
ก่อนที่ “เปี๊ยก” (ฉัตรมงคล พิมลสุข) จะไปค่ายฯ ผมรู้จักเขาไม่มากนัก รู้แค่ว่าเปี๊ยกเป็นเพื่อนของรุ่นน้องผม (ที่เป็นสมาชิกชมรมค่ายฯ) เรียนคณะสถาปัตถ์ รู้จักกันนิดหน่อย คุยกันบ้างเล็กน้อย เรียกได้ว่าผิวเผิน… จนเปี๊ยกไปค่ายที่ 10 อ.แม่ทา จ.ลำพูน ซึ่งเป็นค่ายที่ยากลำบากที่สุดของชมรมฯ เพราะต้องเดินเท้าเข้าโรงเรียนเป็นระยะทางกว่า 15 กิโล
บุคลิกที่เด่นชัดที่สุดของเปี๊ยกก็คือ เขาเป็นคนโรแมนติกมากคนหนึ่ง ซึ่งอาจจะไม่ได้เข้ากับหน้าตา สไตล์การแต่งตัวและสังคม กลุ่มเพื่อน ๆ ที่เขาสังกัด… เปี๊ยกผมยาว เป็นเด็ก Art แถมฟู แต่ใส่แว่น… แต่เขาเป็นคนสุภาพ ขี้อาย และที่สำคัญเขาเล่นดนตรี เล่นกีตาร์ได้ดีชนิดหาตัวจับยากทีเดียว
ส่วนหนึ่งที่ทำให้ผมได้มีโอกาสคุยกับเขาบ่อย ก็เรื่องการเล่นกีตาร์นี่แหละ ผมเองมักจะเป็นคนเล่นนักกีตาร์หลัก ๆ ในค่ายฯ เล่นรอบกองไฟเป็นประจำ พวกเพลงเพื่อชีวิต เพลงค่ายฯ ….ประมาณนั้น นอกนั้นเพลงประเภทอื่น ๆ ก็พอเล่นได้บ้าง มีเปี๊ยกนี่แหละ ที่เล่นกีตาร์ได้ดี โดยเฉพาะเพลง Pop ที่ผมไม่ค่อยถนัดเท่าไหร่ พวกเพลงเพราะ ๆ ซึ้ง ๆ เขาจะเล่นได้ถูกใจสาว ๆ เป็นอย่างยิ่ง นี่ถ้าหน้าตาเท่ห์ ๆ หน่อย สาว ๆ ในค่ายคงหลงรักเปี๊ยกไปกว่าครึ่งแล้วละ (ฮา) แต่ก็เหมือนสวรรค์กลั่นแกล้ง เปี๊ยกเป็นคนขี้อาย เวลานั่งรอบกองไฟ….ทุกครั้งที่ผมยื่นกีตาร์ให้เขา เขาก็จะรับไปเล่นแบบฟังคนเดียว คือเล่นเบา ๆ ค่อยมาก ๆ
เหตการณ์ที่ผมจำได้ดี ก็คือ ในค่ายลำพูน เราเคยนั่งเล่นกีตาร์ด้วยกัน เขาให้ผมสอนท่อน Intro ของเพลง “วันเวลา” เพลงฮิตประจำค่ายให้เขา… ส่วนเขาก็สอนวิธีการเล่น Intro เพลง “เพื่อเธอตลอดไป” ให้ผม
ผมได้ข่าวว่า เปี๊ยกป่วย บ้างก็ว่าไวรัสขึ้นสมอง น้ำหนักลดไปกว่า 50 กิโล และหนักถึงขนาดสมองกระทบกระเทือน ทำให้ “เขาจำพวกเราไม่ได้” จำเรื่องค่ายฯ ไม่ได้เลย ล่าสุดก็ได้ข่าวว่าเข้าโรงพยาบาล พวกเราหลายคนก็ได้มีโอกาสไปเยี่ยม แต่ผมไม่ได้ไป ผมเจอเขาไม่บ่อย เพราะจริง ๆ แล้วเราอยู่คนละกลุ่มกัน เราก็ได้แต่รับรู้ว่าอาการเขาดีขึ้นจนกลับไปรักษาตัวที่บ้าน…
วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2548 ตอนค่ำ ๆ ผมก็ได้ข่าวว่า “เปี๊ยกจากไปแล้ว” เมื่อช่วงเย็นวันนั้น
การสูญเสียความนี้ ก็นำความโศกสลดให้พวกเราไม่น้อย ………….
