ป่ายิ้มให้เด็กน้อย… สายน้ำรักษาบาดแผลของหน้าดินและความรู้สึกที่แตกร้าวให้เป็นแผลเดียวกัน เนื้อเดียวกันทีละนิด… ฝนหัวเราะร่าเริงเป็นหยดน้ำฉ่ำชื่น น้ำแตกกระเซ็นปลาเล็กนับล้านไล่ต้อนปลาช่อนยักษ์ที่เข้าไล่คลุกครามแผ่นดินตน ดอกไม้ริมน้ำเหี่ยว แต่กับสดขึ้นมาใหม่อีกครั้งเมื่อสาวน้อยคนหนึ่งลงแหวกว่ายเล่นในสายธารลำพัง
ชายหนุ่มหนีหน้าจากเมือง โบกรถเข้าสู่ป่า ในกระเป๋าเป้ใบนั้นมีป่าจากเมืองอยู่ในกระเป๋าของเขา!
ชายหนุ่มขายบางสิ่งเพื่อแลกซื้อของบางอย่าง ร่างกายอาบอายเหงื่ออาบอายร้อนทั้งวัน สองแขนบาดเช็ดเหงื่ออยู่ได้มิได้ขาดไปเลยสักเพียงนาที หยดเหงื่อของชายหนุ่มเหมือนสายน้ำที่คอยรดราดรากไม้ใต้ดิน อีกสองก้าวเขาจะถึงซึ่งจุดมุ่งหมาย แต่ไม่ใช่เป้าหมายแห่งห้วงกาลที่เก็บซ่อนอยู่เงียบ ๆ
สิ้นสุดการก้าวเดิน…
เขาจัดวางกระเป๋าด้วยความร้อนรน ความฝันซึ่งมาถึงจุดหมายไม่ใช่จะทำอะไรได้ง่าย ๆ
เขาแบ่งดินออกเป็นส่วน แบ่งดินออกเป็นหว่าง ผ่าตัดบางสิ่งที่ปลอมแปลงเข้ามาทิ้งไป เผาไป ให้อีกาอีแล้งซึ่งเขาไม่เคยเห็นมาก่อนรุมทึ้งแทะเล็ม จิกกิน ตัดกิ่งก้านเน่า ๆ บางกิ่งบางตอนทิ้งไป ตัดทอนบางอย่างโยนทิ้งขว้างอย่างไม่ปราณีที่ตรงนี้ไม่จำเป็นต้องมีบางอย่าง แต่จำเป็นต้องมีบางสิ่ง
ภาคหนึ่ง เพื่อปากท้อง!
ภาคหนึ่ง เพื่อลูกเมีย!
ภาคหนึ่ง เพื่อวันข้างหน้า!
ภาคหนึ่ง ในตอนนั้นเขาบอกว่าที่สุดแล้วเพื่อเด็ก ๆ เพื่อเด็ก ๆ จะได้มีป่าของพวกเขาเพื่อเอาไว้วิ่งเล่น ไว้วาดภาพ
ภาคหนึ่ง ชายหนุ่มตะโกนออกมาดังลั่น… “กูจะปันแบ่งให้สังคมที่เลวทราม! สังคมที่กำลังตกต่ำ ผู้คนที่กำลังลุ่มหลงซึ่งอำนาจและกำลังหลงลืมบางอย่าง”
ผู้คนเหล่านี้ถึงคราวต้อง…
จอบเก่าสนิมเขรอะ ไร้ด้าม เขาหาด้ามมาใส่ให้มันใหม่ หลุมแรกหว่างฝันนั้น เขาฝันเห็นป่างามปรากฏ เขาทิ้งจอบและวิ่งเข้าไปดูป่าในกระเป๋าของเขา เกิดรอยยิ้มเงียบ ๆ ลำพัง
จอบแตกแหกทางอันยากเข็ญ ลมผ่านไม้ปลิว น้ำเล่นไหล ใจมั่น เหงื่อหยาดหยดรดแววตาหลังม่านหนังวัยหนุ่ม เสียงเหล็กกระทบแผ่นดิน ลมโบกไหวสะบัดพัดผ่าน ต้นไม้กรีดเสียงกังวาน กบ-เขียด-อึ่งอ่าง-ต่างวาระเดียว
ภาพเกลียวคลื่นลมหมุนวนผันผ่าน ผูกพันหว่านหวังรวมพลังหลอมรัดข้างใจ เสียงน้ำไหลดังขึ้น ผักเติบโต ต้นไม้ใหญ่ แมงปอล้อลมพลิ้วฝัน ผีเสื้อดมดอกไม้เน่าข้างริมทาง ต้นไม้งามแข่งขันในกระเป๋าเป้ใบใหญ่
ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
อ่านบทนี้..
อ่านและคิดคล้อยตาม
ช่วยไม่ได้จริง ๆ ครับครูเณศ ผมนึกถึงท่านจ่าง แซ่ตั้ง
มิได้บอกว่าเหมือน
มิได้บอกว่าลอกเลียน
มิได้บอกว่าแรงบันดาลใจ
แต่บรรยากาศและแรงดึงดูดของเรื่อง
ทำให้ผมคิดเช่นนั้นจริง ๆ
หากผ่านการพิสูจน์อักษรอีกสักครั้ง
จะได้บทความขนาดย่อที่ดีมากอีกบทหนึ่งทีเดียว
อ่านแล้วมีพลังฮึกเหิมโดยไม่รู้ตัว
อยากกระโดดเตะก้านคอไอ้พวกลักลอบตัดไม้ทำลายป่า
ไอ้พวกฝันจอมปลอมด้วยน้ำลาย
ปีศาจทุนนิยม ผู้ลอกคราบนักการเมืองออกไปได้ไม่หมด
อยากอ่านบทต่ออีกครับ
ขอบคุณสำหรับบทนี้
ไปละ อิอิอิ
ถ้าบ้านเมืองของเรามีสำนึกที่ดีแบบนี้เยอะ ๆ ก็ดีนะคะ บ้านเราในปัจจุบันคงไม่เป็นแบบนี้ มีแต่ควันพิษ อากาศเสียทั้งนั้นเลย ที่บ้านชอบปลูกต้นไม้ค่ะมีหลายต้นเลย