– 1 –
เย็นวันหนึ่งกลางปี พ.ศ. 2546 – ผมเดินทางไปซอยสามัคคี แจ้งวัฒนะ ตามคำนัดกับเพื่อนรุ่นน้อง (การะเกด) ที่สนิทคนหนึ่งในจำนวนหลาย ๆ คนที่ได้รู้จักกันผ่านทางเว็บไซต์เพลงเพื่อชีวิตเว็บหนึ่งที่ผมเป็นคนทำ ที่ผมไปเพราะได้รับการติดต่อให้ช่วยทำเว็บไซต์ของนักดนตรีคนหนึ่ง ที่เจ้าการะเกดไปช่วยงานอยู่ บ้านหลังนี้…. เจ้าของก็คือนักดนตรีคนที่ว่านั้นเอง
ผมจอดรถหน้าบ้าน ต่อท้ายรถจิ๊บ Land Rover สีดำ ก่อนลงจากรถ ผมโทรศัพท์หาเจ้าการะเกดเพื่อยืนยันการมาถึงของผม พร้อมตรวจสอบให้แน่ใจว่า ผมไม่ได้มาผิดบ้าน เมื่อเพื่อนรุ่นน้องยืนยันและเดินออกจากบ้านมารับผม ผมก็ลงจากรถพร้อมหยิบสมุดบันทึกงานส่วนตัว พร้อมด้วยความประหม่าสำหรับการพบ “คนในตำนาน” เมื่อผมเดินเข้าไปในบ้าน บริเวณหน้าบ้านมีโต๊ะไม้ชุดงามอยู่หน้าประตูเข้าบ้าน โต๊ะที่เป็นคล้าย ๆ ทั้งไว้รับแขก ทั้งประชุมและเขียนงาน เจ้าของบ้านนั่งรอผมอยู่ตรงนั้น ชายร่างเล็กวัย 50 ใส่แว่น เสื้อยืดขาว กางเกงขาว สะอาดสะอ้านหากแต่ดูเข้มข้นในที เมื่อเปิดรอยยิ้มต้อนรับกลับดูอบอุ่น ใจดี เป็นกันเอง
ผมยกมือไหว้ “หวัดดีครับ…..น้า”
นั้นคือครั้งแรกที่ผมได้พบ น้าต้อม สองวัย – กิตติพงศ์ ขันธกาญจน์
– 2 –
สมัยผมทำกิจกรรมนักศึกษา ออกค่ายอาสาพัฒนาชนบท สิ่งหนึ่งที่เป็นสิ่งที่แทบจะขาดไม่ได้ในการดำเนินไปของกิจกรรม และชีวิตฅนค่าย ก็คือ “ดนตรี” หรือ “เพลง (ที่ร้องใน) ค่าย” นั้นเอง ส่วนมากแล้วเพลงที่ร้อง ๆ กันก็มักจะเป็น “เพลงเพื่อชีวิต” ที่เนื้อหา ความหมายมันสื่อและสอนพวกเราได้ เพลงอีกส่วนหนึ่งก็จะเป็น “เพลงค่าย” ซึ่งแต่ละสถาบัน แต่ละชมรมก็จเป็นเพลงที่ซ้ำ ๆ กัน เช่น เพลงเราอาสา ศรัทธาเมื่อมาค่าย คนสร้างบ้าน (ของวงโคมฉาย) ฯลฯ แล้วก็จะมีเพลงของสถาบันตัวเอง ที่แต่งกันขึ้นเอง
ในจำนวนเพลงมากมายเหล่านี้ จะมีเพลงอยู่ประเภทหนึ่ง ที่จะว่าเป็นเพลงเพื่อชีวิตก็ไม่เต็มขั้น จะว่าเป็นเพลงค่ายก็ไม่เชิง แต่เชื่อผมเถอะว่า มีร้องกันทุกๆ ค่ายฯ ก็คือ “เพลงเด็ก” เพลงที่มีเนื้อหาที่น่ารัก สดใส เป็นนิทานเพลงหรือมีเนื้อหาเพื่อสื่อ สอนให้เด็ก ๆ ทำดี เช่น ลูกหมูใส่รองเท้า, ปลูกดอกไม้, เจ้าผีเสื้อเอย, กระแตตื่นเช้า หรือมหากาพย์เพลงเด็กอย่าง สะพานสายรุ้ง หรือ คิดถึงกันบ้างนะ เพลงบอกลาที่ทุก ๆ ค่ายต้องใช้ร้องในวันอำลา และยังมีเพลงอื่น ๆ อีกมากมาย เพลงเหล่านี้มีอายุกว่า 25 ปี แต่ก็ยังคงใช้ร้องกันอยู่เสมอ ๆ ร้องกันโดยไม่รู้ว่าเพลงของใครก็เยอะ
