กาลครั้งหนึ่ง… มีเด็กน้อยผู้ฉงนสงสัย เอ่ยถามผู้เฒ่า
“ในขณะที่โลกกำลังถูกรุมเร้าด้วยปัญหาต่าง ๆ ทั้งสงคราม ปัญหาสิ่งแวดล้อม ความยากจน การเอารัดเอาเปรียบ อะไรคือ ทางออกที่แท้จริง” เด็กน้อยถาม
ผู้เฒ่าไม่ได้ตอบคำถามเด็กน้อย แต่เล่านิทานให้ฟังเรื่องหนึ่ง เรื่องมีอยู่ว่า
“ขณะที่นกตัวหนึ่งบินอยู่บนอากาศ มองเบื้องล่างเห็นไฟกำลังโหมไหม้ป่า ปวงสรรพสัตว์กำลังตกอยู่ในเวทนา ฉับพลันมันนึกขึ้นได้ว่าตัวเองเพิ่งบินผ่านแม่น้ำสายหนึ่ง จึงบินย้อนกลับไปแล้วกระพือปีกแรง ๆ เพื่อให้น้ำติดอยู่ที่ปีกแล้วมันก็บินกลับเอาน้ำที่ปีกมาดับไฟ มันทำเช่นนั้น ครั้งแล้วครั้งเล่า แม้จะเหน็ดเหนื่อยก็ไม่ยอมหยุดเพราะเสียงครวญครางด้วยความเจ็บปวดของเพื่อนสัตว์ป่าด้วยกันนั้นยังระงมอยู่ ในที่สุดมันก็ร่วงลงท่ามกลางไฟป่านั่นเอง …เธอคิดว่าชีวิตของนกตัวนั้นประสบความสำเร็จไหม”
เด็กน้อยไม่ตอบแต่ถามต่อว่า “…แล้วไฟดับไหม?”
ผู้เฒ่ายิ้มแล้วตอบว่า “จะดับได้อย่างไร นกเล็ก ๆ ดับไฟป่าไม่ได้หรอก ปัญหาหลายอย่างในโลกนี้ก็เหมือนไฟป่า พวกเราก็เหมือนนกเล็ก ๆ พยายามทำเหมือนนกในนิทาน ทำดีที่สุดแล้วไม่ต้องห่วงเรื่องผล”
เด็กน้อยรีบถามต่อด้วยความกังขาว่า “แล้ว…เราก็ตายไปตายแบบนกเล็ก ๆ ตัวนั้นน่ะเหรอ”
ผู้เฒ่าเอามือลูบหัวเด็กน้อยเบา ๆ แล้วตอบว่า “ก็ไม่เห็นเป็นไรนี่ คนเราก็ต้องตายอยู่แล้ว หนีไม่พ้น แต่ต้องตายอย่างมีเกียรติ ตายด้วยความสบายใจว่า… เราได้ทำในสิ่งที่ควร ทำได้ดีที่สุดแล้ว ตายไปโดยไม่นึกตำหนิตัวเอง”