เมฆสีขาวโพลนกระจุกตัวเป็นย่อม ๆ ที่ท้องฟ้าด้านหนึ่งและค่อยๆขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยๆ กลืนกินท้องฟ้าสีฟ้าสดใสให้หายไปจนมีเมฆเต็มฟ้าด้านหนึ่ง อีกด้านหนึ่งที่ฟ้ายังคงโล่ง อาทิตย์ยังคงส่องแสงจ้าโดยไม่ได้กลัวถึงเมฆที่กำลังขยายตัวใหญ่ขึ้นอีกด้านหนึ่งเลย แต่แล้วไม่นานนัก เมฆสีขาวก็กลับมีสีคล่ำขึ้นและดำหม่น
บนพื้นดินชาวนาคนหนึ่งยืนอยู่บนคันนา รอบตัวเขาคือท้องทุ่งนาอันกว้างใหญ่ มีต้นข้าวต้นเล็กพึ่งถูกดำ อยู่เป็นแถวๆ ทั่วทั้งทุ่ง ห่างไปไม่ไกลจากตัวเขาเป็นถนนซีเมนต์ตัดใหม่ขนานไปกับแปลงนาของเขา แหงนมองท้องฟ้า อาทิตย์กำลังถูกเมฆสีดำหม่นกลืนกินเข้าไปอากาศเริ่มเย็นลง เมฆลอยต่ำลงจนเหมือนอยู่ห่างจากต้นตาลที่มีอยู่ทั่วไปไม่กี่เมตร
ฝนที่เขารอคอยกำลังจะตกลงมาแล้ว ฝนแรกในรอบหนึ่งอาทิตย์ หลังจากที่มันตกมาแล้วครั้งหนึ่งเมื่อต้นตุลาแล้วก็หยุดไป
เมฆสีดำทะมึนทั่วทั้งท้องฟ้า ส่องแสงแวบ ๆ อยู่ภายใน บ้างเป็นเส้นแสงลากผ่านไปมาทั่วทั้งก้อนเมฆสีดำ บรรยากาศสลัว ๆ เหมือนใกล้ค่ำ ลมพัดแรงขึ้นหอบเอาฝุ่นและใบไม้แห้งลอยตัวสูงขึ้นแล้วม้วนเป็นวงกลม วนไปมา ต้นตาล และกล้าข้าวโบกสะบัดตามแรงลมเหมือนกำลังโบกต้อนรับฝนที่กำลังมาเยือน
ชาวนามองกล้าข้าวเล็ก ๆ แต่ละต้น ตาประกายความภูมิใจและความหวังอันเต็มเปี่ยม เขามองกล้าข้าวแต่ละต้นเป็นเหมือนทอง ทองที่สว่างไสวไปทั้งทุ่ง ทองที่รอวันเติบโตออกรวงเหลืองอร่ามให้เขาได้เก็บเกี่ยว
เบื้องหลังเขาไปตามถนนซีเมนต์สายนี้ สุดที่นาของเขาจะเห็นกำแพงสีขาวทอดตัวยาวจนสุดแนวป่าด้านหลัง กำแพงที่ทั้งสูงทั้งใหญ่ของหมู่บ้านจัดสรร กั้นเป็นแนวรั้วให้ทุ่งนาของเขา
เขาหันไปจ้องมองกำแพงที่ทั้งสูงและใหญ่นั้น เขาจ้องเหมือนมองทะลุไปจนถึงภายในกำแพง มองไปถึงหมู่บ้านจัดสรรที่อยู่ภายใน มองไปถึงพื้นถนนที่ถูกปูไว้ภายในกำแพงให้รถวิ่ง มองถึงต้นไม้แต่ละต้นที่ถูกปลูกขึ้นใหม่เพื่อความสวยงาม แต่เปล่าหรอกเขาไม่ได้มองทุกสิ่งในปัจจุบัน แต่เขากำลังมองไปถึงอดีต อดีตที่พื้นที่บ้านจัดสรรนี้เคยเป็นของเขามาก่อน อดีตที่พื้นคอนกรีตและกำแพงที่แสนเย็นยะเยือกนี้ยังคงเป็นสีเขียวของทุ่งนาสีเหลืองทองสว่างไสว พื้นที่ที่ตกทอดมาจากรุ่นปู่รุ่นพ่อและตกมาถึงเขา
ครั้งหนึ่งในวัยเยาว์ของเขาที่นี้เคยมีวิถีชีวิต ทุกคนล้วนทำนาเพราะนาคือชีวิตของพวกเขา นาคืออาหารและการทำนาก็คือวิถีชีวิต เกิดก็เกิดจากทุ่งนา ตายก็ตายหายไปในทุ่งนา แต่ปัจจุบันไม่ใช่แล้วการทำนาเป็นเพียงอาชีพ ๆ หนึ่งสำหรับเขา อาชีพที่จะช่วยหาเงินให้เขามาปลดเปลื้องหนี้สินของเขาและอยู่กินไปวัน ๆ เท่านั้น
