
ณ เวลายามเย็นหลังจากทำการบ้าน และงานบ้านที่ได้รับมอบหมายเป็นหน้าที่ประจำทุกวัน เด็กน้อยก็มานั่งมองสายน้ำในลำธารหน้าบ้านเป็นประจำดังเช่นที่เคย
“สายน้ำเจ้าเอย เจ้ามาจากไหน เจ้าจะไปแห่งใด เจ้าคือใคร”
ความรู้สึกนี้เป็นดั่งคำถามประจำใจเลยก็ว่าได้ มันจะเกิดขึ้นทุกครั้งที่เด็กน้อยนั่งมองสายน้ำ จนกระทั่งวันหนึ่ง เด็กน้อยนึกอย่างไรก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะความที่เด็กน้อยเก็บความสงสัยนี้มาเป็นเวลานานแสนนานแล้วกระมัง ฉันจึงเอื้อนเอ่ยเปล่งเสียงแผ่วเบาราวกับเป็นการรำพึงรำพันกับสายน้ำว่า “สายน้ำเจ้าเอย เจ้ามาจากไหน เจ้าจะไปแห่งใด และเจ้าคือใคร”
ทันใดนั้นก็มีเสียงตอบรับกลับมาเบาๆ เช่นกันว่า “สวัสดี เธออยากรู้จักฉันจริง ๆ เหรอ”
เมื่อฉันได้ยินดังนั้นฉันก็มองหาที่มาของเสียงนั้นพร้อมกับหมุนตัวมองไปรอบ ๆ และร้องถามขึ้นว่า “นั่นใครน่ะ อยู่ที่ไหนออกมานะ”
และก็มีเสียงตอบกลับมาว่า “ฉันก็คือสายน้ำที่เธอถามถึงยังไงล่ะ ฉันอยู่ทางนี้ ในลำธารตรงหน้าเธอนั่นแหละ”
ฉันพอจะจับทิศทางที่มาของเสียงนั้นได้แล้ว
เด็กน้อย: “อ๋อ…สายน้ำจริง ๆ ด้วย เธอพูดได้ด้วยเหรอ ดีใจจังเลย”
สายน้ำ: “ใช่…แต่ไม่เสมอไปนะฉันจะพูดคุญกับบางคนที่พิเศษสำหรับฉันเท่านั้น”
เด็กน้อย: “ถ้าอย่างนั้นก็แสดงว่าฉันพิเศษสำหรับเธอ”
สายน้ำ: “ใช่… ก็ในเมื่อเธอเพียรเฝ้ามองฉัน พูดคุยกับฉัน ในยามที่เธอเหงาเธอก็มาหาฉัน ดังนั้นเธอจึงเป็นเพื่อนฉันและฉันก็เป็นเพื่อนเธอไงล่ะ”
เด็กน้อย: “ดีใจจัง… ถ้าอย่างนั้นเธอก็คงพอจะบอกฉันได้สินะว่า เธอมาจากไหน และเธอจะไปแห่งใด ฉันเคยได้ยินผู้ใหญ่เล่าให้ฟังว่าเธอมาจากสวรรค์ใช่มั๊ย”
สายน้ำ: “อ๋อ.. ได้สิ.. ความจริงฉันก็เริ่มต้นจากผืนดิน เหมือนเธอ เหมือนสรรพสิ่งทั้งหลาย ที่เริ่มต้นมาจากดินแล้วสุดท้ายก็กลับคืนสู่ผืนดินนั่นเอง”
เด็กน้อย: “อ๋อเหรอ…แล้วเธอเริ่มต้นอย่างไรล่ะ”
สายน้ำ: “ฉันเริ่มต้นจากการได้รับความชุ่มชื้นจากผืนป่าบนพื้นโลกนั่นเอง แล้วฉันก็เกิดเป็นไอน้ำลอยขึ้นไปรวมตัวกันกับเพื่อน ๆ ของฉันเป็นก้อนเมฆสีขาวบนท้องฟ้า ล่องลอยไปตามสายลม เมื่อฉันเกาะตัวกันมากเข้า ๆ ฉันก็จะกลั่นตัวเป็นละอองน้ำ และเมื่อฉันสามารถรวมตัวกันได้มากขึ้น จนกระทั่งกลายเป็นก้อนเมฆสีเทา น้ำหนักของฉันมากขึ้นจนไม่สามารถลอยตัวอยู่บนฟ้าได้ต่อไป นั่นก็หมายความว่าฉันพร้อมที่จะโปรยปรายลงมาให้ความชุ่ม ชื้นแก่ผืนโลกแล้วล่ะ”
เด็กน้อย: “แล้วเธอลงมายังไงล่ะ”
สายน้ำ: “ฉันก็กลั่นตัวอีกทีเป็นหยดน้ำฝนหลั่งลงมาสู่ผืนโลก”
เด็กน้อย: “ใช่ ๆ ฉันชอบมากเลยตอนฝนตก ฉันมีความสุขมากที่ได้เล่นน้ำฝน แต่บางทีก็โดนผู้ใหญ่ดุเหมือนกัน เพราะกลัวจะเป็นไข้ แล้วนี่เธอกำลังจะไปไหนกันเหรอ”
