
โอ้เอย…
โอ้เอย โอ้เอ๋ย เจ้าเด็กน้อยเจ้าคล้ายดอกไม้ เหมือนดอกไม้ครั้นแย้มบาน เจ้างดงามบนลายโลกที่หม่นหมองและแสนโศก ข้าสงสารเจ้าเพียงลมปากแต่ยากนักจักบอกเจ้า
เจ้า โบยบิน…บินไปอย่างไร้เรี่ยวแรง ตามหาจุดหมายที่ไร้หรทางพร้อมความมุ่งหมาดปรารถนาที่ราร่วง
เจ้า เหมือนดอกไม้ที่แงมดโฉบเฉี่ยวและเหลียวตอม เพื่อเด็ดดึงดอมกลิ่นกายเจ้าแล้วจากลา…………….
เจ้า บินอีกครั้งเมื่อสาดแสงสาดซับกายเจ้านั้นอย่างอ้อยอิ่งและนิ่งเงียบ
เจ้า พร่ำเพรียกเรียกร้องอย่างโหยหวนบอกวันวัยซึ่งตีจากและกำลังจะพรากหนี
เจ้า คืบคลานละลานบนลานเลือดที่เดือดดานดาษดื่นขื่นคาวราคี…
เจ้า ดุจดาวที่เคว้งคว้างบนเวิ้งฟ้าฟางแห่งห้วงกาลยุคสมัย
เจ้า ตะกุยตะกรายยันร่างจับกลีบก้านเพื่อแต่งเติมเสริมฝันให้กล้าแกร่ง
แต่ยิ่งเดินยิ่งทรุดเศร้าและเหงานัก หนักหนาบนทางเดินแห่งกาลยุคภิวัฒน์โลกีย์
เจ้า เอ่ยร้องบทกวีจากห้วงกาลยุคอย่างค้นคว้าและหาตัวตนอันแท้จริง
แต่ยิ่งค้น… ยิ่งค้น ยิ่งค้น เจ้ากับต้องร้อนรนทนดิ้นจากเช้ายันเช้าอย่างรัดรวบ ดึกสงัดเจ้ากรีดกรายรายร้องก้องแผ่นดินให้ทุกสรรพสิ่งน้อมรับ
โอ้เอย…
โอ้เอ๋ย เจ้าเด็กน้อยที่ยังอ่อนต่อโลกนัก แม้นเจ้าจักเป็นดอกไม้ก็เป็นได้เพียงดอกไม้ที่น่าชมในกาลยุค เจ้ายังเป็นดังดุจบทเพลงแรกแห่งกาลแย้มบานบนลานเลือดที่เดือดนัก
ก่อคเณศ รุ้งสันเทียะ
ดอกไม้แสนสวยในกระถาง
ใครผ่านไปมาก็เฝ้าชื่นชม
ผีเสื้อเวียนวน
ดอกไม้ซึมเซา ..
ดอกหญ้าริมทางเดิน
แต่ละวันเพียรนับจำนวนเท้าของผู้คน
วุ่นวาย
แต่เสรี..
ดอกไม้แสนสวยในกระถาง
อยากเป็นเช่นดอกหญ้า
ภาวนา …
..
..
..
ไปละ อิอิอิ