ฝนเริ่มปล่อยลงมาเบา ๆ จากท้องฟ้าที่ดำสนิท ลมยังคงพัดแรง เขาเริ่มรู้สึกไม่ดีกับบรรยากาศรอบตัวจึงรีบเดินกลับบ้าน ไม่ทันไรฝนก็ตกลงมาห่าใหญ่ หมวกสานจากไผ่ใบใหญ่พอจะช่วยป้องกันฝนเข้าตาได้บ้าง เขาเดินเนื้อตัวเปียกโชกตามคันนาที่เป็นดินโคลนไปเรื่อยขนานกันกับถนนซีเมนต์
ขณะที่เขาเดินอยู่นั้นเองมีรถคันหนึ่งขับมาท่ามกลางสายฝนที่ตกหนักไม่ลืมหูลืมตาอย่างช้า ๆ ด้านข้างรถมีป้ายติดขนาบไว้ทั้งสองด้าน
“สัมผัสชีวิตธรรมชาติ อากาศไร้มลพิษ
หลีกหนี้ชีวิตคนเมืองไปกับเรา อมตะนิรันดร ซิตี้
เราสร้างบ้านกลางธรรมชาติเพื่อคุณและครอบครัว”
เขาหยุดเดินมอง เมื่อรถผ่านไปจึงเดินต่อ เนื้อตัวเปียกปอน สภาพรอบตัวร้างไร้สิ่งมีชีวิตใด ๆ เสียงอื้ออึงของฝนดังก้องอยู่ในหัว เขาเหมือนอยู่ตัวคนเดียวบนโลกใบนี้ เม็ดฝนตกลงมาถี่ยิบเห็นเป็นสายฝนเริงระบำกลางอากาศยามลมพัด ต้นตาลยืนต้นต่อสู้กับลมและฝนอย่างโดดเดียว เงากำแพงสีขาวใหญ่ทึบยาวเหมือนเป็นฉากหลังแก่ทุ่งนาคงเป็นสิ่งเดียวที่ไม่สะทกสะท้านกับความรุนแรงของธรรมชาติที่เกิดขึ้น
รถยนต์ที่มีป้ายโฆษณาขับรถเลี้ยวหายไปในหมู่บ้านจัดสรรแล้ว ฝนยังคงตกไม่มีทีท่าจะหยุดทุกสรรพสิ่งเหมือนหยุดนิ่งยอมแพ้แก่ธรรมชาติ ระดับน้ำในที่นาเริ่มสูงขึ้นจนเกือบจมกล้าข้าว
เขาดูระดับน้ำที่ค่อย ๆ สูงขึ้นดั่งหนี้สินของเขาที่ค่อย ๆ พอกพูนขึ้นจากการไปกู้ยืมหนี้สินจากธนาคาร เงินต้นที่ยืมมางวดแรกจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ได้คืนสักบาท เพราะเอาแค่ดอกตอนนี้ก็แทบไม่มีปัญญาจ่ายแล้ว ทำนาได้แต่ละปีถ้าได้ข้าวเต็มที่ก็แค่จ่ายดอกเบี้ยได้และพอมีเงินใช้จ่ายได้พอประมาณ แต่ถ้าปีไหนเกิดปัญหาผลผลิตไม่ดีตามเป้าก็ต้องเอาดอกทบต้นแล้วค่อยใช้ในปีถัดไป เมื่อไม่มีปัญญาจ่ายแล้วทางออกสุดท้ายจึงต้องขายที่นาบางส่วนไปเพื่อใช้หนี้ ซึ่งบ้านจัดสรรนั้นก็คือที่ที่ถูกขายไป
ฝนยังไม่มีทีท่าที่จะหยุด ทั่วทั้งท้องฟ้ายังคงเป็นสีเทาทึบจากเม็ดฝนที่ตกลงมา ต้นตาลยังคงเริงระบำตามแรงลมอย่างหนักหน่วงไปพร้อมกับสายฝนที่พริ้วไหวอยู่กลางอากาศ เบื้องล่างน้ำเริ่มท่วมต้นกล้าจนเลยคันนาขึ้นมาแล้ว
เขามองน้ำที่เริ่มท่วมทุ่งนาของเขากับฝนฟ้าที่ไม่มีทีท่าว่าจะหยุด ภายในใจของเขาเริ่มสั่นไหว เนื้อตัวที่เปียกจากเม็ดฝนกับลมที่รุนแรงพัดกระหน่ำใส่เขานั้นไม่อาจผ่านผิวหนังอันหยาบกร้านที่ฝ่าแดดฝ่าฝนมานับ 50 ปีของเขาได้เลย แต่บัดนี้ความเหน็บหนาวไม่ได้มาจากภายนอกแต่มันกำลังเกิดขึ้นภายในใจของเขา