เพลงที่กล่าวทั้งหมด เป็นเพลงของ “วงสองวัย” ที่มี น้าต้อม (กิตติพงศ์ ขันธกาญจน์) , น้าวี (วีระศักดิ์ ขุขันธิน) , น้าซู (รพินทร์ พุฒิชาติ) เป็นกำลังหลัก
– 3 –
ผมได้รับรู้อาการป่วยของน้าต้อม เป็นระยะ ๆ จากเพื่อน ๆ พี่ ๆ จนเมื่อมีโอกาสไปช่วยงาน คอนเสริต์ “คิดถึงสองวัย” เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2548 น้าต้อมก็ป่วยหนัก จนไม่สามารถมาเข้าร่วมเล่นดนตรีในคอนเสริต์ครั้งนี้ได้ (แต่เมื่อตอนแถลงข่าวงานคอนเสิรต์ ที่ร้านบ้านไร่กาแฟ น้าต้อมยังมา นั้นคือครั้งสุดท้ายที่ผมได้เจอน้าต้อม)
เช้าวันที่ 1 สิงหาคม 2548 ผมได้รับโทรศัพท์จากพี่คนหนึ่งในกลุ่มเพื่อชีวิตแต่เช้า ซึ่งจะเป็นที่รู้ ๆ กันทันทีว่า นี่เป็นเรื่องผิดปกติหรือเรื่องฉุกเฉิน เนื่องจากช่วงเวลาเช้ามักจะไม่ใช่เวลาที่เราจะติดต่อหากัน เพราะเรามักจะเจอกันตอนเย็น ๆ ค่ำ ๆ แล้วก็แยกย้ายกันตอนดึก ดึกมาก ๆ ไม่ก็ตอนเกือบเช้า ดังนั้นการโทรหากันตอนเช้าย่อมไม่ใช่ปกติวิสัยที่จะประพฤติกันในหมู่พรรคพวกกลุ่มนี้
น้าต้อมเสียแล้ว เมื่อคืน ตีสอง!!!
– 4 –
ผมไม่สนิทกับน้าต้อมนัก ไม่ได้พบเจอกันบ่อย เจอกันส่วนมากก็ตามงานแสดงดนตรี งานกิจกรรมต่าง ๆ แต่ผมรู้ถึงความยิ่งใหญ่ของ วงสองวัย และตัว กิตติพงศ์ ขันธกาญจน์ เป็นอย่างดี ซึ่งผมคิดว่าไม่จำเป็นต้องพูดถึงมัน ทุกท่านน่าจะทราบดีอยู่แล้ว
การสูญเสียครั้งนี้ใหญ่หลวงยิ่งนักสำหรับวงการดนตรี วงการนักกิจกรรม…
น้าต้อม มักเรียกตัวเองว่า “หมาป่าเฒ่า” (น่าจะมาจากเพลง ลูกแกะกับหมาป่า) บ้างก็ใช้ “ผีเสื้อ” เป็นสัญลักษณ์ (จากเพลง เจ้าผีเสื้อเอย) ไม่ว่าในรูปแบบไหน ก็แสดงถึงตัวตน กิตติพงศ์ ขันธกาญจน์ เป็นอย่างดี ตัวตนที่งดงาม อบอุ่น ใจดี อาทรน้อง ๆ หลาน ๆ ทุกคน
ขอให้น้าไปสู่สุขคติ พวกเราทุกคนจะระลึกถึงน้าและเพลงของน้าตลอดไป
อรรณพ นิพิทเมธาวี
อาลัย…ผีเสื้อปีกงาม “น้าต้อม” กิตติพงศ์ ขันธกาญจน์
