เหตุเกิดเมื่อ 15 กุมภาพันธ์ 2546 เกิดอะไรขึ้น? วันหวยออก วันเชงเม้ง หรือวันที่อเมริกาถล่มอิรัก เผลอ ๆ อาจจะเป็นวันทวงหนี้ของเจ้าหนี้ใครบางคน ไม่ต้องนึกตามผมหรอกครับ ถ้าไม่รู้คำตอบคงนึกไม่ออกอย่างแน่นอน วันนั้นเป็นวันแห่งความปิติยินดีอย่างยิ่งสำหรับ พี่ตุ๋ย ชมรม เจ้าของตำแหน่ง “แฟนพันธุ์แท้คาราบาว” ปีนี้ (2546) มาหมาด ๆ แต่ที่ยินดีเป็นที่สุดนั้นเห็นทีจะเป็นผมเสียมากกว่า เพราะอะไรนั่นหรือก็ผมได้ออกทีวีนี่ครับ…. จา มา จ๊ะ ทิง จา เป็นยังไงเหรอครับ ตามผมมาสิครับ แล้วผมจะพาท่านย้อนไปร่วมรับรู้เหตุการณ์วันนั้นกับผม

เช้าวันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ 2546 ผมแหกขี้ตาตื่นแต่เช้า เพราะต้องไปงานรับปริญญา ม.กรุงเทพ ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิตติ มาถึงตรงนี้แล้วหลายคนอาจจะสงสัย “มันมาทำอะไรที่นี่วะ แล้วเกี่ยวอะไรกับแฟนพันธุ์แท้” ใจเย็นไว้นะครับ ให้ผมเล่าต่อไปเรื่อย ๆ ก่อน อันที่จริงแล้วไม่ใช่งานรับปริญญาของผมหรอกครับ มาเสนอหน้าถ่ายรูปกับเค้าเฉยๆ วันนี้ช่างเป็นวันที่อากาศร้อนมาก ๆ ครับ เปลวของแสงแดดแทบจะแผดเผาร่างกายผมให้แหลกเป็นเสี่ยง ๆ แต่ก็ไม่ได้ร้อนรุ่มไปกว่าจิตใจผมตอนนี้เสียเท่าไหร่ เนื่องจากก่อนหน้านี้พี่นกซึ่งเป็นรุ่นพี่ผมบอกว่า

” พี่ตุ๋ย จะอัดเทปรายการแฟนพันธุ์แท้คาราบาวในวันเสาร์ที่ 15 นี้ ตอนบ่ายโมงตรง แต่ต้องไปถึงที่สตูดิโอก่อนบ่ายโมง มึงจะไปหรือเปล่า……”

“ห๊า ! พี่ วันเสาร์ที่ 15 ก่อนบ่ายโมงเหรอครับ ผมต้องไปงานรับปริญญาและมีเรียนถึงเที่ยงครึ่งด้วยสิคงจะไปไม่ได้หรอกครับ….”

“เหรอ…เออ ๆ ไม่เป็นไร”

ในตอนนั้นผมคิดอยู่หลายตลบ จะทำยังไงดีถึงจะได้ไป ถ้าผมไม่ไปเชียร์ แล้ว พี่ตุ๋ย แพ้จะทำยังไง? จริง ๆ แล้วมันไม่เกี่ยวหรอกครับผมคิดไปเอง ว๊า…สิบโมงครึ่งแล้วต้องรีบไปเรียนแล้วล่ะ พลันในใจกลับคร่ำครวญไปว่า “กูจะโดดเรียนเพื่อประเทศชาติดีมั้ยน้อ” ทันใดนั้นใบหน้าของอาจารย์ก็โผล่เข้ามาในมโนคติผม แล้วเขกมะกอกผมหนึ่งที “โป๊ก!….ไม่ได้เด็ดขาด วันนี้ Present เป็นวันสุดท้ายแล้ว…ขาดไม่ได้” แล้วใบหน้านั้นก็หายไปพร้อมกับความเคร่งขรึม แฝงด้วยความน่าสะพรึงกลัวเป็นที่สุด

