เพราะอยากเห็น “วัยรุ่น” ด้วยกันหันมาฟังเพลงที่มีเนื้อหาสาระบอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ของสังคมบ้าง นอกจากจะฟังแต่เพลงที่มีเนื้อหาวนเวียนอยู่แค่เรื่องของ รัก ๆ ใคร่ ๆ อกหักรักคุด เพราะชีวิต…ยังมีอะไรมากกว่านั้น!!

ยังมีพ่อ แม่ การเรียน และเหนือสิ่งอื่นใด คือ “สังคม” ที่ไม่ว่าจะเป็นเด็ก วัยรุ่น หรือผู้ใหญ่ เมื่อทุกคนเกิดมาเป็นมนุษย์ซึ่งถือเป็น “สัตว์สังคม” แล้ว ทุกคนก็น่าจะมีส่วนในการ “ช่วยเหลือสังคม” ได้บ้าง

จากแนวคิดนี้ คนรุ่นใหม่กลุ่มหนึ่งกว่า 20 คน หลากหลายสถาบัน ทั้งมหาวิทยาลัยกรุงเทพ มหาวิทยาลัยบูรพา มหาวิทยาลัยรังสิต มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ทั้งที่ยังเป็นนักศึกษา และจบการศึกษาออกไปแล้ว จึงได้มารวมตัวกัน ภายใต้ชื่อ คนอาสา เพื่อบอกแง่มุมของสังคม ผ่านบทเพลงที่คัดกรองออกมาเป็น อัลบั้ม เพลงค่ายฯ ที่ว่างระหว่างเส้นลวด 6 สาย

เต้ ปริญญา เดชสุภา นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา หนึ่งใน “คนอาสา” ที่ร่วมขับร้องเพลงค่ายฯ เล่าที่มาที่ไปว่า ทุกคนเป็นเยาวชนคนรุ่นใหม่ที่ทำงานอาสาเพื่อสังคม และทุกคนรักเสียงเพลง วันหนึ่งมีการพูดคุยแลกเปลี่ยนเรื่องเพลง ทำให้รู้สึกว่า ทุกวันนี้มีแต่เพลงที่กล่าวถึงความรักทั้งในแง่สมหวังและผิดหวัง จึงได้มีการรวบรวมเพลงค่ายฯ ที่เป็นเพลงใช้ขับร้องรอบกองไฟตอนออกค่ายอาสาพัฒนาชนบท ซึ่งเนื้อหาเพลงส่วนใหญ่จะบอกเล่าความเป็นไปของสังคมรอบตัว

“หนุ่มเต้” ผู้หวังให้เพลงค่ายฯ ปลุกหัวใจอาสาของคนรุ่นใหม่ให้กลับมา บอกต่อด้วยว่า “จริง ๆ แล้ว เพลงเป็นอีกสื่อหนึ่งที่มีอิทธิพลความคิด และเป็นแรงบันดาลใจให้กับใครหลายคน ซึ่งเพลงค่ายฯ เป็นเพลงที่ไพเราะ แม้จะไม่มีทำนองทันสมัยแบบเพลงวัยรุ่น แต่สนุก มีเนื้อหาที่จะช่วยปลุกวิญญาณให้คนรุ่นเดียวกันตื่นจากการหลับใหล จากมองโลกแค่ในมุมของตัวเอง ก็หันกลับมามองคนรอบข้างและอยากทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง อัลบั้มนี้จึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่รักเสียงเพลง เพราะสมัยนี้เพลงส่วนใหญ่มีเนื้อหาสาระไปทางพร่ำเพ้อพรรณนาถึงความสิ้นหวัง ท้อแท้ ต้องการกำลังใจ และโหยหาความรักที่มีเพียง 2 คนบนโลก ละเลยปัญหาและข้อเท็จจริงที่ว่า เราอยู่ในสังคมใบใหญ่ที่มีผู้คนมากมาย และเต็มไปด้วยปัญหาซึ่งอยู่คู่กับสังคมมาช้านาน

พวกเรารวบรวมบทเพลงใหม่ และอีกหลายเพลงที่ยังคงได้รับความนิยมในการออกค่ายอาสาเพื่ออธิบายความเป็นไปของสังคม อาทิ เพลงเธอวันนี้ เพลงประชาธิปตน เพลงคนสร้างบ้าน เป็นต้น ซึ่งทุกเพลงล้วนแล้วแต่มีแง่คิดที่เกี่ยวกับสังคมรอบตัว บางบทเพลงถามหาความยุติธรรมในสังคม บางบทเพลงเปิดโปงความเลวร้ายที่ซุกซ่อนอยู่เบื้องหลังสังคมที่ฉาบฉวย บางบทเพลงให้กำลังใจ และจุดประกายให้ผู้คนออกมาทำอะไรเพื่อสังคม อย่างเพลงเธอวันนี้มีเนื้อหาเรียกร้องให้นักศึกษาปัญญาชน หันมาใส่ใจกับปัญหาสังคม แทนการเสพสุขสบายแต่เพียงด้านเดียว ในขณะที่เพลงประชาธิปไตยมีเนื้อหาที่ตั้งคำถามต่อระบอบเศรษฐกิจทุนนิยม ที่มัวเมาผู้คนให้สรรเสริญอำนาจของเงินตรามีคุณค่าเหนือกว่าความดีงาม”

ปิดท้ายนักร้องเพลงค่ายคนนี้ บอกว่าอยากให้คนหนุ่มสาวหันมาฟังเพลงค่ายฯ บ้าง เชื่อว่าฟังแล้วจะเกิดแรงบันดาลใจ อยากออกค่ายอาสาฯ อยากทำอะไรเพื่อคนอื่นบ้าง ไม่มากก็น้อย

และนั่นคือเป้าหมายที่คนรุ่นใหม่กลุ่มนี้อยากเห็นจาก “เพื่อน” คนรุ่นใหม่ด้วยกัน

นสพ.มติชน รายวัน – หน้า 25
6 กุมภาพันธ์ 2551