บนเส้นทางสร้างสรรค์ ดนตรี กวี ศิลปะ เพื่อ เด็ก เยาวชน คนหนุ่มสาว
ตลอด 30 ปีที่ผ่านมา นาม “กิตติพงศ์ ขันธกาญจน์” อาจไม่โดดเด่นเป็นที่รู้จักทั่วไปดังเช่น ศิลปินคนอื่น ๆ ทั้งนี้เพราะเขาคือคนทำงานเบื้องหลังของการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะเพื่อเด็ก เยาวชน คนหนุ่มสาว หลากหลายรูปแบบ ทั้งบทเพลง รายการโทรทัศน์ นิตยสาร-หนังสือ ละครหุ่น นับได้ว่าเขาเป็นศิลปินที่มีคุณภาพคนหนึ่งของประเทศ ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ความฝัน และจินตนาการเพื่อเด็ก ๆ ซึ่งพิสูจน์ได้จากตัวตนและผลงานที่ผ่านมาของเขาในห้วงเวลา 30 ปี สร้างสรรค์รายการโทรทัศน์เพื่อเด็ก
หากย้อนกาลเวลากลับไป รายการโทรทัศน์เพื่อเด็กที่โด่งดังในอดีต ตั้งแต่สโมสรผึ้งน้อย บัณฑิตน้อย ยิ้มเยอะแยะ กระทั่งละครหุ่นเจ้าขุนทองที่กำลังขับขานส่งเสียงเจื้อยแจ้วทุก ยามเช้า อันเป็นผลพวงมาจากการที่เขาได้ตะลอนฝันสัญจรเล่นละครหุ่นทั่วประเทศญี่ปุ่น ล้วนเป็นสิ่งที่เกิดจากกำลังความคิด ผลิตจากจินตนาการของเขา
สร้างสรรค์บทเพลงเพื่อเด็กและเยาวชน สองวัย
บทเพลงใสใสเกิดจากหัวใจอันอ่อนโยนเปี่ยมล้นด้วยความฝันและจินตนาการ ที่มี บทเพลงเจ้าผีเสื้อเอย, ลูกหมูใส่รองเท้า, คิดถึงกันบ้างนะ, สะพานสายรุ้ง, ปลูกดอกไม้ ฯลฯ ยังคงเป็นอัลบั้มบทเพลงเพื่อเด็กที่ดีที่สุดของเมืองไทย และได้ประดับอยู่ในหัวใจของคนฟัง
หลากรุ่นหลายวัย คนหนุ่มสาวผู้เชื่อมั่นในพลังแห่งความฝันและจินตนาการในวันนี้ ต่างเติบโต มากับบทเพลงอันงดงามของสองวัย ปูน้อยค่อยเดิน บทเพลงของเด็กหญิงเด็กชาย สมาชิก ลูกหลานเพื่อนพ้องของสองวัย เป็นอัลบั้มเพลงเด็กที่มีคุณค่าต่อความฝันและจินตนาการของ เด็กยุคใหม่ สะท้อนหัวใจใสซื่อของเด็กๆ มีบทเพลงที่น่ารักอย่าง จักรยาน, ยีราฟคอยาว, รักหนอนน้อย, บ้านของช้าง จดหมายถึงพ่อ ฯลฯ ทุกอย่างกำเนิดภายใต้การสร้างสรรค์ ควบคุม ดูแลของเขา
สร้างสรรค์บทเพลงเพื่อคนหนุ่มสาว