สมองผมตอนนี้เหมือนวิ่งไปมาไม่อยู่กับที่ โอ้ย…จะทำยังไงดีถึงจะได้ไป ในขณะเดียวกันผมฉุดคิดขึ้นมาได้ว่าลองขออาจารย์ Present ก่อน แล้วขออนุญาตออกมาเลย เท่านั้นเองผมจึงกดโทรศัพท์หาพี่นกทันที

“พี่นกครับ อยู่ไหนแล้วพี่”

“กูกำลังจะไปรับไอ้แอร์ที่ห้องไอ้รุ่ง”

“พี่จะรีบไปรึเปล่า เดี๋ยวผมจะลองขออาจารย์ Present ก่อนแล้วออกมาเลย”

“เออ ๆ เสร็จแล้วโทรมา…เร็ว ๆ หน่อยแล้วกัน”

เหมือนเห็นแสงสว่างอยู่ข้างหน้า เหลือเพียงเผชิญหน้ากับอาจารย์แล้วขออนุญาต “เอ่อ…อาจารย์ครับ ผ..ผ..ผม..ข..ข..ขอ อนุญาต Present ก่อนได้มั้ยครับ แล้วผมขออนุญาตกลับก่อนเพราะจะต้องไปอัดเทปรายการครับ” แต่ผมไม่ได้บอกนะครับว่าเป็นรายการอะไร อาจารย์คงนึกในใจว่าไอ้นี่มันเป็นดาราหรือวะ แล้วอาจารย์ก็ตอบออกมาสั้น ๆ คำเดียว “ได้” ความรู้สึกผมตอนนั้น เหมือนได้ชูถ้วยบอลโลกในนัดชิงเป็นคนแรก หรือได้สวมมงกฏนางงามจักรเย็บผ้าอะไรอย่างนั้น

พอ Present เสร็จผมก็รีบออกมาเลยทันที แล้วกดโทรศัพท์หาพี่นกอีกครั้ง

“พี่นกอยู่ไหนแล้วครับพี่ ตอนนี้ผมออกมาได้แล้วเดี๋ยวผมแวะไปเอาเสื้อเพลงประชาชนที่ห้องก่อนนะครับ”

“ไม่ต้องเอาแล้วมึงออกมาเลย เจอกันที่พระราม 9 คาเฟ่เก่า” แล้วผมก็ไปเจอพี่นกเลยเดี๋ยวนั้นแล้วก็ออกไปพร้อมกัน

ขณะนั่งรถจะไปที่สตูดิโอนั้น ผมก็นั่งนึกในใจไปด้วยว่า “เอ..เราจะเชียร์ท่าไหนดีน้ากล้องจะได้จับมาที่เรา พอออกทีวีแล้วจะได้เท่ห์ๆ” เท่านั้นแหละครับ ผมก็นึกย้อนไปขณะที่ผมดูรายการแฟนพันธุ์แท้หลาย ๆ ตอนที่ผ่านมาว่ากองเชียร์แต่ละคนมีท่าอะไรบ้าง แล้วเก็บประมวลท่าต่างๆ มาประยุกต์เป็นของตนเอง

จนกระทั่งมาถึงที่สตูดิโอบางกอก ขณะนั้นก็เวลาบ่ายโมงพอดี ก็เลยแลกบัตรเข้าไปจับจองที่นั่งได้ประมาณตรงกลางพอดี ข้างๆ ผมเป็นพี่นกโดดเด่นมาด้วยเสื้อของเพลงประชาชน เช็คไฟเรียบร้อยส่องมาที่ผมเห็นชัดพอสมควร รวมทั้งเช็คมุมกล้องว่าได้สัดส่วนดีแล้วหรือยัง ตากล้องคนที่คอยจับภาพของกองเชียร์นั้น ช่างเป็นคนที่ผมรู้สึกว่าน่าเอ็นดูเหลือเกินในชั่วโมงนั้น อยากจะไปคอยเช็ดเหงื่อให้พี่เค้า เป็นไงบ้างครับ เหนื่อยมั้ยครับ ทานอะไรมั้ยครับ เดี๋ยวผมจะหามาถวายให้ จับภาพผมบ่อย ๆ นะครับ….

