ใครเปิดไฟให้ดาว เพลงนี้ถูกเขียนขึ้นในค่ำวันนั้น มันเป็นวันที่ข้าพเจ้ากำลังง้วน วุ่น ยุ่งอยู่กับการเขียนบทความเพื่อแนบเอกสารประกอบ โครงการโรงเรียนร้อยหวันพันธุ์ป่า ม.3 ต.เกาะเต่า อ.ป่าพะยอม จ.พัทลุง เพื่อส่งไปยังที่ต่าง ๆ เพื่อของบประมาณสนับสนุน แต่ก็เท่านั้นมันก็หายไปกับสายลมตามที่ต่างๆ นั่นเอง
ในความเป็นผู้ประสานงานฝ่ายกิจกรรมโครงการขณะนั้น พยายามที่จะปลุกปลูกเพลงเพื่อเด็ก ๆ ขึ้นมาอยู่เสมอ ค่ำนั้น พี่จู สุรศักดิ์ เย็นทั่ว เดินรี่เข้ามาหายังโต๊ะทำงานด้วยสีหน้าแย้มยิ้ม ตามหลังมาด้วย น้องเช ลูกชายของแก แกทักทายกับข้าพเจ้า “เณศ… พี่มีอะไรมาเล่าให้ฟัง น้องเชถามอะไรงดงามอีกแล้ว” แกสีหน้าอิ่มเอิบ แววตาเปล่งประกายถึงความสุขภายใต้หนวดยาวที่รกรุงรังบนใบหน้ากร้านวัยนั้น
“มีอะไรหรือครับพี่” ข้าพเจ้าถาม ก้มหน้าเข้าสู่จอ Computer ต่ออย่างไม่ใคร่จะสนใจในทีแรกนั้นนัก
“เมื่อครู่ตอนที่พี่ขับรถกลับมาจากบ้านหลังเก่าของพี่นั้น พี่ก็คุยกับน้องเชมาเรื่อย น้องเชถามพี่ว่า คุณพ่อครับดาวมีแม่ไหม พี่อึ่ง…คิดหาคำตอบ ตอบลูกไม่ได้ เพราะหากตอบออกไปแล้วสิ่งที่ผิดลูกอาจจะจำเอาไว้ได้ เลยตอบกลับไปว่า มีมั้ง”
ตอนนี้ข้าพเจ้าก็ยังเฉย ๆ แต่เมื่อพี่จูเล่าต่ออีกว่า “น้องเชถามพี่อีกนะเณศ ถามว่า แล้วดาวผมยาวเหมือนแม่เราไหม ดาวมีหัวใจหรือเปล่า ดาวกินข้าวกับอะไร พี่ก็เลยเงียบตอบน้องเชไม่ได้ เลยตอบส่ง ๆ ไปว่า มีเหมือนเราแหละลูก”
พี่จู เล่าไปเรื่อยจนใกล้จะจากกันเพื่ออาบน้ำอาบท่า พี่จูเลยหันมาบอกอีกว่า “เกือบลืมอีกเรื่องเณศ น้องเชถามพี่อีกว่า …ดาวส่องแสงได้ไง ทำไมดาวลอยได้ แล้วใครเปิดไฟให้ดาว”
เมื่อสิ้นสุดคำพูดนั้นของพี่จู ข้าพเจ้าหันไปคว้าเอากีตาร์ที่วางอยู่ข้าง ๆ ขึ้นมา จับปากกา เปิดหน้ากระดาษ แล้วเรียกถามพี่จูอีกครั้ง “พี่จูเล่าให้ผมฟังอีกรอบได้ไหม… ตั้งแต่ต้น!!”
พี่จูเล่าไปข้าพเจ้าก็จดรายละเอียดเป็นรูปประโยคไว้ เขียนหัวข้อเพลงแรกไว้ว่า “ดาวมีแม่ไหม” และพลิกหน้ากระดาษ เอ 4 อีกด้าน เขียนชื่อเพลงตัวเป้ง ๆ ว่า “ใครเปิดไฟให้ดาว” และเริ่มต้นร่ายกวีในเนื้อเพลงแรกคือ ดาวมีแม่ไหม ขึ้นต้นว่า
พ่อจ๋าดวงดาวมีแม่หรือเปล่า
แล้วแม่ของดาว ผมยาวเหมือนแม่เราไหม
มีแขนหรือเปล่า กินข้าวหรือกินอะไร
แม่ดาวอยู่ไหน พ่อจ๋าชี้ให้ดูที…
ดาวมีแม่ไหม แม่ดาวอยู่ไหนกันพ่อ
หรือดาวก็ท้อรอแม่เหมือนเราตอนนี้
แม่ห่างร้างไกล ความห่วงใยก็แสนริบรี่
กลางวันดาวไม่เห็นมี
รอแม่นานปีราตรีนี้ดาวคุยกับใคร…
ค่ำคืนยาวนาน ดาวเหนื่อยไหมลอยเด่นบนฟ้า
เฉียดยอดเมฆากระพริบยิบตาวับวาวพราวใส
หนูยืนดูดาว เอาแต่หาวและเหนื่อยหัวใจ
แม่ไม่รู้อยู่ไหน
โถดาวไกลเห็นแม่ของฉันหรือเปล่า