บทเพลงชุด “เงา” อันเป็นอัลบั้มส่วนตัวชุดแรกของเขา ได้สร้างความเหงาเศร้าในหัวใจของ หนุ่มสาวในยุคสมัยยี่สิบห้าปีก่อน ไม่ว่าจะเป็นเพลง ค่ำคืนนี้เงียบเหงา, น้ำค้าง, นางนวล, กลางสายลม ฯลฯ และบทเพลงในอัลบั้ม เงา 2 (หมาป่าเฒ่ากลางเมืองใหญ่), เงา 3 (อันดามัน ยิปซี) ซึ่งห่างหายจากเงา 1 (จากไปด้วยใจที่เงียบงัน) ยาวนานร่วม 20 ปี กำลังได้รับการ กล่าวถึงในแวดวงคนฟังเพลงระดับคุณภาพ
รายการโทรทัศน์ เพื่อเด็กและเยาวชน (2523-2538)
– ผลิตรายการโทรทัศน์ ยิ้มเยอะแยะ สถานีโทรทัศน์ ช่อง 3
– ผลิตรายการโทรทัศน์ สโมสรผึ้งน้อย สถานีโทรทัศน์ ช่อง 5
– ผลิตรายการโทรทัศน์ เจ้าขุนทอง สถานีโทรทัศน์ ช่อง 7
– ผลิตรายการโทรทัศน์ บัณฑิตน้อย สถานีโทรทัศน์ ช่อง 9
– สารคดีโทรทัศน์ (2528)
– ผู้กำกับฝ่ายศิลป์ : สารคดี ชีวิตและงาน พุทธทาสภิกขุ (มูลนิธิเด็ก)
การละคร (2521)
– แสดงละครที่ประเทศญี่ปุ่น ร่วมกับคณะนักแสดงชาวญี่ปุ่น กลุ่มโฮโนะ
ออกแบบฉากละคร (2536-2538)
– โครงการสีสันวรรณกรรม เรื่อง สุวรรณสาม, สังข์ทอง ของสำนักงานวัฒนธรรมแห่งชาติ
– ละครเวทีเรื่อง โลกีย์ชน กำกับการแสดง โดย ชลประคัลย์ จันทร์เรือง
– ละครเวทีเรื่อง ตุ๊กตาวิเศษ กำกับการแสดงโดย เกียรติ์สุดา ภิรมย์
– ละครโทรทัศน์แนวแฟนตาซี เรื่อง เทียนนิรันดร์ กำกับการแสดงโดย เกียรติ์สุดา ภิรมย์
ออกแบบเครื่องแต่งกาย (2536)
– ละครโทรทัศน์แนวแฟนตาซี เรื่อง เทียนนิรันดร์
ออกแบบตัวละครหุ่น (2535-2538)
– ตัวละครหุ่นในโครงการสีสันวรรณกรรม
– ตัวละครหุ่นในรายการโทรทัศน์ เจ้าขุนทอง
– ตัวละครหุ่นในรายการโทรทัศน์ ยิ้มเยอะแยะ
ให้เสียงพากษ์ประกอบตัวละครหุ่น (2535-2538)
– ละครเวทีในโครงการสีสันวรรณกรรม / รายการโทรทัศน์ เจ้าขุนทอง
– รายการโทรทัศน์ ยิ้มเยอะแยะ / รายการโทรทัศน์ บัณฑิตน้อย
เรียบเรียงดนตรี-เพลงประกอบ (2530-2547)
– แสง สี เสียง เทศกาลเผาเทียนเล่นไฟ เรื่อง สุโขทัยเมืองธรรม
– แสง สี เสียง เทศกาลลอยกระทงเมืองสองแคว เรื่อง คารวะลำน้ำน่าน
– โครงการสีสันวรรณกรรม / สารคดี ชีวิตและงาน พุทธทาสภิกขุ
– สารคดีโทรทัศน์ ใต้ฟ้าสีฟ้า สถานีโทรทัศน์ไอทีวี
– ไตเติ้ลรายการและเพลงประกอบรายการ เจ้าขุนทอง – บัณฑิตน้อย
– ไตเติ้ลรายการ บ้านน้อยซอยเก้า
– บทเพลงสำหรับใช้ในกิจกรรมกีฬาคนพิการ เฟสปิกเกมส์
– บทเพลงสำหรับพิธีเปิดการประชุมเอดส์โลก