ทันใดนั้นทีมงานก็ประกาศออกมาว่า “ขอเสียงปรบมือให้กับผู้เข้าแข่งขันแฟนพันธุ์แท้คาราบาวด้วยค่า” เปาะแปะ ๆ …หวี๊ดวิ้ว…..ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 5 เดินเข้ามา นำโดย พี่ตุ๋ย มาดหล่อเฟี้ยวอย่าบอกใครเชียว อยากจะถาม พี่ตุ๋ย เหลือเกินว่า บนผมพี่น่ะเจลหกเหรอครับ เดินเข้ามานี่ไอ้ผมเองก็นึกว่าเจ้าพ่อคาราบาว ส่วนคนอื่น ๆ นั้นบางคนก็ทำหน้าครุ่นคิดเหมือนกำลังทบทวนข้อมูลที่รู้มา กะว่าเป็นทีเด็ดแน่งานนี้

แล้วทันใดนั้นก็มีทีมงานเดินเข้ามาถามว่า “กองเชียร์ของคุณวรรณอยู่ไหนครับ กล้องจะได้จับภาพถูก” ผมเห็นพี่นกเค้ายกมือขึ้น “เอ…เรามาเชียร์ พี่ตุ๋ย นี่นา แล้วนี่พี่นกยกมือเชียร์ใครก็ไม่รู้ชื่อวรรณ” พอมารู้อีกทีคุณวรรณก็คือ พี่ตุ๋ย นี่เอง เท่านั้นแหละผมรีบยกมือให้สูงเลยครับ เดี๋ยวพี่ตากล้องไม่รู้ ในเวลาเดียวกันกับที่คุณปัญญา พิธีกรเอกของรายการเดินเข้าแล้วก็มีเสียงพูดว่า “ขอเสียงปรบมือให้กับคุณปัญญา นิรันดร์กุลด้วยค่า” เปาะแปะ ๆ แล้วทีมงานก็มาซักซ้อมกับทางกองเชียร์ เพื่อไม่ให้เกิดการผิดพลาดขณะอัดรายการ “เอ้า….พอผมให้สัญญาณแล้วปรบมือพร้อมๆกันนะครับ..เปาะแปะ ๆ” ผมนี่ใส่เต็มที่เลยกะว่าถ้าหน้าไม่ออกจอขอเป็นเสียงปรบมือแทนแล้วกัน เปาะแปะอยู่อย่างนั้น 5-6 ครั้ง “จะปรบมืออะไรกันนักกันหนาวะอัดซะทีสิ มือจะหลุดแล้วโว้ย” ผมคิดในใจอยู่อย่างนั้นได้ซักพัก

การอัดเทปรายการก็เริ่มต้นขึ้นเกมแรกเป็นเกม 3 วิ. ผู้เข้าแข่งขันประจำที่พร้อม เริ่มต้นด้วย พี่ตุ๋ย ผ่านไปครบ 5 คน วนมาหา พี่ตุ๋ย อีกครั้ง แล้วก็ผ่านไปจนครบ 5 คนอีกที วนอยู่อย่างนั้น 3 รอบ ประทานโทษเถอะครับ ถึง พี่ตุ๋ย ทีไรทำหัวใจแทบวายทุกที เฉียดทุกรอบ ความรู้สึกเหมือนกำลังจะโดน Bank ยึดบ้านยังไงยังงั้น ประมาณว่าถ้า พี่ตุ๋ย หันมาคงไม่เจอใครแล้วแหละ เพราะช็อคเข้าโรงพยาบาลกันหมด พอวนมารอบที่ 4 พี่ตุ๋ย ก็ยังทำเสียวเหมือนเดิม ผมคิดในใจว่าถ้า พี่ตุ๋ย ตกรอบแรกนี่ แล้วจะเชียร์ใครกัน หรือว่าพี่นกกลับเลยไม่อยู่ดูต่อ แล้วอย่างนี้เราก็อดออกทีวีสิ แย่แน่ ๆ “อ่อดดด…” เสียงอ่อดดังขึ้นสติผมกลับคืนมา โอ้..พระพุทธเจ้า แชมป์เก่าตกรอบเป็นไปได้อย่างไร ไม่ใช่สิเราควรดีใจต่างหากล่ะที่ พี่ตุ๋ย เข้ารอบ “ได้ออกทีวีแล้วกู” ผ่านไปรอบแรกค่อยโล่งใจไปนิดนึง