ข้าพเจ้าเขียนเพลง ดาวมีแม่ไหม จบลงภายในเวลาเพียง 5 ถึง 10 นาทีเท่านั้น ใส่เนื้อเสร็จก็ร้องให้พี่จูฟังเลย เราร้องกันอยู่ไม่กี่รอบ ข้าพเจ้าก็พลิกหน้ากระดาษกลับไปอีกรอบ พี่จูถามข้าพเจ้าว่า เณศจะทำอะไรอีกหรือ ข้าพเจ้าตอบไปว่า ผมจะเขียนเพลงนี้อีกเพลงพี่ ผมว่าน่าสนใจนะ ผมก็อยากรู้เหมือนกันครับว่าใครกันนะเปิดไฟให้ดาว
ข้าพเจ้าก้มหน้าก้มตาเขียนเพลง ใครเปิดไฟให้ดาว เพียงเบียร์ไม่พร่องแก้ว บุหรี่ไม่หมดมวน แม่เฒ่ากินข้าวไม่ทันครึ่งจาน ก็แหงนหน้าขึ้น บอกพี่จูออกไปว่า
“พี่ผมว่าเพลงนี้อีกเพลงพี่ต้องชอบแน่ ๆ ที่สำคัญมันจะติดอยู่ที่ริมฝีปากของเด็ก ๆ” ข้าพเจ้าว่า
พี่จูทำหน้างง ถามว่า “เขียนเสร็จแล้วหรือ”
“ครับพี่! ฟังดูไหมผมใส่คอตส์ G นะพี่ เสียงกลาง ๆ จังหวะน่ารัก ๆ” ข้าพเจ้าตอบ
“คิดจังหวะตอนไหน เณศ”
ผมตอบว่า “คิดตั้งแต่ตอนที่เริ่มเขียนชื่อเพลงแล้วพี่…ฟังนะ ผมจะร้องให้ฟัง”
นั่นเป็นการเปิดตัวครั้งแรกของเพลง ใครเปิดไฟให้ดาว ซึ่งจริง ๆ แล้ว ชื่อเต็ม ๆของเพลงนี้คือ “ใครนะใครคอยเปิดไฟให้ดาวยามทิวา” ผมเริ่มต้นบทเพลงนี้ เบา ๆ ด้วยจังหวะสบาย ๆ น่ารัก …
หัวใจดวงดาวที่กระพริบพราววับวาวอยู่ไหน
อยากรู้ว่าใครมาเปิดไฟให้ดาวส่องแสง
ให้เด็กหลงเพ้อ หลงละเมออยู่ทั่วดินแดน
อยากคว้าดาวมาแนบแขน เดินไปทั่วแดนอวดตาใครๆ
อยากรู้จริงหนาว่าใครเปิดไฟให้ดาว
กระพริบระยิบพราวพร่างพรายกระจายเกลื่อนฟ้า
ดวงดาวของหนูเป็นรูใครเขาบอกมา
แต่หนูไม่เชื่อหรอกหนา หากดาวเป็นรูแล้วจะส่องแสงได้ไง
ดวงดาวพร่างพราวบนทางที่เราใฝ่ฝัน
เป็นหินช่างมัน หนูยังฝันว่าดาวสดใส
ดาวเกลื่อนฟ้า แล้วใครจะอธิบาย
หากดาวเป็นรูมากมายแล้วใครเปิดไฟให้ดาว
และนี่เองคือบทเริ่มของความรู้สึกเล็ก ๆ ของนักเพลงนิรนามคนหนึ่งที่ดูจะไม่เคยมีโอกาสได้นำเสนอบทเพลงของตนเองต่อที่ใด ๆ มาก่อน หลายบทเพลงต้องขอบคุณ พี่จูและลูกชาย ที่มักจะนำความรู้สึกนึกคิดที่กลั่นออกมาเป็นคำพูดที่ข้าพเจ้าเองคิดไม่ถึง เป็นทั้งชื่อเพลงและเนื้อหา นำมาขีดเขียนร่ายเล่นเป็นบทเพลงออกมา และขอบคุณ พี่อรรณพ นิพิทเมธาวี ที่คอยสนับสนุนเรื่องงานเขียนเพลงของข้าพเจ้า
ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
ได้ฟังเพลงนี้ครั้งแรก จากพี่นกที่ส่งมาให้ ชอบมาก เมโลดี้น่ารัก อาจมีคำถามเกี่ยวกับเนื้อเพลงบ้าง แต่ก็หยิบกีต้าร์มาเล่นตาม พอมีโอกาสได้บันทึกเสียงเพลงนี้ ความรู้สึกแรกคือปลื้มใจ ขอบคุณแทนคนฟัง ที่ประดิฐประดอยบทเพลงน่ารักแบบนี้ออกมาให้ได้ร้อง ได้ฟังกันนะคะ
ครั้งแรกที่ได้แกะซองจดหมายสีน้ำตาลออก มองเห็นแผ่นซีดีอยุ่ข้างใน รุ้สึกแปลใจมาก จึงรีบนำมาฟัง ทั้งจังหวะและท่วงทำนองของเพลงประทับใจมาก อยากขอบคุณพี่นกที่ส่งเพลงมาให้ และก็ขอบคุณ พี่นุช เหมี่ยว และ โซ่-ศร ที่ถ่ายทอดบทเพลงออกมา ทำให้รุ้สึกมีกำลังใจในการทำงานสายในต่อไป ขอบคุณจริง ๆ อยากให้ไปลองหามาฟังดูครับ