– บทเพลงประกอบบทกวี ชุด HEART OF INDY กวีอยู่ที่ใจ
อัลบั้มดนตรี (2524-2543)
– เพลงเด็ก สองวัย 1-2 ร่วมกับ วีระศักดิ์ ขุขันธิน, ระพินทร์ พุฒิชาติ
– เพลงชุด ขุนทองขับขาน 1-4 ร่วมกับ เกียรติ์สุดา ภิรมย์
– เพลงชุด เงาหมายเลข 1 จากไปด้วยใจที่เงียบงัน (งานส่วนตัว)
– เพลงชุด เงาหมายเลข 2 หมาป่าเฒ่ากลางเมืองใหญ่ (งานส่วนตัว)
– เพลงชุด เงาหมายเลข 3อันดามันยิปซี (งานส่วนตัว)
– โปรดิวเซอร์เพลงเด็กชุด ปูน้อยค่อยเดิน
– โปรดิวเซอร์เพลงชุด กะท้อนทรงเครื่อง (อ้อย กะท้อน)
– โปรดิวเซอร์เพลงชุด นกกระดาษ (พันทิวา กองทอง)
งานเขียนหนังสือ
– ครานั้น…ผีเสื้อขยับปีกบางบาง (กาลเก่าก่อนเมื่อครั้งสองวัย)
– ขยับปีกอีกครั้ง
– หมาป่าเฒ่าเล่าเรื่องราว ตอน เก้าอี้สีหม่นกับเท้าแขนที่หายไป
– บทกวีสำหรับเด็ก เขาคือใคร
– ยานนั้นชื่อสัญจร
กิจกรรมเพื่อสังคม (ปัจจุบัน)
– เสนอแนวคิดโครงการสะพานสายรุ้ง (ศูนย์สิรินธรเพื่อการฟื้นฟูสมรรถภาพทางการแพทย์แห่งชาติ)
– โครงการวิจัย มหรสพเชิดชักและละครหุ่นเร่ร่อนเพื่อวัยละอ่อน (ทุนทรัพย์ส่วนตัว)
– ผู้อำนวยการโครงการรักหวันเลตก 6 จังหวัดชายฝั่งอันดามัน
ยังระลึกถึงน้าเสมอครับ
หวังว่าน้าคงสบายดีนะครับ
ด้วยความระลึกถึงเสมอครับ….
ยังรำลึกถึงน้าต้อมเสมอค่ะ ผ่านไปอีกปีแล้วสินะ ยังไงน้าต้อมยังเป็นแรงบันดาลใจให้กับวัยเยาว์-วัยหนุ่มสาวเสมอไปค่ะ หลับให้สบายค่ะน้าต้อม
แม้ว่าจะร่วมงานกับน้าในช่วงเวลาสั้น ๆ แต่ก็ทำให้ผมได้รับรู้ว่าการให้อะไรกับสังคมโดยที่ไม่หวังสิ่งใด แต่ผลที่ได้รับกลับมามันเกินคุ้มที่ได้รับใช้ ผมว่าถ้าบนโลกใบนี้มีนักการเมืองที่ได้ช่วยเหลือสังคมเทียบเท่ากับเศษเสี้ยวเล็บนิ้วก้อยข้างซ้ายของน้า ในโลกใบนี้เด็ก ๆ ทั้งโลกคงมีความสุขและไม่โดนกดขี่จากพวกผู้ใหญ่ที่เห็นกับผลประโยชน์ส่วนตัวเป็นส่วนใหญ่
ที่กล่าวมาทั้งหมดก็ไม่ได้อะไรหนักหลอกครับ.. แค่นึกถึงสิ่งดี ๆ ที่น้ามอบให้โลกใบนี้เท่านั้นเอง…. เลยนึกถึงเพลงนี้ที่ได้ร่วมร้องกับเด็ก ๆ กลางเกาะลันตา.. ตอนที่พาเด็ก ๆ ไปออกค่ายลูกเลรักเรด้วยกัน หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเด็ก ๆ คงมีความสุขกันดีนะครับ…. ขอให้น้าหลับให้สบายนะครับ…..
