คนเรานี่ก็แปลก ชอบเอาชนะกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่อง มีอยู่วันหนึ่งขับรถผ่านแถวอนุสาวรีย์ชัยฯ (ปกติไม่ชอบไป เพราะวนไปวนมา งง กับวงเวียนซะทุกทีเจอตำรวจเรียกประจำแหล่ะ)

วันนั้นก็พอดีมีพี่รถตู้โดยสารอยู่คันหนึ่ง ไม่รู้จะรีบไปไหน บีบแตรไล่เรา พอเราได้ยินเสียงก็เร่งความเร็วขึ้น พอเราเร่งขึ้นพี่แกก็ดันเร่งขึ้นตามมาทำท่าจะปาดหน้า อ้าว บีบแตร ด่าว่าเรา แหม เอาไงแน่ เร่งความเร็วตามที่บีบแตรไล่แล้ว ยังจะมาบีบแตรขอปาดในเวลากระชั้นชิดขนาดนี้ พี่จะเอาไงแน่คะ พี่เล่นเปลี่ยนใจวันละหลายหนขนาดนี้ก็แย่ดิ พยายามจะปาดด้านบนซ้ายเข้ามาอีก จะให้แกปาดหน้าอยู่แล้วเชียว ก็พอดีไฟแดงแกปาดไม่ทัน พี่แกก็เลยทำหน้าที่จระเข้ขวางคลองอยู่แบบนั้น แล้วยังหันมาทำหน้าโกรธใส่ ทำปากขมุบขมิบ ด่าเราอีก ไม่พอใจเราเอามาก ๆ

ในใจเราก็คิดอะไรได้อย่าง ก็หมุนกระจกฝั่งซ้ายลง ตาต่อตาปะทะกันอยู่ประมาณ 3 วินาที ช่วงนั้นแกหยุดด่า ดูท่าทีเราอยู่ จากนั้นเราก็เกิดความคิดวูบ ขึ้นมา…

ชโงกหน้าไปใกล้พร้อมกับ ประสานสายตาไปที่พี่แก พร้อมส่งยิ้มให้ประดุจดั่งพบญาติสนิท ..สองมือประนมขึ้นไหว้อย่างงาม ๆ ก่อนที่จะเปร่งวาจาอันไพเราะออกไป “ขอโทษนะคะพี่ หนูไม่ได้ตั้งใจ นะพี่นะ อย่าโกรธเลย ขอโทษษษษษษ มากๆเลยนะ”

เสร็จก็พอดี ไฟเขียวก็เลยต้องออกรถไป สร้างความฉงนให้รถคันรอบ ๆ ข้างเรา ส่วนน้องจิ๊บที่นั่งอยู่ในรถกับเราก็ถึงกับฮา น้ำตาเล็ด งานนี้ไม่มีใครเสียอารมณ์ ขำฮากลิ้ง น้องจิ๊บแอบเหลียวหลังไปมองพี่รถตู้ ก็เห็นพี่แกอมยิ้ม ด่าไม่ออกเลย ไงหล่ะ งง…เด๋ง!! เลยละซิ แหะ ๆ ๆ ๆ ๆ

เรื่องนี้สอนให้รู้ว่า… สิ่งควรโกรธ ในโลกนี้ไม่มีหรอกจ้า

พี่นุช สองวัย