“หลวงพี่ท่านเก่ง ไม่กี่ปีท่านพัฒนาวัดจนสวยงามเกินหน้าตาวัดใกล้เคียง”
“ท่านเป็นพระที่เทศน์สนุก ญาติโยมชื่นชอบกันมาก”
“ท่านดูดวงแม่นอย่างตาเห็นเลยนะ ทักอะไรก็เป็นแบบนั้นเลย”
“หลวงพ่ออยากแต่งตั้งให้เป็นเจ้าอาวาส ท่านก็ไม่รับ เพราะกิจนิมนต์ท่านเยอะเหลือเกิน”
“ใครจะนิมนต์ท่านก็ต้องบุคลิก ไว้แต่เนิ่น ๆ เพราะท่านรับกิจนิมนต์ทั่วประเทศ”
“มีพระหนุ่ม อนาคตไกลแบบนี้ วัดบ้านเราคงเจริญแน่นอนเลย”
ฯลฯ
เหล่านี้ล้วนเป็นคำตอบ เมื่อมีคนถามถึงพระหนุ่มหลากหลายคำถาม ที่ชาวบ้านและเจ้าอาวาสกล่าวถึงพระหนุ่ม แต่ละถ้อยคำล้วนเต็มไปด้วยคำชื่นชม แววตาของผู้ที่ได้พูดคุยด้วย เปล่งประกายความสุขทุกครั้งที่ได้กล่าวถึงพระองค์นี้ นั่นเป็นส่วนหนึ่งที่กระตุ้นให้ญาติโยมที่มาที่วัดแห่งนี้ อยากรู้จักพระหนุ่มรูปนี้มากยิ่งขึ้น
………
หลวงตานั่งเอนหลังพิงหมอนขิตลูกโตหลับตานิ่ง นับตั้งแต่บวชมาก็ล่วงเลยถึงพรรษาที่ 40 แล้ว ยังไม่เคยเห็นพระหนุ่มที่อายุไม่ถึง 40 ปี จะมีพลังสูงส่งถึงเพียงนี้ จากวัดเล็ก ๆ ในชนบทอันห่างไกล ซึ่งไม่กี่ปีที่ผ่านมาแทบจะกลายเป็นวัดร้าง แต่เมื่อพระหนุ่มจากแดนไกลขอเข้ามาจำพรรษา และล่วงเลยมาถึงปีที่สิบเท่านั้น ความเจริญทางวัตถุได้เปลี่ยนแปลงสภาพวัดแทบร้างให้มลายไปสิ้น ขบวนผ้าป่ากองโต ๆ ได้เงินครั้งละเป็นหลักหลายแสนจนถึงล้านบาท มีเข้ามามิได้ขาด ญาติโยมทุกเพศทุกวัยแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ไม่ว่าปัญหาหนักหน่วงเพียงใด พระหนุ่มก็ขจัดปัดเป่าให้โล่งใจกลับไปกันทุกคน กระดานชนวนและคำหมากที่พระหนุ่มเคี้ยวอยู่ตลอดเวลา คืออุปกรณ์ทำนายทายทัก หากท่านคายชานเมื่อใดก็จะมีผู้แบมือขอรับไว้บูชาทันที
ภายในอุโบสถหลังใหม่ พระประธานตั้งไว้เด่นสง่า รายล้อมด้วยพระสาวก กลิ่นธูปควันเทียนลอยอ้อยอิ่งประหนึ่งผ่านเข้าไปในดงหมอก ผู้คนกราบไหว้ขอพรกันอยู่คลาคล่ำ เสียงเขย่าเซียมซีดังสนั่น เสียงเคาะระฆัง เสียงพระสวดมนต์ให้พรพร้อมรดน้ำมนต์ มีอยู่เกือบตลอดเวลา ตู้รับบริจาคที่ตั้งเรียงราย เต็มไปด้วยเหรียญและธนบัตรทั้งสีเขียว แดง ม่วง จนถึงสีเทา