น้ำได้ท่วมสูงขึ้นเรื่อย ๆ โดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้มันสูงระดับเอวของเขาแล้ว ภาพทุ่งนากล้าข้าวสีทองสว่างไสวในสายตาเขาเมื่อไม่นานมานี้ บัดนี้กลายเป็นแม่น้ำสีเขียวมืดมนไปทั่วทั้งทุ่ง เขายืนงงไม่เชื่อในสายตาตัวเอง กำแพงยักษ์และถนนกลับกลายเป็นเหมือนกำแพงปิดกั้นทางน้ำไหล น้ำจึงเพิ่มระดับอย่างรวดเร็ว
ชาวนาที่ครั้งหนึ่งเคยแข็งแรงกรำแดดกรำฝนอย่างไม่สะทกสะท้านมาตลอด บัดนี้กลับสั่นงง ๆ ทำอะไรไม่ถูกกับภาพที่เห็นเบื้องหน้า ผิวน้ำเบื้องหน้าสั่นไหวตามแรงลมเกิดเม็ดตะปุ่มตะปั่มขึ้นลงตามเม็ดฝนที่ตกกระทบผิวน้ำ
ไม่นานนักกล้าข้าวที่เพิ่งลงไว้ไม่ถึงอาทิตย์ก็เริ่มลอยฟ่องขึ้นมาเพราะรากที่ยังยึดกับดินไม่ดี อวดต้นเรียวเล็กสีเขียวของมันให้กับท้องฟ้าและชาวนาได้เห็น เขาเริ่มแหกปากร้องดังโวยวายเมื่อเห็นกล้าข้าวเริ่มลอยขึ้นมาทีละต้นทีละต้น จนเต็มผืนน้ำเห็นลอยเป็นแพและถูกพัดพาไปกับสายน้ำ เขากางแขนทั้งสองของแกออกสุดตัวรีบคว้าจับรับเอากล้าข้าวมาไว้กับตัว
สองแขนของแกกับข้าวทั้งทุ่งนา เขาร้องตะโกนขอความช่วยเหลืออย่างคนไร้สติ ต้นข้าวทั้งหมดลอยไปออผ่านหน้าเขาไปติดอยู่ตรงกำแพงใหญ่สูงขาว แต่เมื่อน้ำสูงขึ้นจนล้นถนนกล้าข้าวก็หนีออกไปอีกฟากถนนตามน้ำแล้วหายไปลงแม่น้ำเบื้องล่าง
ฝนยังคงกระหน่ำไม่ขาดสาย เนื้อตัวเขาเปียกปอนตัวสั่น หน้าซีด น้ำฝนน้ำโคลนเลอะเปียกทั่วทั้งตัว ตาแดงกล่ำ หมวกไม้ไผ่ลอยหายไปตอนไหนก็ยังไม่รู้
เขาลอยคอมองกล้าข้าวที่ค่อย ๆ ไหลหายไปอีกฝากถนนน้ำตาของแกไหลออกมาผสมกับสายน้ำสีเขียวโคลน เขาเริ่มอ่อนล้าลง จึงพาตัวขึ้นไปถึงถนนแล้วนั่งอยู่บนขอบถนน นั่งมองทุ่งนาที่บัดนี้ไม่ต่างอะไรกับสายน้ำสีโคลนขนาดมหึมาสายหนึ่งที่เชี่ยวกราด กิ่งไม้ท่อนไม้ต่าง ๆ ก็ลอยมากับสายน้ำนี้ผ่านทุ่งนาของเขา
ฝนเริ่มเบาลงแล้วน้ำก็ค่อย ๆ ลดระดับลง เสื้อผ้า เนื้อตัวของชาวนาเป็นสีน้ำตาลติดโคลนทั้งตัวตาแดงกล่ำ เหมอมองน้ำในทุ่งนาของเขาที่ค่อย ๆ ลดลง เผยให้เห็นทุ่งโคลนอยู่แทนที่ทุ่งนา ความหวังและความสิ้นหวังช่างเปลี่ยนแปลงเร็วเหลือเกิน
ฝนหยุดตกแล้วแสงอาทิตย์ยามเย็นส่องสว่างขึ้น นกน้อยหลายตัวส่งเสียงดังกังวานก้องรับฟ้าหลังฝนที่สดชื่น อากาศดีหอมกลิ่นดินลอยล่อง มีรถขับออกมาจากหมู่บ้านจัดสรร คนขับรถหันมามองทุ่งนาที่ตอนนี้กลายเป็นทุ่งโคลนแล้วขับรถผ่านเลยไป
เขาลุกขึ้นยืนเดินลงไปเยียบย่ำทุ่งโคลนที่มาแทนต้นข้าวของเขาด้วยหัวใจที่สุดแสนจะเย็นเฉียบและว่างเปล่า
เมือง ไม้ขม