตามเก็บหอยโข่งแต่ละตัวเท่ากำปั้น
พอเริ่มหนักก็เอามาเทซะทีหนึ่ง แล้วก็ไปเก็บต่อ วนเวียนอยู่เช่นนั้นไม่รู้เหน็ดเหนื่อย เรามาพักกินข้าวเช้ากันก็จนตะวันลอยโด่งแล้ว น้าปล่อยควายกินหญ้าอยู่แถวนั้น ก่อไฟขึ้นใต้เถียงนา (กระท่อมปลายนา) กลิ่นควันไฟลอยคลุ้งมันหอมอย่างประหลาด พอไฟติดได้ที่ก็เอาหอยตัวใหญ่ ๆ เผาไฟ เสียงฉี่ ฉี่ ฉี่ ดังไม่ขาดระยะ เผาพอประมาณว่า ฝาปิดปากหอยหลุด น้าก็จะแกะเอาตัวหอยออกมา คัดเอาเฉพาะเนื้อ
เฮ้อ! ทั้งเหนื่อยทั้งหิว รสชาดอาหารมันจึงได้เอร็ดอร่อยแบบสุดประมาณ เราหยิบหอย จิ้มปลาร้าสับ แกล้มด้วยใบแต้ว ออกรสเปรี้ยว ๆ ฝาด ๆ กำลังดี ตามด้วยข้าวสวยคำใหญ่… ผมไม่เคยนึกฝันถึงอาหารฮ่องเต้ชนิดใดเลย สาบาน!
ก่อนค่ำเราจูงควายกลับบ้าน หลังเจ้าทุยแอ่นไปด้วยกระสอบหอยโข่ง น้าแวะเก็บผักแต้ว ผักอีลอก ได้หอบใหญ่ วันนี้แหละผมจะได้กินแกงผักอีลอกให้อร่อยปากไปเลย 555
แม่นำหอยที่ได้ มาปิ้งไฟ แกะเอาเฉพาะเนื้อหอย บอกจะยำให้กิน พี่ชายคนรองรับหน้าที่ปอกมะพร้าว พร้อมขูดด้วยกระต่ายขูดมะพร้าว แม่คั่วมะพร้าวจนเหลืองหอม ผมรับหน้าที่เผาพริก หอม กระเทียม แกะเปลือกแล้วโขลกให้เข้ากัน ไม่ต้องละเอียดมากนัก แม่นำมาคลุกกับเนื้อหอยที่หั่นแล้ว สับมะม่วงเปรี้ยวใส่ ปรุงรสน้ำปลา มะนาว ชิมให้เผ็ด เปรี้ยว เค็ม กำลังดี ก่อนที่จะโรยมะพร้าวคั่ว คลุกพอเบามือ เด็ดสะระแหน่มาโรยหน้า (เห็นมั้ยครับ อาหารที่แม่ผมทำ ไม่มีผักชีโรยหน้านะเอ้า) แม่บอกว่า หอยโข่ง หากจะยำให้อร่อยอย่าเอาไปลวก มันจะไม่หอม สู้ปิ้งไฟไม่ได้ จริงครับ วันนั้นยำหอยหอมมากๆ เลย
ค่ำแล้ว พ่อกลับมาจากโรงเรียนพร้อมปลาสดๆ อีก 1 พวง แม่เลือกปลาดุกอุยทำต้มยำใบมะขามอ่อน เราตั้งวงกันเมื่อฟ้ามืดสนิท แต่ที่บ้านเรากลับสว่างโพลงด้วยแสงเจ้าพายุ อีกครู่ น้าข้าง ๆ บ้านก็ขึ้นมาสมทบด้วย
ผมนั่งกินข้าวไปฟังพ่อเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ไป ทั้งอร่อย ทั้งง่วง คงเพลียแหละครับ โห!!! เดินตามรอยไถทั้งวัน หากไม่เคยจริงๆ นะ ไข้ขึ้นเชียวแหละ
ก่อนหลับคืนนั้น พอเล่าเรื่องทอดแหและปลาหลดให้ฟัง พร้อมรับปากว่า หากเสาร์-อาทิตย์ฝนตก จะพาไปหาปลาหลด จะสอนให้ทอดแหด้วย ว้าวววววว!
ทิดโส โม้ระเบิด