รายรอบอุโบสถ เต็มไปด้วยแผงขายดอกไม้ธูปเทียนพวงมาลัยดอกไม้สด เสียงร้องเรียกลูกค้าของบรรดาเหล่าพ่อค้าแม่ค้า เต็มไปด้วยสีสัน ทุกคนยิ้มแย้มด้วยใบหน้าเปื้อนเหงื่อ แผงจำหน่ายวัตถุมงคลมีคนมุงกันแน่นขนัด ทุกคนเมื่อไม่ได้เจอพระหนุ่ม ก็ขอให้ได้ของขลังกลับไปบูชาที่บ้าน ยิ่งมีข่าวลือปากต่อปากในความศักดิ์สิทธิ์ ผู้คนก็ยิ่งแสวงหาไว้ในครอบครอง จนต้องปั๊มขึ้นมาใหม่ไม่รู้กี่รุ่นต่อกี่รุ่น และก็หมดในเวลาไม่นาน
วันนี้หลวงตาต้องขอมาพักผ่อนในกุฏิของท่าน เนื่องจากอายุมากแล้วนั่งนานก็ไม่ไหว ยิ่งในช่วงที่พระหนุ่มรับกิจนิมนต์ไปต่างจังหวัด หลวงตาก็ต้องเหนื่อย ที่ต้องมาทำหน้าที่รับรองญาติโยมในฐานะเจ้าอาวาส พระเณรในวัดก็ต้องทำหน้าที่อย่างแข็งขัน บ้างประจำอยู่ในจุดบังสุกุลเป็น – ตาย บ้างอยู่ในจุดสังฆทาน บ้างก็อยู่ในจุดประพรมน้ำมนต์ ไหนจะคอยตอบคำถามที่เกี่ยวกับพระหนุ่มอีก ทุกองค์จึงหวังอยากให้พระหนุ่มรีบกลับมาจากกิจนิมนต์โดยไว จะได้สลัดงานอันหนักอึ้งนี้ได้บ้าง
………..
รถตู้สีขาวใหม่เอี่ยม วิ่งเข้ามาในบริเวณบ้านเดี่ยวชานเมืองหลังหนึ่ง เจ้าของบ้านลงมาเปิดประตูด้วยท่าทีงกเงิ่น จะด้วยสูงวัยหรือประหม่าก็เหลือจะเดา สักครู่หนุ่มใหญ่หน้าตาดีก็ก้าวลงมา ผมหยิกยาวปรกหน้าผาก ด้านหลังคลี่คลุมท้ายทอย เสื้อเชิ้ตตัวโคร่งสวมทับเสื้อยืดราคาแพง กางเกงยีนส์ยี่ห้อดัง รองเท้าคัทชูขัดมันจนมองเห็นเงาของผู้สวมใส่ กลิ่นโคโลญจ์บาง ๆ ลอยมากระทบจมูก ไม่มีการทักทายหรือเสวนาใด ๆ คนขับรถดับเครื่องและเดินไปที่รถเก๋งคันหรูที่จอดอยู่ข้าง ๆ และสตาร์ทเครื่อง หนุ่มใหญ่ก้าวขึ้นไปนั่งที่เบาะด้านหลัง แล้วเจ้าเก๋งหรูกระจกติดฟิล์มทึบก็จากไป เจ้าของบ้านเดินไปปิดประตูด้วยใบหน้าเบื่อหน่าย และนำผ้ามาคลุมรถตู้สีขาวเหมือนเช่นทุกครั้ง
………….