สายน้ำ: “อ๋อ… เดี๋ยวนะ… รู้สึกคอแห้งขอดื่มน้ำที… เอาล่ะนะ… หลังจากที่ฉันและเพื่อน ๆ ของฉันโปรยปรายเป็นน้ำฝนลงมายังผืนโลกแล้ว พวกเราก็แยกกันไปทำหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายจากธรรมชาติ โดยบางส่วนก็มีหน้าที่ซึมลงไปในผืนดิน เพื่อให้ความชุ่มชื้นแก่ผืนดินและเป็นอาหารของพืชพรรณ บางส่วนก็มนุษย์อย่างเธอ เก็บกักไว้เพื่อทำการเกษตรบ้าง ดื่มกินบ้างใช้ ประโยชน์ในครัวเรือนบ้าง ใช้ในการอุตสาหกรรมต่าง ๆ บ้าง บางส่วนก็ ไหลลงตามลำธารห้วย หนอง คลอง บึง รวมตัวกันเป็นแม่น้ำใหลลงทะเล เพื่อเป็นเส้นทางสัญจรไปมาของมวลหมู่มนุษย์บ้าง และสุดท้ายฉันก็จะกลับไปเป็นความชุ่มชื้นและลอยตัวขึ้นไปบนฟากฟ้า เพื่อรอเวลากลั่นตัวเป็นน้ำฝนโปรยปรายลงมายังผืนโลกอีก เป็นวัฏจักรเช่นนี้ตลอดไป ตราบใดที่ผืนโลกยังคงมีต้นไม้ ป่าไม้ แหล่งน้ำต่างๆ ให้ฉันได้มีโอกาสทำหน้าที่ของฉัน”
เด็กน้อย: “แล้วมีบ้างไหมที่พวกเธอไม่สามารถทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์อย่างที่ควรจะเป็นได้”
สายน้ำ: “ก็มีเหมือนกันนะ ถ้าในกรณีที่ฉันถูกใช้อย่างผิดๆ เช่นฉันถูกนำไปใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม จนฉันกลายเป็นน้ำเน่าเสียแล้วก็ปล่อยฉันทิ้งตามลำ คลองโดยไม่มีการบำบัดฉันก่อน ฉันก็เหมือนคนป่วยที่เป็นโรคติดเชื้อ เวลาที่ฉันไปรวมตัวกับเพื่อน ๆ ฉันก็จะพาให้เพื่อน ๆ ของฉันเน่าเสียไปด้วย นั่นก็เท่ากับว่า นอกจากฉันไม่สามารถทำหน้าที่ที่เป็นประโยชน์ดังที่ได้รับมอบหมายจากธรรมชาติแล้ว ฉันยังเป็นโทษที่ทำให้เพื่อน ๆ ของฉันต้องเน่าเสียไปอีกด้วย หรือบางทีก็เกิดจากมนุษย์ที่มักง่ายทิ้งเศษขยะ ของเน่าเสียต่าง ๆ ลงแม่น้ำลำคลองทำให้ฉันเน่าไปทั้งคลองก็มี”
เด็กน้อย: “แล้วมีวิธีป้องกันแก้ไขได้บ้างไหม”
สายน้ำ: “ง่ายนิดเดียว…แค่ไม่ทิ้งเศษขยะมูลฝอย สิ่งปฏิกูลลงตามแหล่งน้ำ โรงงานอุตสาหกรรมก็จัดระบบบำบัดน้ำเสีย ก่อนปล่อยฉันลงสูงแหล่งน้ำธรรมชาติเท่านั้นเอง ฉันก็สามารถทำประโยชน์ให้กับผืนโลกตามหน้าที่ที่ฉันได้รับจากธรรมชาติ ผู้เป็นนายใหญ่ของฉัน”
เด็กน้อย: “ฉันพอจะเข้าใจล่ะ ขอบใจนะสายน้ำที่เล่าเรื่องราวให้ฉัน”
สายน้ำ: “ถ้าเธอเข้าใจแล้วฉันก็จะไปล่ะนะ ลาก่อนจ๊ะเด็กน้อย”
เด็กน้อย: “ลาก่อนสายน้ำ ขอบคุณสำหรับข้อมูลนะ”
เด็กน้อยกล่าวคำร่ำลากับสายน้ำก่อนรีบลุกขึ้นวิ่งเข้าบ้าน คว้าเอาสมุดดินสอเพื่อจากกระเป๋าหนังสืออย่างเร่งรีบ ดั่งเกรงว่าจะลืมเลือนเรื่องราว ที่ตัวเองต้องการเพิ่งคิดได้อย่างสดๆ ร้อนๆ โดยบรรทัดแรกที่เป็นชื่อเรียงความนั้น เด็กน้อยบรรจงเขียนอย่างสวยงามที่สุด เท่าที่ตัวเองจะบรรจงได้ มีใจความว่า “เรื่องเล่าของเด็กน้อยกับสายน้ำ”
เจ้านกหลงไพร