รอบที่สอง พี่ตุ๋ย มีภาษีดีกว่า แถมยังมีน้าเขียวคาราบาวเป็นแบ็คหนุนอยู่ข้างหลัง (งานนี้น้าเขียวไม่ได้ไปร่วมนะครับ) พอเริ่มรอบที่สอง พี่ตุ๋ย แข่งเป็นคู่แรก ทันใดนั้นเองผมก็เหลือบไปเห็นสาวน้อยวัยกระเตาะน่ารักสุด ๆ นั่งแถวถัดลงไปอยู่ทางด้านซ้ายมือ คุณปัญญง ปัญญานี่แทบจะไม่สนใจเลยครับ ผมจึงหันไปถามพี่นกว่า

“พี่เห็นผู้หญิงทางซ้ายมือหรือเปล่าน่ารักสุด ๆ”

“กูเห็นอยู่คนนึงตั้งนานแล้ว”

“ก็คนเดียวกันสิพี่ คนนั้นรึเปล่าพี่”

“ก็เออน่ะสิ”

คือว่าภวังค์ตอนนั้นสนใจอยู่ที่แม่สาวน้อยทางซ้ายมือ และก็ตากล้องทางขวามือว่าจับมาที่เรารึเปล่า “ถูกต้องนะครับ” สติผมกลับมาอีกครั้ง อ้าว… พี่ตุ๋ย เข้ารอบเสียแล้ว หวี๊ดวิ้ว ๆ ใส่เสียงกันเข้าไปได้ออกทีวีแน่

พอมาถึงรอบชิง เอาโว้ย…โอกาสออกทีวีมีเยอะก็รอบนี้แหละคำถามแรก พี่ตุ๋ย เป็นคนเลือก กล้องเริ่มจับมาที่กองเชียร์ พี่ตุ๋ย เป็นไปได้ตอนนั้นอยากจะหันไปมองกล้องแล้วพูดว่า “แม่ครับผมรักแม่” จริง ๆ เลย ถือโอกาสบอกรักแม่ผ่านทีวีไปซะอย่างนั้น เชื่อไหมครับเพียงคำถามแรก พี่ตุ๋ย ก็ได้เป็นแชมป์แล้ว ยังนึกเสียดายแทนอีกคนเลยครับทำไมไม่ตอบให้ถูก จะได้เล่นหลาย ๆ ข้อหน่อย กล้องจะได้จับภาพเยอะ ๆ แต่ไม่เป็นไร พี่ตุ๋ย ได้แชมป์แล้ว ก็รอลุ้นอย่างเดียวว่าของรางวัลมีอะไรบ้าง (ส่วนจะมีอะไรบ้างนั้นเอาไว้รอชมแล้วกันครับ) ในช่วงคำถามแชมป์ ผมอยู่ในท่าเตรียมพร้อม มือกุมไว้ใต้คางทำท่าลุ้นสุด ๆ คะเนว่ากล้องจับมาแน่ ๆ จึงแกล้งหันไปคุยกับพี่นกเพื่อเป็นจุดเด่นหวังว่าคงจะได้ผล

“ถูกต้องแล้วครับ” พี่ตุ๋ย คือสุดยอดแฟนพันธุ์แท้คาราบาวตัวจริงเลยครับ พอถ่ายเสร็จผมก็รีบลงไปสัมผัสกับถ้วยแฟนพันธุ์แท้ของจริงและชักภาพไว้เป็นที่เรียบร้อย

ขอบอกเลยนะครับว่า ลีลา พี่ตุ๋ย วันนั้นสุดยอดจริง ๆ ครับนี่ก็เป็นเบื้องหลังคร่าว ๆ ที่ผมหยิบยกมาฝาก เอาไว้รอชมบรรยากาศแบบมันส์สุด ๆ ช่วงเดือนเมษายนนี้แน่นอนครับรับรองว่าสนุกจริง ๆ ทางช่อง 5 วันศุกร์เวลาประมาณ 4 ทุ่มครึ่งครับ…

หนึ่ง น้ำโขง

แฟนพันธ์แท้คาราบาว ตอนที่ 1
แฟนพันธ์แท้คาราบาว ตอนที่ 2
แฟนพันธ์แท้คาราบาว ตอนที่ 3
แฟนพันธ์แท้คาราบาว ตอนที่ 4
แฟนพันธ์แท้คาราบาว ตอนที่ 5
แฟนพันธ์แท้คาราบาว ตอนที่ 6