เราเดินทางมานานนะ
หนึ่งปี สองปี สามปี สี่ปี ห้าปีและ…วันนี้ จากเหนือจรดใต้ จากขอบฝั่งหนึ่งของแผ่นดินไปถึงอีกขอบฝั่งหนึ่งของแผ่นดิน เดินทางด้วยรองเท้ายาง… เป้ใบใหญ่บนหลังที่สำคัญความฝันที่แบกไปทั่วทุกทิศ บนถนน ลูกรัง คอนกรีต ยางมะตอย ทางด่าน หุบเขาและทางโค้ง ผ่านสายน้ำไหล ผ่านหุบห้วยสายธารนับร้อย ๆ สาย ผิวกาลฤดูหนาวทั้งห้าหนาว แสงตะวันที่รุ่มร้อนทั้งห้าร้อน หยดน้ำที่ไม่ตั้งใจจะเปียกปอนอีกทั้งห้า บนถนนพบผู้คนนับหมื่นที่ผ่านเข้ามาในชีวิต แต่พบมิตรมากกว่าศัตรู…
ขึ้นรถไม่เสียอะไรได้ความรู้สึกดี ๆ ขอบคุณรถลาที่วิ่งผ่านทาง ห้าปีที่เป็นนักโบกที่ดีและเป็นนักดนตรีขอเงินแลกข้าว ขอบคุณเกวียนเก่าบนหลังวัวของชายชราและป้าแก่ที่อุ้มหลานไม่ใส่เสื้อ ขอบคุณสาวงามบนดอยสูงทัดเทียมเมฆ และเด็กน้อยแห่งหมู่บ้านกลางหุบเขาทุกถิ่นที่
จากวันนั้นถึงวันนี้…
หนึ่ง คือ บนเพลงของวันวัย
สอง คือ บนกวีจากส่วนลึก
สาม คือ บทเพลงที่ขับขานขณะที่ก้าวย่าง
สี่ คือ วลีท่ามกลางป่าเขาลำเนา?
ห้า คือ เพลงศรัทธาผองวีรชนและผู้คนที่ห้าเช้ากินค่ำ
หก คือ น้ำมิตรจากผู้ผ่านมาและผ่านไป
เจ็ด คือ หนังสือเล่มหนึ่งที่อ่านไม่รู้จบ
แปด คือ ความเศร้าเมื่อต้องพบการลาจาก และทักทายเมื่อพบประ
เก้า คือ เสียงดนตรีที่ขับกล่อมและปลอบประโลมอยู่ทุกเมื่อ
สิบ คือ หนังสือเล่มนี้ในมือท่าน!
………………….
อย่าอ่านมันหากท่านไม่เคยเป็นนักเดินทางมากกว่าหนึ่งวัน
ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