ไปดีเถอะน้อง…. โอกาสหน้าเราคงได้เล่นดนตรีด้วยกันอีก
อรรณพ นิพิทเมธาวี
5 กุมภาพันธ์ 2548



บทความ “มือถือ ปัจจัยใหม่ในชีวิต”
เปี๊ยก เป็นคนเขียน
https://annop.me/article/mobile-new-life-factors
3 ปกจุลสารค่ายฯ ที่ “เปี๊ยก” เป็นคนออกแบบ
วันนี้เป็นวันสวดศพวันสุดท้ายแล้วค่ะ และจะมีพิธีเผาในวันที่ 13 กพ. 48 นี้ เวลา 15.00 น. ที่วัดบางนานอกค่ะ (มาก่อนเวลาเล็กน้อยจะดีกว่าเพื่อกันความคลาดเคลื่อน) ขอเชิญเพื่อนพี่น้องชมรมค่ายค่ายทุกคนมาร่วมไว้อาลัยให้เปี๊ยกเป็นครั้งสุดท้ายด้วยนะคะ
เสียใจอย่างยิ่ง ครั้งแรกที่ได้ทราบข่าวก็ไม่อยากเชื่อเท่าไหร่ คิดว่ามันเป็นเพียงการล้อเล่น แต่เช็คดูอีกทีก็ได้รับคำตอบเดิม ผมขอแสดงความเสียใจอย่างมาก งานสวดศพผมก็ไม่ได้ไปทั้ง 3 วัน เพราะอยู่ที่จังหวัดหนองคาย วันอาทิตย์ที่ 13 กุมภาพันธ์นี้ ผมเองก็ไม่สะดวกที่จะไปร่วมพิธีเผาศพได้ เนื่องจากเป็นวันรับปริญญาของผม ชีวิตเพื่อนหนึ่งคนที่ผมจะได้มีโอกาสร่วมงานศพเพียงครั้งเดียวแต่ผมกลับไปไม่ได้…….พี่เปี๊ยก ผมขอโทษครับ
ขอแสดงเสียใจ อย่างสุดซึ้ง
ขอแสดงความเสียใจกับทุก ๆ คนที่ได้สูญเสียคนดีไป
แต่ความดีขอพี่เปี๊ยกยังคงอยู่ตลอดไป
พี่เปี๊ยกได้ทำคุณประโยชน์แด่ชาติ และเด็ก ๆ ที่ด้อยโอกาส
ด้วยความอาลัย แด่คนดี
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ
ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งกับเพื่อนคนที่เข้าใจเรา
หมดทุกข์ หมดกรรมแล้วเพื่อน
ขอให้จงไปสบาย..สำหรับเส้นทางคนดีที่ฟ้าลิขิตให้มีระยะทางสั้นไปหน่อย…
ชาติหน้ามีจริง…
ขอให้เจอกันที่ค่ายอาสาฯ อีก
เศร้าจัง
ขอเเสดงความเสียใจด้วยค่ะ และขอโทษที่ไปร่วมงานไม่ได้ ขอให้พี่ไปสู่สุขคตินะคะ
แล้ววันก็ผ่านไป ขอแสดงความเสียใจด้วย ครั้งหนึ่งเราเคยคุยกัน เขาเป็นคนที่เรียบง่าย คุยได้นิ่ม ๆ แต่ก็แฝงอะไรบางอย่างไว้ แต่วันงานก็ไปไม่ได้ รู้สึกเสียใจเพราะติดแค่งาน
ขอแสดงความเสียใจด้วยคนค่ะ…
เสียใจด้วยนะคะ ที่สูญเสียเพื่อนดี ๆ ไป
ขอแสดงความเสียใจต่อครอบครัวและพี่ ๆ ชมรมค่ายฯ
สำหรับการจากไปอย่างไม่มีวันหวนกลับของพี่เปี๊ยกด้วยใจที่อาลัย
ปล.จุติ จุตัง ปัญจ ภาวัง มรณัง จุติ
ขอแสดงความเสียใจด้วยครับ