
สองสามเดือนก่อน บ้านเรามีสมาชิกใหม่ที่มาคอยสร้างสีสัน บ้านที่เป็นเพียงอาคารพาณิชย์ กลางเมืองหลวงอย่างกรุงเทพฯ การมีกระรอกน้อยสามสี่ตัวมากระโดดไปมา ปีนป่ายกำแพงสูง กำแพงขาว ๆ จึงมีพวงหางกระรอกสีแดงสีขาวแต่งแต้มพอให้สมาชิกในครอบครัวเพลินตาเพลินใจ
ครอบครัวกระรอกมี 4 ตัว หน้าที่ของกระรอกตัวใหญ่สุดคือ การหาอาหารให้กับสมาชิกตัวอื่น ๆ อาม่าเข้าใจว่า กระรอกก็คงเหมือนสิ่งมีชีวิตทั่วไป คือ เมื่อหิวก็หาอาหารกิน และกระรอกที่อยู่กลางเมืองใหญ่การหาอาหารก็ไม่ใช่เรื่องง่าย อาม่าใจดี จึงวางแตงกวาบ้าง กล้วยบ้าง และอื่น ๆ ที่คิดว่ากระรอกกิน ไว้ตามจุดต่าง ๆ ที่เจ้ากระรอกเดินผ่าน หลาย ๆ ครั้งเข้า กระรอกน้อยก็รู้ว่า อาหารอยู่ตรงไหนบ้าง วางปุ๊บ มันก็เดินดิ่งมาที่อาหารในทันที เจ้าครอบครัวกระรอกก็อ้วนเอา ๆ
แต่แล้ว…ในวันที่ไม่มีใครอยู่ในบ้าน กระรอกย่ามใจ เดินเข้ามาหาอาหารในบ้าน กินกล้วย ส้มของคนที่อาม่าวางไว้ แต่กระรอกตัวเล็กกินไม่หมดและคงไม่สามารถจะแบกกล้วยทั้งใบ ส้มทั้งลูกกลับไป ทิ้งเป็นหลักฐานให้อาม่ามาเห็นเข้า เกิดอะไรขึ้นหลังจากนั้น…อาม่าไม่พอใจ เพราะรู้สึกว่า ให้กินแล้วไม่พอยังมาขโมยกินอีก กระรอกทำแบบเดิมอีกหลายครั้งหลายครา
บ่ายวันนั้น อาม่าจึงเอากรงดักหนูมาเตรียมไว้สำหรับดักกระรอกหัวขโมย (ถ้าใครเคยเห็นกรงดักหนู จะรู้ว่ากลไกการทำงานของมันไม่ได้มีไว้ทำให้เหยื่อในกรงตาย เพียงแค่กักเอาไว้ในกรงเท่านั้น อาม่าก็คิดเช่นนนี้ และคิดเพียงว่าจะจับตัวมันไปปล่อยที่อื่น) ในกรงมีกล้วย และกระรอกเจ้ากรรม หิวโซ เดินไปมา ปีนป่ายรอบกรง…เป๊ก…เสียงสปริงที่เกี่ยวกล้วยดีด ทันใดนั้นประตูกรงก็ปิดลง
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า เสร็จ ๆ คอยดูนะ เจ้าสามตัวที่เหลือ ไม่รอดแน่” แม่บ้านที่นั่งเป็นกองเชียร์มองดูกระรอกตกหลุมพรางหัวเราะร่าด้วยความสะใจ พร้อมชี้มือไปที่กระรอกตัวอื่น ๆ ที่กำลังตื่นตระหนกที่เห็นเพื่อนอยู่ในกรง
“อ้าว…กินกล้วยซะ ๆ กินซิ ๆ” อาม่าบอกกระรอกในกรง
แต่มันไม่เป็นเช่นนั้น… กระรอกตัวนั้นไม่สนใจกล้วยอีกต่อไป มันดิ้นไปมาอยู่ในกรงอย่างทุรนทุราย กัดกรงจนปากเลือดออก
ณ นาทีนั้น อิสรภาพ คงจะสำคัญกว่า ความหิวโหย
ณ นาทีนั้น ทำให้คิดถึงใครหลายคนบนโลกใบนี้
ณ นาทีนั้น ใครหลายคนคงกำลังทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้อิสรภาพ
ณ นาทีนั้น อิสรภาพของพวกเขายังถูกพันธนาการ
ณ นาทีนั้น อาหารเลิศหรู หลังกำแพง หลังลูกกรง ช่างไร้ความหมายสิ้นดี
“แปลกนะ ตั้งแต่วันนั้น ยังไม่เห็นกระรอก 3 ตัวที่เหลืออีกเลย” อาม่ารำพึงรำพัน
จุฬารัตน์ ดำรงวิถีธรรม
” แสงแห่งอิสรภาพ ”
โอ้ แสงแห่งอรุณชื่น
เจ้ามิเคยปลุกข้าตื่นจากตัณหา
อันนิจเนื่องโดยฝันวันเวลา
ดั่งหลับใหลเนิ่นมาหนอชีวิต
โนมพรรณแห่งวิตก
สะท้อนทกอยู่ในห้วงวิปริต
สันฐานอันงดงามแห่งความคิด
เคลื่อนถูกผิดในทางบ่งย่างก้าว
ผันผ่านรัตติกาลอันโหยหา
มโนฝันจินตนาเกินบอกกล่าว
ดั่งมายาเปล่าเปลืองฝากเรื่องราว
รุมร้อนหนาวผ่านใจกระไรซึ้ง
เพราะข้าตื่นอยู่ในกองกิเลส
อันเป็นเหตุให้จิตเร้นมิเป็นหนึ่ง
นรกานต์สะท้านไหวในรำพึง
สุดจักซึ้งสรรพธรรมนำชีวิต
โอ แสงแห่งอรุณชื่น
เจ้ามอบยื่นวันใหม่มาให้จิต
นั่นก็ดีนี่ก็งามตามแต่คิด
ลุกขึ้นบิดกายซ่านโดยร่านเร้า
————————
ขอบคุณ ลานเทวา
(ลอกเค้ามาครับ) ^^
ไม่รู้เกี่ยวกันมั้ย
อีก 3 ตัว หายไป ชีวาของคนที่อยู่ในอาคารพาณิชย์ กลางเมืองหลวง ที่ถูกเติมด้วย กระรอก ก็คงหายไปเช่นกัน ว่าไหม…
ถ่ายภาพสวยดีค่ะ…
โอ้….เจ้า กระรอกน้อย….หลังบ้านผมก็มี 2-3 ตัว
อิสรภาพจะอยู่ในอำนาจได้
ถ้าหากเรารู้จักความพอเพียงของจิตใจ
ต่างจาก
ผู้ที่ยังหิวโหยและกระหายอยากได้อยู่……
คงไม่พอสำหรับเขาเหล่านั้น……
คนเราจะรู้ค่าของที่มีอยู่ ก็ต่อเมื่อได้เสียมันไปแล้ว

ต้นไม้ สายลม แสงแดด เพื่อน แฟน คนขับรถใจดี ตำรวจคนซื่อ ดาบวิชัย คานธี ลุงเย็น หลวงพ่อข้างบ้าน ฯลฯ คุณเห็นเค้ามั้ย