
| ฉบัง | |
| อ้า…กรุงเทพมหานคร | ยุคพัฒนากร |
| นอนละเมอเพ้อพัฒนาการ | |
| พัฒนาอาชีพเชี่ยวชาญ | ไทยนี้ชำนาญ |
| อาชีพแจ่มแจ๋วอัศจรรย์ | |
| ซื้อขายสินค้าสำคัญ | ยื้อแย่งแข่งขัน |
| “กินแบ่ง” ระยำตำบอน | |
| ไอ้เปี๊ยกตูดปะตัวปอน | วิ่งแล่นตะลอน |
| ร้องขาย “เรียงเบอร์…เรียงเบอร์” | |
| เช้าเห็นเย็นเจอะค่ำเจอ | ขายดีจริงเออ |
| เรียงเบอร์-กินแบ่งโบยบิน | |
| บังเกิดขบวนการใต้ดิน | เป็นอุตสาหกิน |
| ขายแข่งกินแบ่งรัฐบาล | |
| บอกใบ้ให้หวยบรรหาร | พระเจ้าอาจารย์ |
| อุตตริมนุสธรรมนองเนือง | |
| ไพร่ฟ้าหน้าเศร้าเปล่าเปลือง | หวยล่อคางเหลือง |
| หมดเนื้อหมดตัวปางตาย | |
| เจ้ามือกินอิ่มพริ้มพราย | ปลอกคอคุ้มกาย |
| พวกพ้องของท่าน…หวานหวาน ! | |
| หวยราษฎร์หวยรัฐระบัดบาน | แตกกิ่งตระการ |
| เส้นเศรษฐกิจชาติสำคัญ | |
| เส้นเลือดยุคชาติสร้างสรรค์ | อา…อย่าขบขัน |
| ชาตินั้นคือ “กู” หนูเอ๋ย ! | |
| โคลงสี่สุภาพ | |
| กรุงสยามยุคคลั่งเพ้อ | พัฒนา นี้ฤๅ |
| ทวยราษฎร์ปราศเงินตรา | ติดบ้าน |
| ทรราชเมื่อชีวา | วายวอด สิเออ |
| มรดกสามพันล้าน | หลากล้นพิศวง |
| เงินเขาคาบปากครั้ง | ในครรภ์ มาฤๅ |
| ฤๅว่าลอยหล่นสววรค์ | แหวะฟ้า |
| กินเมืองปากเป็นมัน | มาบ…มาบ ! |
| จึ่งมั่งมีฉะนี้อ้า | โลกล้วนลานตะลึง |
| โอม… | |
| หนุมานกลับชาติฟื้น | ชนมา มาฮา |
| กูไป่อมพลับพลา | ดอกเฮ้ย |
| กูไป่อมพลับพลา | ฤทธิ์มาก (โอยพ่อ !) |
| กองสลาก ฯ ตะหากเว้ย…” | ว่าแล้วอมเสีย |
เพลงกลองยาว
บ็อง บ็อง บ็อง เอ้ามาละโหวย เอ้ามาละวา เจ้าพญาลิงลม ไม่ยักกะอมพลับพลา หนุมานยุคใหม่ ยุคไทยพัฒนา ตะละล้า… เอ้ามีอำนาจ ก็เที่ยวกวาดแผ่นดิน ไม่ต้องทำกิน ก็รวยขึ้นมา ตะละล้า…
เอ้ากินโขมง เอ้าโกงขม้ำ ยงโย่ยงหยก ก็เลยหกคะมำ ทั่วทั้งเมืองไทย เขาเห็นไต๋ดำดำ หุยฮา ! ฮา !!
