ค่ำวันเสาร์

ผมนั่งแท็กซี่จากบ้านบางจากมาลงทางด่วนงามวงศ์วาน และต้องหาทางต่อรถตู้ไปลงปากทางเข้าหมู่บ้านพฤกษา 14 แถว ๆ วัดลาดปลาดุก เพื่อต่อมอเตอร์ไซค์เข้าไปบ้าน 2 หลังคา ที่นั่นเป็นอีกโลกหนึ่งของเหล่ามิตรสหาย

“บ้านทุ่งพันทาง” บ้านที่สร้างไม่เสร็จเพราะจินตนาการวิไลกว่าความจริง มีห้องนอน ห้องน้ำ ห้องโถงโล่ง ใครชอบแบบไหนตามสะดวก บ้านสองชั้นที่ใช้งานจริงแค่ชั้นบน รายรอบด้วยหมู่บ้านจัดสรรและติดกับทุ่งนาแปลงใหญ่ น้าคลำ-คำปัน คนเป็น และ ใบบัว สองตายายชาวสาธารณสุขเนรมิตขึ้นมา เป็นที่พบปะเสวนา กิน นอน เมา เล่นดนตรี ของเหล่ามิตรสหายมากมาย

“อ้าว มาไงเนี่ยทิด ล่อขาสั้นเสื้อกล้ามเนี่ยนะ”

“ซื้อโจ๊กให้เมียครับ”

“อ้าวเหรอ มากินเหล้าสักเดี๋ยว”

ใบบัว กำลังง่วนทำอาหารหรืออาจแปลงเป็นกับแกล้ม น้าคลำและเฒ่าโอ๋กำลังตำจอกกัน เสียงกีต้าร์และไวโอลินคลอกันเบา ๆ โทรศัพท์ของผมดังขึ้น

“ครับน้าเก๋ ผมอยู่บ้านทุ่งครับ”

“เฒ่าโอ๋ น้าคลำ กำลังเริ่มจอกแรก อื้อ มาดิ”

ชั่วโมงกว่า น้าเก๋ คลอง 13 ก็เข้ามาพร้อม อัมโลน ชายเปลี่ยวผู้เดียวดาย ป้อม แอน น้ำโขง พี่ชาญ โอ้ ตุ๋ย นก รัตติกาล ทยอยตามกันมา บ้างหิ้วอาหาร กับแกล้ม เครื่องดื่มพะรุงพะรัง

“พี่ทิดไปไงมาไงเนี่ย”

“ซื้อโจ๊กให้เมียครับน้าเก๋ เล่นขาสั้นเสื้อกล้ามออกมา จะได้ไม่คิดมาก”

“แล้วไงมาถึงบ้านทุ่งได้”

“เบื่อ ๆ อยากหาเหล้ากิน เดี๋ยวก็กลับ”

ผมปิดโทรศัพท์ วงเสวนาหน้าเหล้าหน้าข้าวบรรเลงไปตามครรลองของมัน เสียงโซโล่กีต้าร์จาก เฒ่าโอ๋ ไวโอลินจากน้าคลำ เสริมด้วยแคนในบางครั้ง เจ้าหนุ่มอัมโลน เป่าเม้าส์ออร์แกน นก รัตติกาล เล่นคอร์ด และสมาชิกในวงก็ประสานเสียง บทเพลงก็จะหลากหลายทั้งเพลงตลาดและเพลงที่แต่งกันเอง หลัก ๆ ที่เล่นกันไม่เบื่อก็ บ้านทุ่งพันทาง เงื่อน คาสโนว่า ดอกฝ้ายริมธาร ฯลฯ

ชีวิตผมค่อนข้างไร้พิธีรีตรอง อยากทำก็ทำ ใกล้ค่ำแล้วภรรยาที่ตั้งท้องอยากกินโจ๊ก ไม่รู้คิดอย่างไร อยู่ ๆ ผมก็นึกถึงบ้านทุ่ง อาสารับปากจะไปซื้อโจ๊กให้ที่ปากซอย กางเกงขาสั้นเสื้อกล้าม ทำให้เธอไม่เอะใจอะไรนัก แต่ผมก็เผลอเดินทางมาจนถึงซอยลาดปลาดุก จนมาถึงบ้านทุ่ง ไม่รู้ใจลอยอย่างไร

ผ่านค่ำคืนอันสนุกสนาน ผมตื่นมาสายโด่งแล้ว อาการสวอยเกิดขึ้น บางคนยังหลับ และบางคนยังนั่งกอดขวดจนรุ่งเช้าและหลับไปในท่านั้น ผมเดินเก็บมะละกอ เด็ดพริกแถว ๆ นั้น อาหารง่าย ๆ ก่อนที่จะเป็นลม ข้าวต้มแกล้มมะละกอผัดไข่ เมื่อผ่านการถอนในแก้วที่สองสาม อาการที่ว่าก็ดีขึ้น โลกกลับมาสว่างดังเดิม แต่ผมเริ่มมืดมน จะกลับยังไงหว่า โจ๊กที่เมียรอกินจะทำอย่างไร ตัดสินใจปลุกสมาชิกและเริ่มวงกันอีกครั้ง ค่ำ ๆ ค่อยกลับก็แล้วกัน…..

ขออนุญาตเขียนถึงบรรทัดนี้พอนะครับ ไม่อยากบรรยายต่อ รู้สึกผิดมากเลย ไม่รู้ทำไปได้อย่างไร สงสารคนรอกินโจ๊ก อย่าทายนะครับว่าเรื่องนี้จบแบบไหน รับรอง ทายไม่ถูกกันหรอก 555 บันทึกไว้ เพื่อการระลึกผิด อิอิอิ

ทิดโส โม้ระเบิด