ไม่เคยมีคอเพลงเพื่อชีวิตคนใต้ คนใดคาดคิดว่าจุดแตกหักและความขัดแย้งกันอย่างรุนแรง โดยมีผลประโยชน์เรื่องเงินๆ ทองๆ เป็นเงื่อนไขสำคัญจะเกิดขึ้นกับวงดนตรีเพื่อชีวิตวงดังที่อยู่ในหัวใจของคนภาคใต้ หรือคนภาคอื่น ๆ ทั้งประเทศอย่าง วงมาลีฮวนน่า
วันนี้ชัดเจนแล้วว่า 2 แกนนำหลักคนสำคัญของวงมาลีฮวนน่า คือ “นายไข่” คฑาวุธ ทองไทย นักร้องนำของวงมาลีฮวนน่า ขัดแย้งกันอย่างรุนแรงกับ “นายธง”ธงชัย รักษ์รงค์ จนถึงขั้นกล่าวได้ว่า “วงแตก!” และอยากยิ่งนักที่จะรวมตัวหรือขึ้นเวทีร้องเพลงร่วมกันได้อีก
“ตอนนี้ต่างคนต่างไม่ไว้ใจซึ่งกันและกันอย่างรุนแรง ครั้งล่าสุดต่างฝ่ายต่างหวาดระแวงถึงขั้นกล่าวหากันว่ามีการว่าจ้างมือปืนจากภาคใต้ และจากจังหวัดชลบุรีมายิงกัน” นี่คำบอกเล่าถึงสถานการณ์ความขัดแย้งของ 2 แกนนำมาลีฮวนน่าในวันนี้จากปากของคนใกล้ชิดมาลีฮวนน่า 1 ในสมาชิกบริษัท ดรีม เรกคอร์ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทที่แกนนำทั้ง 2 คนของ มาลีฮวนน่า ก่อตั้งกันขึ้นมาเมื่อปี 2543
ส่วนสาเหตุสำคัญที่เป็นตัวจุดชนวนให้เกิดความขัดแย้งอย่างรุนแรงกันระหว่างแกนนำ วงมาลีฮวนน่า ทั้ง 2 คน จนถึงขั้น วงแตก! ในวันนี้ คนใกล้ชิดวงมาลีฮวนน่าบอกว่าก็คือความขัดแย้งในเรื่องผลประโยชน์ที่ได้จากการขายผลงานเพลงทั้งเทป วีซีดี.คาราโอเกะ ในชุด “เพื่อนเพ” และการแสดงสดชุด “ระบำสยาม” ซึ่งแสดงที่หอประชุมมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เมื่อปลายปี 2544 ที่ผ่านมา เพราะจนถึงขณะนี้ผลงานทั้ง 2 ชิ้นนี้ ยังขายดิบขายดี เชื่อกันว่าทำเงินให้มาลีฮวนน่าในนามบริษัทดรีม เรกคอร์ด ไปแล้วไม่ต่ำกว่า 30 ล้าน
ถึงวันนี้สิ่งหนึ่งที่สังเกตุและบอกได้อย่างชัดว่า วงมาลีฮวนน่า…แตกแล้ว! นั่นก็คือการแสดงคอนเสริตทุกครั้งต่อไปนี้ จะไม่ใช้ชื่อในนามวงมาลีฮวนน่าอีกแล้ว แต่จะใช่เพียงในนามของ “ไข่-มาลีฮวนน่า” หรือ “ธง-มาลีฮวนน่า” เท่านั้นเอง
คนใกล้ชิดวงมาลีฮวนน่ากล่าวอย่างเสียดายด้วยว่า “ความจริงแล้ววันนี้เทปชุดใหม่ ซึ่งเป็นชุดที่ 6 ของวงมาลีฮวนน่า นั้นเสร็จแล้วเกือบ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เมื่อเกิดความขัดแย้งจนถึงขั้นวงแตก แล้ว เทปชุดนี้จะออกมาได้อย่างไร และที่สำคัญมีหลาย ๆ เพลงคุณภาพ ที่ทั้ง ไข่ คฑาวุธ ทองไทย และ ธงชัย รักษ์รงค์ ร้องคู่กัน อาทิเช่น เพลงปาร์ตี้มาลีฮวนน่า”
“เทปชุด 6 นี้คงจะเป็นชุดสุดท้ายในนามวงมาลีฮวนน่า และน่าจะเป็นชุดประวัติศาสตร์ เพราะออกมาท่ามกลางความขัดแย้งและความแตกแยกของสมาชิกในวงมาลีฮวนน่า” คนใกล้ชิดมาลีฮวนน่า กล่าวทิ้งท้าย