| กลอนเพลงฉ่อย | |
| โอ…งงโหงย | |
| ฉ้อราษฎร์บังหลวง | ตักตวงมือเติบ |
| ฉวยใช้เฉิบเฉิบ | ฉาวฉ่า |
| กองสลากกินแบ่ง | เพื่อนก็แกว่งตีนกวาด |
| คุมเสร็จเด็ดขาด | “ของข้า” |
| โอ้เงินรัฐไหงริบ | ไปงุบงิบง่ายง่าย |
| ไปกินแบ่งกันสบาย | จริงบา |
| ยังสลากสองชุด | เพื่อนกินรุดสองชั้น |
| ปากมอมจนเป็นมัน | เหมือนปากม้า |
| อ้างราชการลับ | เสวยฉับเซ็นเช็ค |
| ให้คุณหนูเล็กเล็ก | ของป๋า |
| ให้เธอนั่งเทานุส | มีบ้านชุดคนใช้ |
| แหวนเพชรเม็ดใหญ่ | วาวตา |
| เงินนับร้อยร้อยล้าน | ราชการของลับ |
| จ่ายเพลินจริงเจียวพับ | เอ๋ยผ่า |
| โควต้าทัพบก | เอาไปกกเสียสบัด |
| ไอ้เสือฟิตอมยัด | เอาวา |
| เงินสวัสดิการ | ของทหารชัดชัด |
| ไหงถึงยักเอาไปยัด | เอ๋ยห่… |
| สวัสดิการของรัฐ | มาเป็นสวัสดิกู |
| เป็นสร้อยเพชรสีชมพู | ของเมียข้า |
| โอ้ว่าแสนสงสาร | เพื่อนทหารของชาติ |
| ไม่ได้เห็นเลยสักบาท | อนิจจา |
| รักษาการณ์หาญฮึก | รักษาศึกทรหด |
| ต้องเหนื่อยอ่อนนอนอด | อกอา |
| ยังถูกเสือกถูกไส | เป็นคนใช้อีหนู |
| โอ้นี่กูหนอกู | ทหารกล้า |
| เกียรติทหารของชาติ | ถูกประมาทชอกช้ำ |
| ศักดิ์ศรีก็จะต้องต่ำ | เอ๋ยช้า |
| โอ้รักษาเอกราช | ยอมเป็นทาสนางบำเรอ |
| มารักษาอีเป๋อ | ของป๋า |
| โอ้แว่นแคว้นแดนไทย | ว่ากว้างใหญ่นั้นจริงหรือ |
| ไหงมีที่เท่าฝ่ามือ | ให้รักษา |
| โอ้เจ้าดอกขจร | ตอนรุ่ง |
| หอมหวลแต่ในมุ้ง | หุยฮา |
| โอ้ว่าเงินสวัสดิการ | ผลาญสิ้น |
| ทหารเอ๋ยจะต้องกิน | น้ำตา |
| ชา…เอ๋ฉาชา ฉ่า ชา…หนอยแม่ เอย | |
| ยานี | |
| โอ้แค้นนิเหลือแค้น | ในทรวงแสนจะแค้นเคือง |
| เกียรติกูที่เคยเรือง | จะร้างฤๅเพราะมือมาร |
| เสียแรงที่กูรัก | ด้วยใจภักดิ์มาเป็นพาล |
| ชื่นชมว่าชายชาญ | มาแตกช่อเป็นทรชน |
| เสียแรงที่กูหลง | ละเมอขานว่าจอมคน |
| น้อยฤๅที่อดทน | มาทดแทนด้วยอาธรรม์ |
| กูชายผู้ชาญชาติ | ทหารหาญที่ชาญฉกรรจ์ |
| ศักดิ์ศรีแต่ปางบรรพ์ | ย่อมกูปวงต้องหวงแหน |
| เกียรติกูดั่งเดือนดาว | กระเดื่องดังทุกดินแดน |
| น้อยฤๅมาหมิ่นแคลน | ให้เป็นข้าบ่อายคน |
| เป็นชายมาหมิ่นชาย | ให้เสียเชิงได้อายชน |
| ใครฤๅจะยอมทน | บ่ทดแทนที่ทารุณ |
| โคลงห้าพัฒนา | |
| คนนั้นค่า | คือคน |
| เกียรติดำกล | เกริกหล้า |
| ใครอย่ายล | หยามเหยียด |
| ฤทธิ์ล้นฟ้า | จักคะมำ |
| คนย่อมท้า | ธรณี |
| เทอดศักดิ์ศรี | เสียดฟ้า |
| ใครย่ำยี | ยืนหยัด |
| ล้มฟุบหน้า | จึ่งยอม |
| ยานี | |
| เจ้าเคยประกาศตน | เป็นคำคนที่เรียกขาน |
| ชื่อใดมิแว่วหวาน | เท่า “ขวัญใจประชาชน” |
