เมื่อวานนี้ไปซื้อของที่ห้างบิ๊กซี สาขาพระราม 2 ที่สะพานลอยคนเดินข้าม มีผู้ชายคนหนึ่งมายืนแจกใบปลิว ลักษณะคล้ายหนังสือพิมพ์ขนาดเล็ก เดินไป อ่านไป เข้าใจได้ว่าเป็นของฝ่ายตรงข้ามกับรัฐบาลปัจจุบัน ไม่กล้าจะอ่านให้ครบจบข่าวทุกหน้า เพราะเกรงว่าจะสับสนในข้อมูลทางการเมือง เนื่องจากข่าวที่เสพทางหน้าหนังสือพิมพ์และจอเหลี่ยมที่บ้าน ก็ยังด้อยปัญญา ไม่สามารถแยกแยะความจริงสิ่งเท็จ
อีกประการหนึ่ง กระแสที่สาดข่าวออกมาให้ดูชมดมอ่าน ก็ไม่ได้แตกต่างจากอดีตที่คุ้นตา ราวกับว่าการข่าวได้ถูกตีตราให้เป็นประเพณีนิยมที่ผู้ได้เปรียบมักจะข่มขย่มผู้ที่เพลี่ยงพล้ำในสังเวียนการเมืองให้เสียหลักล้มกลิ้ง ประกาศกันชัดเจนว่า ทีเอ็งข้าไม่ว่า ทีข้าเอ็งอย่าร้อง หรือพูดง่าย ๆ ว่า T WHO T IT ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องธรรมดาของวัฎจักรแห่งอำนาจ
การเสพข่าวการเมืองในทุกวันนี้จึงเป็นแค่การลิ้มรส “เหล้าเก่าในโหลยาดองใหม่” ซึ่งสำหรับผู้เสพแล้วรสชาติมันขมขื่นบาดคอร้อนแรงเช่นเคย เพราะไม่ใช่ปรากฏการณ์แปลกใหม่แต่อย่างใดในสังคมนี้
เมื่อเป็นดั่งนั้นแล้ว ประชาชนคนเดินฟุตบาทราชวิถี ที่สามารถทำใจให้ลื่นไหลคุ้นเคยไปได้ตามสภาพเหตุการณ์ ก็จะรู้สึกได้ถึงอรรถรสในการชมบทบาทของตัวละครในข่าวที่ทยอยกันออกมาร่ายรำผลัดกันย่ำยีคู่อาฆาต เริ่มตั้งแต่ คู่ซ้อม คู่เปิดสนาม คู่ขั้นรายการ คู่ชิงบ๊วย รองคู่เอก และคู่เอกของรายการยุคนั้น ๆ
ดูกันไปเรื่อย ๆ เบื่อ หรือ เมื่อยก็เลิกดู ปิดหูปิดตาเสียบ้างบางเวลา หรือจะเลือกมีโรคประจำตัว เช่น โรคหูตึงชั่วคราว โรคตาตี่หรี่ตาดู เป็นต้น
นอกจากนั้นแล้ว สิ่งที่ประชาชนอาจทำได้อีกวิธีหนึ่ง ได้แก่การพึ่งสิ่งศักดิ์ที่ตนนับถือ ภาวนาสวดมนต์อ้อนวอนให้เหตุการณ์คลี่คลายไปในทางที่ดี… ซึ่งปฎิเสธไม่ได้ว่านั่นคือความในใจของคนไทยทั้งชาติ ที่ต่างหวังเอาไว้ว่าต้องมีสักวันที่จะได้เสพข่าวบ้านการเมืองอย่างสุขใจ ได้ชื่นชมเนื้อหาสาระข่าวดี ๆ ในวันที่ความสงบเกิดขึ้นในบ้านเมือง ผู้คนอยู่ดีกินดี มีงานทำ มีเงินใช้ ข้าวไม่ยากหมากไม่แพง หรือ ขอแค่รถเมล์สาธารณะ พาหนะคู่ใจของคนใช้แรงงานเลิกเห่อขายตั๋วแพง
ภารกิจนี้จึงถูกโยนลูกให้เป็นหน้าที่ของผู้ที่คิดว่ามีสิทธิและอำนาจเต็มในการบริหารประเทศโดยชอบธรรม ที่ถึงคราวต้องเร่งเวลา หันหน้ามาร่วมมือกันทำงานเพื่อประเทศชาติ ที่ประกาศกันปาว ๆ ว่ารักและหวงแหน ห่วงใยกันนักหนา อย่างน้อยก็ขอให้เปลี่ยนแปลงต้นฉบับข่าวรายวันให้ประชาชนได้เสพ “ข่าวที่รอคอย” ด้วยใบหน้าที่เปื้อนรอยยิ้มกันบ้าง
จะว่าไปแล้วถ้านาทีนี้หากผู้ใดทำได้.. ให้เห็นเป็นรูปธรรมดั่งคำพูด.. มีหรือประชาชนจะไม่เทคะแนนให้หมดหน้าตัก… รักหมดใจ…
อยากเขียนมั่ง… เอาม่วนเด้อ ป๊าวเครียด and serious แต่ประการใด….. เดินทางสายกลางสบายใจแต้ ๆ พี่น้อง
jigkee
การเมือง…ตอนนี้ น่ากังวลครับ… มักถูกจับสังกัดฝ่ายเสมอ ๆ จริง ๆ ประชาชนอย่างเรา ๆ ก็เป็นแค่เบี้ยในเกมส์แห่งอำนาจอยู่แล้ว ยังไงก็แล้วแต่… ผมยังเชื่อว่าทางออกคือการเมืองแบบมีส่วนร่วมของภาคประชาชนนะ ทำยังไง…ภาคประชาชนจึงจะมีบทบาทบ้าง…
สวัสดีค่ะ คุณ Annop
เมื่อสองวันก่อนค้นหาข้อมูลเรื่องอาหารการกิน จึงได้เข้ามาอ่าน ใน website แห่งนี้โดยบังเอิญ ชอบอ่านเรื่องราวของนักเขียน ที่ถ่ายทอดเรื่องราวที่ออกมาจากประสบการณ์และ ความรู้สึกแท้จริงในใจค่ะ เพราะเนื้อเรื่องเป็นความบันเทิงที่แฝงไปด้วยความรู้ใหม่และการให้ผู้อ่านได้มีโอกาศเรียนรู้ผู้อื่นในหลายๆมุมมอง ดีใจค่ะที่ได้สัมผัสงานเขียนของทุกท่านที่นี่
ขอบคุณนะคะที่ คุณ Annop เห็นว่าเรื่องที่โพสต์น่าสนใจ อันที่จริงชอบขียนเรื่องอะไรก็ได้ที่พบเห็นแล้วอยากเล่าสู่กันอ่าน ปีที่แล้วเคยเขียนเรื่องฮา ๆ ของน้องหมาที่บ้าน โพสต์ลงในเว็บแห่งหนึ่ง ติดลมร่ายยาวร่วมสามสิบตอน หมดแรงชั่วคราว จึงยังไม่ถึงตอนอวสานสักกะที
คราวหน้าถ้าได้เขียนเรื่องใด ๆ อีก จะเอามาโพสต์ให้ช่วยกันอ่านนะคะ