วงมาลีฮวนน่า เริ่มก่อตั้งขึ้นในปี 2534 โดยกลุ่มนักศึกษาศิลปะที่รวมตัวกันโดย คฑาวุธ ทองไทย ซึ่งช่วงนั้นกำลังเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัยศิลปากร, ธงชัย รักษ์รงค์ ซึ่งเล่นดนตรีอยู่ตามผับทางภาคใต้, สมพงษ์ ศิวิโรจน์เรียนอยู่ไทยวิจิตรศิลป
มาลีฮวนน่า เป็นคำกลายมาจากภาษาอังกฤษ (Marijuana) แปลว่า กัญชา ชื่อของวงเกิดจากช่วงนั้น สมพงษ์ ศิวิโรจน์ กำลังคลั่งไคล้เร็กเก้เลยตั้งชื่อวงว่ามาลีฮวนน่า ซึ่งเป็นคำที่บัญญัติขึ้นใหม่จากรากเดิม (ภาษาอังกฤษ) ซึ่งอาจหมายถึงดอกกัญชา ดอกไม้แห่งดนตรี ไม้แห่งสันติภาพ แล้วแต่ใครจะรู้สึก
ในช่วงปี 2534 ทุกคนตั้งใจจะทำวงขึ้นมาแต่ก็ต้องหยุดลงเพราะ สมพงษ์ ศิวิโรจน์ เกิดท้อถอยกับปัญหาสังคม ทุกคนจึงจำต้องแยกย้ายกันไประยะหนึ่ง
ในปี 2537 “วงด้ามขวาน” โดย อาจารย์ยงยุทธ คำศรี ได้ออกอัลบั้มเพลงใต้ดินแล้วได้รับการต้อนรับจากแฟนเพลงมากมาย วงด้ามขวานได้จุดประกายให้กลุ่มเพื่อน ๆ กลุ่มนี้มีกำลังใจที่จะทำวงขึ้นมาอีกครั้ง
และในปี 2537 นี้เอง วงมาลีฮวนน่าได้เกิดขึ้นสมบูรณ์แบบ อัลบั้มแรกใช้ชื่อว่า บุปผาชน โดย คฑาวุธ ทองไทย รับหน้าที่ร้องนำ, ธงชัย รักษ์รงค์ ร้องนำ/ กีต้าร์, สมพงศ์ ศิวิโรจน์ รับหน้าที่แต่งเพลง และเชิดชัย ศิริโภคา ได้เข้ามาร่วมอีกหนึ่งคนในการช่วยเหลือเรื่องการเงินสำหรับการทำเทป แนวเพลงชุดแรกของมาลีฮวนน่ากลิ่นออกไปทางโฟล์คซองและอะคูสติค
เนื้อหาของเพลงจะบอกถึงแนวความคิดที่เป็นตัวของตัวเองและสะท้อนสังคมใกล้ตัวได้อย่างเด่นชัดด้วยเอกลักษณ์ทางดนตรีที่ใช้ภาษาท้องถิ่นภาคใต้ เรื่องราวของความรัก การต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเอง โดยออกวางขายแบบใต้ดิน ฝากขายตามแผงเทปต่างๆ เช่นร้านน้องท่าพระจันทร์ ภายในเวลาไม่นานมาลีฮวนน่าก็สามารถสร้างชื่อให้เป็นที่รู้จักของแฟนเพลงทั่วประเทศด้วยเพลง หัวใจพรือโฉ้,ลมเพ ลมพัด,เรือรักกระดาษ, ในปี 2537 มาลีฮวนน่าสามารถขายเทปได้ 20,000 ม้วน เป็นประวัติการณ์ของวงแนวอินดี้
ในปี 2538 มาโนช พุฒตาล เจ้าของค่ายไมล์สโตน เกิดความสนใจจึงชักชวนให้ มาลีฮวนน่า เข้ามาร่วมงานกับค่ายไมล์สโตน มาลีฮวนน่าเริ่มออกทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศในปี 2539 ชื่อของมาลีฮวนน่าได้รับการยอมรับจากแฟนเพลงมากมายจนติดอยู่ในอันดับต้นๆ ของวงการเพลงเพื่อชีวิต