เราคือละอองดาว
ดาวดวงหนึ่งร่วงจากฟ้า เจ้าดาราลับลาไปไกล
ฟ้าเจ้าเอยคงเหงาเศร้าใจ ดาวอยู่ไหนในค่ำคืน
ใครพบเจ้าดวงดารา เก็บเอามาแล้วคืนฟ้าไป
ฟ้าจะมีดวงดาวกระพริบใส พราวไสวปลายละออง
คืนที่มีดาวหล่นหาย อยากชวนน้องมาแต้มแต่งดาว
ระบายสีใสให้ดาววับวาว พราวดั่งแสงละอองดาว
วาดดวงดาวระบายท้องฟ้า เขียนเมฆาน้อยลอยฟูฟ่อง
เติมพระจันทร์อัมพันสีผ่อง แต้มสีทองของตะวัน
เก็บดวงดาวที่ร่วงลงมา คืนให้ฟ้ามีดาวลอยล่อง
แต้มละอองของดวงดารา We are Star Dust (เราคือละอองดาว)
ตรงที่ลำธารน้ำไลลมพัดไหว ๆ เย็นใจ
ลมเอยนลมพัดพาไปต้นไม้แกว่งไกวไปมา
ตรงที่ริมธารน้ำไหลพันธ์พืชไสวดอใบแซมปน
แมลงปอปีกใสบินวนทุกแห่งทุกหนเจ้าบินไปอย่างเสรี
ไหว้อาลัยแด่ น้าต้อม สองวัย หมาป่าเฒ่าผู้ใจดี ผู้เรียงร้อยบทเพลงด้วยความฝันอันพิสุทธิ์
ยังระลึกถึงน้าต้อมเสมอ / แป๋ว+แจ๊ส+จีจี้+พี่แก๊ป
น้าต้อมขา
ไม่พบกันมา 1 ปี น้าคงมีความสุขร้องเพลง
เล่นกีตาร์ให้เทวดา นางฟ้าฟังอยู่แน่เลย
น้าร้องเพลงอะไร เจ้าผีเสื้อเอยหรอคะ
หรือสะพานสายรุ้ง หรือปลูกดอกไม้
วันที่ไปทำบุญครบ 1 ปีของน้า
หลานไปช้าอีกแล้ว พบแต่น้าวี น้าดุจ น้าติ๋ว
พี่กิต พี่เอ น้องป๋อง น้องเกด น้องต้น
อยากเจอน้าเปี๊ยก น้าเปรี้ยว แต่หลานไปไม่ทัน
คิดถึงน้าต้อมจังเลยค่ะ
น้าต้อมขา..สิ่งที่หลานตั้งใจไว้
สัญญาไว้กับน้าต้อมตรงที่เก็บกระดูก
หลานอยากทำมันให้สำเร็จจริง ๆ
ตอนนี้ เรากำลังรวบรวมกำลังพี่น้อง
สร้างเป็นกลุ่มที่แข้มแข็ง
(สร้างแล้ว ล้มลุกคลุกคลานตลอดเลย)
น้าต้อมเป็นกำลังใจให้หลานทำสำเร็จซักทีนะคะ
การรวมตัวครั้งนี้ของเรา ขอให้สำเร็จทีเถอะ สาธุ
เมื่อวันเสาร์ นั่งอยุ่ที่บ้านที่ภูเก็ต ลมเย็น ๆ พัดมากระดิ่งที่แขวนไว้หน้าบ้านสั่นไหวให้เกิดเสียงขึ้น ไม่รู้นึกอย่างไรเดินไปที่เครื่องเล่นซีดีโซนี่เก่า ๆ หยิมแผ่นสองวัยชุดที่ 2 ขึ้นมา เปิดเพลงฟัง วันหนึ่งที่ถึงป่า มีหมาป่าน่าตาน่ากลัว . . . . เจ้าหมาป่ามันไม่ตอบนึกขอบใจฟ้าขอบใจสวรรค์ ที่ส่งอาหารมาเป็นชิ้นเป็นอันขอบคุณสวรรค์เบื้องบน . . . .
เฮ้อ . . . .ตอนอยู่เมืองกรุงมีงานของน้าเมื่อไรก็ไม่ค่อยพลาดเลย คิดถึงน้าต้องเหมือนกันนะ
แล้วคิดถึงกันบ้างนะคะ
เป็นอะไรที่ดีมากในชีวิตนี้