
3 เมษายน 2563 – ชุมชนเสมือนจริง
ท่ามกลางสถานการณ์โควิด-19 ที่ใครต่อใครต้องทำงานที่บ้าน การอยู่บ้านหรือคอนโดในเมืองหลวงอาจจะไม่ใช่เรื่องน่าภิรมย์นัก เพราะหันซ้าย หันขวา ก็จะเจอแต่คนในบ้านเดียวกัน สิ่งที่เรียกว่า “เพื่อนบ้าน” ในกรุงเทพฯ ซึ่งไม่ใช่เพื่อนบ้านแบบในชุมชนหรือหมู่บ้านต่างจังหวัดที่เดินไปไหนก็รู้จักกันหมด ทักทายกันบ้างตามประสา ยังมิพักต้องพูดถึงการแบ่งปันอาหาร และตั้งวงนินทากันสนุกสนาน กระนั้นก็ตาม เวลามีปัญหาก็มีเพื่อนบ้านนี่แหละช่วยเหลือ เฝ้าบ้าน ไปจนถึงดูแลห่วงใยยามเจ็บป่วย ในกรุงเทพฯ กลับจากที่ทำงาน ต่างคนต่างปิดประตูบ้านเข้าบ้านใครบ้านมัน ไม่เคยได้รู้จักมักจี่
การเกิดวิกฤติโควิด-19 ที่บังคับให้เราทั้งหลายต้องอยู่บ้าน จะออกจากบ้านก็เพราะต้องออกไปหาเสบียงเพิ่มเท่านั้น เราเองก็เป็นหนึ่งในนั้น ชีวิตแทบจะเป็นวงจรซ้ำ ๆ ตื่นเช้า กินข้าว ทำงาน กินเที่ยง ทำงาน ทำกับข้าว ดูหนัง เข้านอน วนไป
แต่แล้ว…เช้าวันหนึ่งมีคนมาหย่อนใบปลิวในตู้ไปรษณีย์แจ้งว่า หากสนใจให้แอดไลน์ เป็นกลุ่มไลน์ของคนในหมู่บ้านที่เอาไว้ขายของเฉพาะคนในหมู่บ้านเท่านั้น เลยลองแอดเข้าไปดู
ปรากฎว่าสมาชิกในห้องไลน์หมู่บ้านขายของกันสนุกสนาน ตั้งแต่อาหารคาว หวาน เครื่องดื่ม อุปกรณ์มือถือ เจลล้างมือ หนังสือมือสอง ยันเครื่องชงกาแฟ
กลายเป็น “ชุมชน” เล็ก ๆ ที่เสมือนจริง เพราะจากที่ไม่เคยได้รู้จักว่าใครอยู่บ้านไหนก็ได้รู้ ได้แลกเปลี่ยนของกินกันโดยที่ยังคงมีเงินเป็นสื่อกลาง บ้านนี้ไปส่งน้ำปั่นบ้านนั้น พร้อม ๆ กับเเวะเอาข้าวมันไก่อีกบ้านที่สั่งไว้มากิน ได้เดินไปมาหาสู่ระหว่างกัน
ในช่วงเพิ่งเริ่มต้นหมู่บ้านจัดสรรในเมืองแบบนี้อาจจะไปไม่ถึงความเป็นเพื่อนบ้านแบบในต่างจังหวัด แต่โควิดก็ได้ก่อร่างสร้างชุมชนเล็ก ๆ นี้ให้มีชีวิตชีวามากกว่าที่เคยเป็น เราคิดว่าไอเดียนี้ดี และอยากแบ่งปัน เผื่อใครอยากเอาไปทำในหมู่บ้าน คอนโด หรือชุมชนของตัวเอง
1 พฤษภาคม 2563 – เหตุเกิดจากคำถาม
ด้วยความตั้งใจอยากจะซื้อ “นมผง” เพื่อมอบให้ มูลนิธิกระจกเงา นำไปช่วยเหลือผู้คนที่เดือดร้อนในช่วงโควิด-19 โดยเฉพาะแม่ที่ลูกยังเล็ก ๆ
วันอังคารที่ผ่านมา (28 เมษายน 2563) จึงพิมพ์ข้อความไปถามในไลน์กลุ่มของหมู่บ้านว่า “พอจะมีใครแนะนำร้านขายนมผงแถวนี้ไหมคะ? อยากซื้อไปบริจาค” เหตุเพราะอยากอุดหนุนร้านค้าแถวบ้าน ที่ไม่ใช่ห้าง หรือ ซุปเปอร์มาร์เก็ต
หลังจากมีคนมาชี้เป้าร้านแล้ว ก็เริ่มมีคนมาส่งข้อความมาส่วนตัวมาถามว่า “บริจาคที่ไหน” “ฝากบริจาคด้วยได้ไหม” “เขารับบริจาคอะไรบ้าง” อื่น ๆ อีกมากมาย ข้าพเจ้าเลยตัดสินใจโทรถามมูลนิธิกระจกเงา ว่าถ้าของเยอะมารับของได้ไหม ทางมูลนิธิฯ โอเค ข้าพเจ้าเลยส่งข้อความเข้าไปในไลน์กลุ่มของหมู่บ้านว่า “ใครสนใจบริจาคของให้เอามาส่งได้ที่บ้าน ปิดรับของวันศุกร์เวลา 20:00 น.”
ผลปรากฎว่า คนเอาของมาบริจาคมากพอสมควร บางคนมีภารกิจยุ่งก็มอบเงินสดฝากสมทบทุนเพื่อซื้อนมผง (แบบที่เห็นในรูป) หลัก ๆ แบ่งเป็นของ 2 ประเภทคือ
- ของกิน – อาหารแห้ง นมผง ข้าวสาร ปลากระป๋อง ที่พร้อมจะส่งให้ผู้ได้รับผลกระทบจากโควิด-19
- ของใช้ – เสื้อผ้า จักรยาน หนังสือ ของเล่น รองเท้า เครื่องไฟฟ้า ฯลฯ
รวมจำนวนผู้บริจาคมาจากกว่า 20 ครอบครัว




ขอบคุณ มูลนิธิกระจกเงา ที่มารับของในเวลานี้ที่มูลนิธิฯ เองก็ยุ่งมากแล้ว โดยเฉพาะ ออย (Aoy Kornkanok) ที่ช่วยประสานงาน พี่เอ (Thanapon Songput) ที่ขับข้ามเมืองมารับของถึงที่ ขอบคุณ พี่แพร (Phrae Bae) จากทีม Covid19Matching และพี่อ้อ (Pattaraphon Phoothong) ที่ประสานชี้เป้าคนขายนมผงให้ในราคาดีงาม และร่วมบริจาค
ที่สำคัญขอบคุณเพื่อนบ้านทุกคนที่ร่วมกันบริจาคของ นี่ก็ครบครบ 1 เดือนของการตั้งกลุ่มไลน์ขายขอาหาร ที่ตอนนี้ไปไกลถึง รับจ้างลับมีด กันคิ้ว ดูดวง และ รับเช่าพระเครื่อง
ภารกิจครั้งนี้ทำให้ชุมชนหมู่บ้านจัดสรรได้รู้จักกันเพิ่มมากขึ้น กระชับความสัมพันธ์ให้ใกล้กันเข้ามาเพิ่มมากขึ้นอย่างที่ไม่คิดว่า จะเกิดขึ้นได้ในหมู่บ้านชุมชนเมืองแบบนี้
จุฬารัตน์ ดำรงวิถีธรรม