
ผมขยับเก้าอี้ที่ทำขึ้นเองด้วยสองมือ โอเค! มันอาจจะดูหน้าตาแปลกและแตกต่างจากเก้าอี้คนอื่นมากมาย ทำไงได้ละครับมันคือเก้าอี้ผม และทำไมผมต้องทำเก้าอี้ของตัวเองให้เหมือนคนอื่น 555+
ผมเอนหลังบนเก้าอี้ตัวที่ว่า อยากบอกความลับครับ มันไม่มีที่พิงหรอก ผมเอาหลังพิงอิงกับฝาบ้าน จะแปลกไหมครับมันเรื่องของผม
หยิบหนังสือ เหมืองแร่ ขึ้นมา มันเป็นหนังสือเล่มโปรดที่ผมอ่านแล้วไม่ต่ำกว่า 10 เที่ยว มันมีความหนาเกือบ 600 หน้า รวม 40 ว่าตอนในรวมชุดนี้ เหมือนแร่เป็นผลงานรวมเรื่องสั้นขนาดยาวของ อาจินณ์ ปัญญพรรค์ นักเขียนในดวงใจของผม ที่ผมเก็บเอามาไว้ในดวงใจไม่น้อยหน้า คำสิงห์ ศรีนอก และ อัฒสิริ ธรรมโชติ
การอ่านหนังสือในเช้า ๆ ที่สายฝนพร่างพรมและชมโฉมโลกบ้า ๆ ในวันนี้ดูไม่ธรรมดานัก เพราะข้าง ๆ ผมมีกองงานรวมแล้วเกือบ 500 ชิ้น เป็นงานที่ผมต้องทำให้ทันก่อนเดินทางไปเขาใหญ่ในไม่กี่วันนี้ กรรมละ! เสือกเอาเวลาทั้งหมดที่ควรทำงานมานั่งอ่านหนังสือเสียนี่กระไร
ไม่แปลกครับ ผมถือว่าเวลามีเท่ากัน เพียงแต่จะบริหารงานยังไง
กาแฟแก้วเก่าพร่องไปนิด ผมเหม่อมองฟ้า ฝนยังโปรยเม็ด งานที่กองอยู่เสร็จแน่ แต่ตอนนี้ผมขอเรียกพลังให้ดวงใจในกายที่อ่อนล้าขึ้นมาหน่อย หลายเดือนที่ถดถอยจากการเติมพลังให้ดวงใจ การเตร็ดเตร่ตามไล่นาแห่งชีวิตดูเปล่าร้างและแล้งขอด โลกดึงดูดพลังทั้งมวลของผมไป
ดูดดึงจิตใต้สำนึกแห่งการสร้างสรรค์ของผมไปหมดสิ้น! ขอบคุณเพื่อน ๆ ขอบคุณเธอที่มาซับความเหี่ยวแห้งนั้นด้วยไมตรีและรอยยิ้ม ขอบคุณครับที่รัก ที่มาเติมให้หัวใจผม…มีน้ำตา
น้ำตาแห่งความปลาบปลื้มและโหยหาการมีพลังในวันพรุ่งนี้
สายฝนพรำมาอีกระรอก เสียงนกกระจอกหยอกนกกินปลีข้างบ้านดังไม่ขาด ราวจะขับกล่อมชายคนหนึ่งให้ก้าวต่อไปในวันข้างหน้า
…ผมพลิกหน้ากระดาษอีกครั้ง
ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
