เด็กชายวัย 10 ขวบ นั่งเอาไม้ขีดเขียนพื้นทราย
เขาเห็นพ่อตัวเองถูกปืนจ่อหัวและกระหน่ำยิงกับตา หลังจากนั้นการที่มีคนถูกยิงในชุมชนจึงเป็นเรื่องปกติในชีวิต แม้จะไม่รู้ความ…แต่ “เด็ก” ถูกทำให้ไร้ความเป็น “เด็ก” ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
ด.ญ. ต้องถูกบังคับให้ไปโรงเรียนทั้ง ๆ ที่ตัวเองไม่อยากไป ไม่ใช่ว่าเธอไม่อยากเรียนหนังสือ แต่…เธอกลัวสายตาของครู และคำพูดของเพื่อน ๆ นักเรียน “พ่อทำผิดอะไร? ทำไมต้องจับพ่อหนู?” คำถามที่แม้แต่คนที่จับพ่อเธอเองก็ตอบไม่ได้ แต่ที่แน่ ๆ ไม่ว่าข้อเท็จจริงจะเป็นยังไง ในสายตาของครูและเพื่อน เธอคือลูกสาวผู้ก่อการร้ายไปแล้ว เธอไม่อยากไปโรงเรียน
เกิดเหตุความรุนแรงเมื่อไร เจ้าหน้าที่รัฐจะจับกุมผู้ต้องสงสัยแบบเหวี่ยงแห นับสิบ ๆ ไม่มีการสอนสวน ไม่มีการประกัน ไม่มีทนาย ไม่มีสิทธิ์ใด ๆ ให้ประชาชนที่แค่ “ถูกสงสัย” เพราะ… “ในสงครามสิ่งที่ตายเป็นอันดับแรก คือ ความจริง”
“แม่ผมก็เป็นคนดี แต่ทำไมแม่ผมต้องตายด้วย” ประโยคสะดุดตา กระแทกใจคนอ่าน บนกระดาษ A4 สีขาวล้วนเสมือนจิตใจเด็กน้อยผู้เขียน ณ วินาทีก่อน “ระเบิด” จะพรากชีวิตแม่ของเขาไป พี่ ๆ ผู้จัดค่ายพยายามให้เขาบรรยายความรู้สึกทั้งที่ดีและไม่ดีออกมาด้วยงานศิลปะ ในที่สุดเมื่อชิ้นงานของเด็กชาย ที่กำลังเรียนอยู่ชั้น ม.2 จากจังหวัดยะลา เสร็จสมบูรณ์ พวกเรายืนนิ่ง ตามองผลงานของเขาในอารมณ์แบบ…หัวเราะร่าน้ำตาริน เพราะนอกจากเขาวาดรูปได้สวยงาม สีสันแจ่มชัดแล้ว ภาพ “ลูกระเบิด TNT ยิ้ม” มันทำให้จุกอกจริง ๆ
ภาพถ่ายรูปนี้ถ่ายด้วยโทรศัพท์มือถือ ได้รางวัล International Peace Youth Group ที่ประเทศเกาหลีใต้
“แวซีตีอัยซะห์ แวหลง” หรือ “ซะห์” เด็กผู้หญิงมุสลิม วัย 5 ขวบ ใส่เสื้อฟ้าในภาพ เธอสูญเสียขาขวาจากเหตุลอบวางระเบิดขณะที่เธอและแม่อยู่ที่ ร้าน 7-11 จังหวัดปัตตานี เมื่อวันที่ 24 พฤษภาคม 2558 ทุกวัน ๆ เธอเพียรถามแม่ (คนใส่เสื้อแดงที่นั่งข้าง ๆ ในภาพ) ว่า “เมื่อไรขาหนูจะงอกเสียที”
เหยื่อจากสงครามความขัดแย้ง มักจะเป็นผู้บริสุทธิ์เสมอ
(อ่านรายละเอียดเรื่องของซะห์ – http://www.komchadluek.net/mobile/detail/20140612/186352/แวซีตีอัยซะห์แวหลงคืนฝันร้ายหนูน้อย5ขวบ.html)
ถนนมุ่งสู่ปลายสุดประเทศไทย เต็มไปด้วยด่านทหารอาวุธครบมือเป็นระยะ ๆ ม่านฝนดำทะมึนปกคุ้มดินแดนแห่งความเกลียดชัง ปืน-ระเบิด-อำนาจ-กฎหมาย-กฎหมู่ กักขังความคับแค้นได้แค่ชั่วคราว ความขัดแย้งทางชนชาติสมมุติระคนด้วยผลประโยชน์ทางทรัพยากร เส้นทางของเถื่อน …ทหารถูกเกณฑ์ไพร่พลมาจากต่างถิ่น งบประมาณนับแสนล้านถูกทุ่มลงมาใช้จ่าย กฎหมายพิเศษคุมเข้มใช้เฉพาะที่นี่ ใช้ทุกอย่างยกเว้น “ความยุติธรรม”
ฝนซาลงไปแล้ว ด่านทหารก็ไม่มี เราเดินทางสวนทางขึ้นมาจนพ้นจากอาณาเขตแห่งสงคราม ก็ดูเหมือนประเทศนี้สงบสุข ความสุขที่ได้รับคืนทะลักล้นถึงคอหอย …วินาทีเดียวกันนี้ เด็กๆ อาจกำลังหัดประกอบ AK-47 อยู่ก็ได้
อรรณพ นิพิทเมธาวี
บันทึกการเดินทาง ตุลาคม 2557