| ชื่อนั้นช่างหวานซึ้ง | และตราตรึงในจิตตน |
| จะรักพิทักษ์จน | จวบสิ้นใจให้ทรงจำ |
| นี้ฤๅที่รักษา | ฉะนี้อา…คือผู้นำ ? |
| วาจาเจ้ากลับคำ | เป็นเล่ห์ลิ้นที่ลวงคน |
| เสียแรงที่คลั่งไคล้ | เป็น “ขวัญใจประชาชน” |
| สู้ทอดอุทิศตน | เข้าตามต้อยบ่กลัวตาย |
| กูคือผู้ถือปืน | “ปฏิวัติ” กับ “เจ้านาย” |
| โอ้การณ์มากลับกลาย | เป็นถือปืนเข้าปล้นเมือง |
| สูกินในนามกู | แล้วคือใครที่คนเคือง |
| เสียงแช่งทุกมุมเมือง | เหมาพวกสู…ย่อมกูพลอย |
| โอ้กรรมนิหนอกรรม | จะระยำเพราะตามรอย |
| รู้ตัวเมื่อบ่ายคล้อย | จะสู้คลำมรรคาคืน |
| ถึงชนจะชิงชัง | แต่กูยังจะหยัดยืน |
| กู้เกียรติที่มารกลืน | ให้มวลชนเข้าใจใจ |
| กูชาติทหารหาญ | ประวัติการณ์นั้นยาวไกล |
| พิทักษ์ไผทไทย | นี้สืบทอดมายาวนาน |
| ทหารไทยบ่ขายชื่อ | บ่ขายชาติและวิญญาณ |
| เกียรติยศอุดมการณ์ | บ่ขายกินเป็นเงินตรา |
| เพื่อผองประชาชาติ | จะพลีชีพให้ลือชา |
| ลบคราบน้ำตา…อา ! | ที่อาบนองแก้มผองชน |
| ผู้นำผู้ใดดี | จะร่วมทางด้วยอดทน |
| ผู้นำที่เดนคน | จะคัดค้านไม่เกรงใคร |
| น้ำใจนี้เดี่ยวเด็ด | ดั่งเหล็กเพชรที่ทนไฟ |
| เนื้อร้ายต้องตัดไป | ไม่ลังเลให้คนแคลน |
| ถึงแม้สมุนมาร | จะคงคอยคำรามแทน |
| อุปสรรคถึงเหลือแสน | จะบุกหน้าบ่ถอยหลัง |
| มอบรักต่อคนดี | และต่อผีคือชิงชัง |
| ผีดิบจะล้มดัง | เพราะเรี่ยวแรงที่ระดม |
| เสียงสูคือเสียงผี | ที่หลอกคนด้วยคารม |
| มากูจะแก้ปม | ออกเปิดโปงที่อัปรีย์ |
| ยุคนี้คือยุคใหม่ | ทหารไทยจักทำดี |
| จักผลาญพวกเผ่าผี | ให้พ่ายแพ้ทหารหาญ |
| ผีดิบที่ดุเดือด | ที่ดูดเลือดจะแหลกลาญ |
| เลือดคนที่เคยหวาน | จะขื่นขมระคายคอ |
| ผีดิบที่ยามดึก | จะดูดเลือดมานานพอ |
| แสงทองจะสาดทอ | มาขับผีให้ลี้หาย |
| แสงทองที่ทาบฟ้า | บ่มีมาด้วยง่ายดาย |
| มือคนจะมั่นหมาย | ชะลอฟ้าลงมาดิน |
| คนเองจะสร้างศรี | อโณทัยอันรื่นริน |
| ชุบชื่นทุกชีวิน | ณ แดนทองที่ชื่อไทย |
| โคลงห้าพัฒนา | |
| มาจุ่งพร้อม | เพรียงใจ |
| รวมพลังไกร | แกร่งล้น |
| ขับผองภัย | ผีดิบ |
| กู้คนพ้น | พวกผี |
| ชัยจักแย้ม | ยังดิน |
| แสงสูรย์ริน | เรื่อฟ้า |
| ชุบชีวิน | วามชื่น |
| งามล้ำหน้า | หลากสวรรค์ |
กวีการเมือง (จิตร ภูมิศักดิ์)
จิตร แอบส่งบทกวีนี้ จากคุกมาลงหนังสือพิมพ์ประชาธิปไตย เมื่อ พ.ศ. 2507 หลังจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัตน์ เสียชีวิตไม่นาน ภายใต้นามปากกา “กวีการเมือง” ต่อมาได้มีผู้นำมาลงพิมพ์ในวารสาร “เศรษฐกร” พ.ศ. 2514