หญิงสาวยืนหมุนตัวอยู่หน้ากระจกเงา มองรูปร่างหน้าตาตัวเองแล้วยิ้มน้อย ๆ เรือนผมที่ดำนุ่มสลวยตัดซอยอย่างมีระเบียบ คิ้วที่โก่งรับกับดวงตากลมโต จมูกเชิดรั้นเล็กน้อย แก้มเนียนที่ไร้ไฝฝ้า ริมฝีปากอวบอิ่มคลี่คลุมฟันที่ขาวสะอาดเรียงเป็นแนวสวยงาม ลำคอระหงรับกับช่วงไหล่ที่มีช่วงต่อลำแขนอ่อนช้อยประดุจนางรำ นิ้วมือเรียวยาวที่ลูบไล้ผ่านพวงถันที่ยังดูเต่งตึง รับกับผิวกายที่ขาวเนียน เอวยังคอดสะโพกยังผายเป็นสิ่งที่เธอภูมิใจยิ่งนัก
ห้องชุดสุดหรูราคาแพงห้องนี้ ตั้งอยู่ชั้นที่ 20 ริมแม่น้ำเจ้าพระยา ในยามค่ำคืนแสงไฟที่เปิดขึ้นมาช่างยามจับตาจับใจยิ่งนัก ยังไม่รวมถึงแสงสีของไฟประดับตกแต่ง และแสงไฟบนเรือที่แล่นกันขวักไขว่
หญิงสาวอ้อยอิ่งกับเรือนกายของตัวเอง หน้ากระจกเงาบานใหญ่ ก่อนจะหยิบชุดชั้นในราคาแพงมาสวมใส่ แต้มน้ำหอมกลิ่นบาง ๆ ที่หลังใบหูและข้อแขน ชุดนักศึกษาถูกสวมอย่างปรานีต พร้อมกับหมุนตัวรอบกระจก เพื่อสำรวจรายละเอียดต่าง ๆ อีกครั้ง
“กริ๊ก” สิ้นเสียงลูกบิดประตู ปรากฏร่างหนุ่มใหญ่หน้าตาดี ผมหยิกยาวปรกหน้าผากเปิดเข้ามา รอยยิ้มฉายเต็มใบหน้า หญิงสาววิ่งรี่เข้าสู่อ้อมกอดด้วยใบหน้าเบิกบานพอกัน ทั้งสองแลกจูบกันดูดดื่มเนิ่นนาน ไม่มีคำพูดใดที่คนทั้งสองจะเอ่ยออกมาแม้เพียงคำเดียว เพราะคงไม่จำเป็น หลังจากที่ชุดนักศึกษาหลุดออกจากร่างอันงามระหงของหญิงสาว และหนุ่มใหญ่ที่เปลือยเปล่า ภาษากายของทั้งคู่ก็เริ่มบรรเลง…
“ครั้งนี้นานเลยนะพี่ หนูรอจนแทบทนไม่ไหว”
“อืห์ม ช่วงนี้งานเยอะ อยากจะมาทุกวันแหละจ้ะ อื้อ… หอมชื่นใจจัง” หนุ่มใหญ่ซบหน้าลงบนพวงถันคู่งาม
“แล้วครั้งนี้….” หนุ่มใหญ่แตะนิ้วมือกับริมฝีปากคู่งาม
“อย่าเพิ่งคุยกันเลยนะจ๊ะตอนนี้พี่หิวจัง อยากกินให้หมดทั้งตัวอีกสักครั้ง” หญิงสาวอมยิ้ม นัยน์ตาเป็นประกาย
…………..
หนุ่มใหญ่เอนหลับนิ่งบนรถตู้ใหม่เอี่ยมสีขาว ใบหน้าที่อ่อนเพลียยังมีรอยยิ้มน้อย ๆ แต้มประดับใบหน้า กว่าจะแยกจากหญิงสาวมาได้ ก็ล่วงเลยไปอีกหลายครั้ง จนแทบก้าวขาไม่ออก คนขับรถหันกลับมามองแล้วส่ายหน้า พลางเปิดไฟเลี้ยวซ้ายเข้าปั๊มน้ำมันเล็ก ๆ ข้างทาง
“ท่านครับ ใกล้ถึงวัดแล้วครับ เตรียมเปลี่ยนชุดได้แล้วครับ”
…………..
ทิดโส โม้ระเบิด