สิบสี่ตุลา – วันมหาปิติ
พระปกเกล้าทรงดำริพระราชดำรัส
ทรงลงพระปรมาภิไธยอนุมัติ
ไทยยังจำ – คำสัตย์ เสมอมา

สองสี่เจ็ดห้าถึงสองพันห้าร้อยสิบหก
โอ้พระปกฯ – ประชาธิปไตยอยู่ไหนหนา
สิ้นแผ่นดินเผด็จการก็ลานตา
ทุรชนเรียงหน้าเข้าราวี

สิบสี่ตุลา – วันมหาวิปโยค
ลูกหลานไทยเลือดโชกทั่วพื้นที่
คาวเลือดคลุ้งนองสาดเพื่อชาติพลี
มาเถิดกู – สู้ไม่หนี – วีรชน

เขาเพรียกเสียงเพียงขานประสานก้อง
เขาเรียกร้องรัฐธรรมนูญเพิ่มพูนผล
เขายืนหยัดต่อสู้ศัตรูคน
เขาสู้ทนเพื่อมหาประชาไทย

สิบสี่ตุลา – วันมหาปิติ
มาฟังสิ – ฟังเสียงสำเนียงใส
เสียงชโยโห่ร้องดังก้องไกล
ประชาชนขับไล่เผด็จการ

คราบน้ำตายังไม่แห้งลงเหือดหาย
เพื่อนพี่น้องล้มตายทุรนร่าน
พ่อข้าเพิ่งจะยิ้ม – อย่างสำราญ
เห็นลูกมันกล้าหาญก็ภูมิใจ

ครบรอบปี – สิบสี่ตุลา
ประชาชนถ้วนหน้า – ก็ร่ำไห้
ดวงวิญญาณวีรชนอยู่หนใด
วันนี้ร้อยมาลัย – มาบูชา

มโหรีจะโหมโรงเป็นระลอก
มหกรรมในนอก – จะแน่นหนา
และผู้คนทุกชนชาติจะยาตรา
โปรยมาลา – จุดธูปคลุ้ง – ทุ่งพระเมรุ

ครบรอบปี – สิบสี่ตุลา
ราชดำเนินเลือดทาปรากฏเด่น
วีรกรรมอาชีวะที่กะเกณฑ์
ก็หนุนเนื่องเนืองเห็นเป็นประจำ

รอยเลือดแลกเลือดเดือดพล่าน
อาจหาญโหมรุก – บุกกระหน่ำ
สามัคคีมิตรสหาย – ออกร่ายรำ
มุ่งนำประชาธิปไตยหมายทุน

ไม่มีอำนาจใดในโลกหล้า
ผู้ปกครองต่างมาแล้วสาบสูญ
ไม่มีใครล้ำเลิศน่าเทิดทูน
ประชาชนสมบูรณ์ – นิรันดร์ไป

เมื่อยืนหยัดต่อสู้ผู้กดขี่
ประชาชนย่อมมีชีวิตใหม่
เมื่อท้องฟ้าสีทองผ่องอำไพ
ประชาชนย่อมเป็นใหญ่ในแผ่นดิน

วิสา คัญทัพ
เขียนเพื่ออ่านออกอากาศทางสถานีโทรทัศน์ช่อง 4 บางขุนพรหม สดุดีวีรกรรมของวีรชน 14 ตุลาคม 2516 ก่อนการแสดงละครเรื่อง “พ่อข้าเพิ่งจะยิ้ม” บทละครของ สุวัฒน์ วรดิลก ปี 2517