ในปี 2540 มาลีฮวนน่าออกอัลบั้มชุดที่ 2 ชุด คนเช็ดเงา ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากแฟนเพลงด้วยดีจากเพลงโมรา,ชะตากรรม และในปี 2542 ตามมาด้วยอัลบั้ม กลับกลาย เป็นอัลบั้มที่แฝงไปด้วยบทกวีมีสาระที่ปลุกปลอบประโลมให้กำลังใจ
ปี 2543 มาลีฮวนน่าได้เริ่มผลิตผลงานในนาม บริษัท ดรีม เรคคอร์ด จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทของตัวเองโดยมี 2 หัวเรือใหญ่ คฑาวุธ ทองไทย ,ธงชัย รักษ์รงค์ เป็นหุ้นส่วนใหญ่ และอัลบั้มเพื่อนเพก็ได้เกิดขึ้นจากการที่ มาลีฮวนน่า ได้เดินทางไปทัวร์คอนเสิร์ตทั่วประเทศแล้วได้พูดคุยกับเพื่อนพ้องกลุ่มศิลปิน นักประพันธ์ต่างๆ ที่เขียนงานเพลงขึ้นมาแล้วไม่มีโอกาสที่จะได้เผยแพร่ต่อที่สาธารณะชน มาลีฮวนน่าในฐานะที่มีโอกาสได้แสดงผลงานจึงมอบโอกาสนี้ให้กับเพื่อน ๆ ด้วยการรวบรวมบทเพลงเหล่านี้มาใส่ใน อัลบั้ม เพื่อนเพ
แต่ใครจะคาดคิดว่า บริษัท ดรีม เรคคอร์ด กำลังเป็นเพียงบริษัทเพลงในฝันของวงมาลีฮวนน่าในปัจจุบัน และผลงานเพลงชุดเพื่อนเพ จะเป็นผลงานเพลงชุดสุดท้ายของมาลีฮวนน่า และผลงานเพลงในชุดนี้ก็เป็น 1 ในผลประโยชน์ ที่ทำให้ “เพื่อนพ้อง” ต้องขัดแย้งกันอย่างรุนแรงถึงขั้นเลิกคบกัน และมาลีฮวนน่าก็พบจุดจบไม่ต่างกับวงดนตรีวงอื่น ๆ อีกหลาย ๆ วง นั่นก็คือ “วงแตก!”
สถานการณ์วงแตก! ของมาลีฮวนน่าในวันนี้ คงจะจบไปพร้อมๆ กับความฝันและความตั้งใจที่จะทำงานเพื่อสังคม โดยหันไปสนใจให้ความสำคัญกับภาคเกษตรตามแนวพระราชดำริของในหลวง โดยจะพยายามสร้างงานภาคเกษตรของคนไทยให้ไปสู่สากล ผลักดันภาคเกษตรของคนไทยให้ไปให้ได้รับการยอมรับจากทั่วโลก เน้นผู้คนให้รักที่มาและ รากเหง้าของตนเอง ขุดลึกไปถึงแก่นแท้ของความเป็นไทย มีความภาคภูมิใจในภูมิปัญญาของคนไทยด้วยกัน ซึ่งทั้งคฑาวุธ ทองไทย และ ธงชัย รักษ์รงค์ พยายามสร้างฝันนี้มาตลอด
นอกจากนั้น สถานการณ์วงแตก! ของมาลีฮวนน่าในวันนี้ คงจะทำให้ความฝันที่มาลีฮวนน่าจะจัดคอนเสิร์ตในรูปแบบปาร์ตี้ที่เกาะพะงัน ซึ่งจะใช้ชื่อคอนเสิร์ตครั้งนี้ว่า yan in phangan (ยันต์ อิน พะงัน) จบลงไปด้วย
เพราะหนึ่งในเพลงโปรโมท ในคอนเสริต “ปาร์ตี้เกาะพงัน” ก็คือเพลง “ปาร์ตี้มาลีฮวนน่า” ซึ่งเป็นเพลงที่ร้องคู่กันระหว่าง คฑาวุธ ทองไทย และ ธงชัย รักษ์รงค์
เพราะสถานการณ์ในวันนี้หรืออนาคต ดูท่าทีแล้วเป็นไปไม่ได้เลย ที่ทั้ง 2 คนนี้ จะขึ้นเวทีร้องเพลงร่วมกันได้อีก และเป็นไปไม่ได้เลยที่ “มาลีฮวนน่า” จะหนีจากคำว่า “วงแตก!” ไปได้
หนังสือพิมพ์ท้องถิ่นภาคใต้ สมิหลาไทมส์
(www.samilatimes.com)