เช้าวันอังคาร (21 พฤษภา 2551) ที่อากาศแสนที่จะเหมาะกับการนอนพักผ่อนซะเหลือเกิน อากาศก็ไม่ถึงกับว่าร้อนมาก แต่สำหรับเหล่านักศึกษาจากมหาวิทยาลัยชื่อดังแห่งที่ราบสูงที่เข้ามาผจญภัยในการฝึกงาน ณ เมืองบางกอก วันนี้ก็ยังจะต้องไปทำงานเหมือนเดิมถึงแม้ว่าร่างกายจะบอกว่าเหน็ดเหนื่อยปานใด แต่ว่าเป็นการทำในสิ่งที่ตนเองชอบมันก็ทำให้เกิดพลังที่จะทำงานขึ้นมา งานที่ว่านี้มันก็คือการไปกับ กลุ่มรองเท้าแตะ เพื่อช่วยผู้ประสบภัยจาก “พายุนาร์กีส” ในประเทศพม่า แต่ว่าเป็นการไปช่วยจัดส่งของบริจาคที่มีผู้บริจาคมา เช่น เสื้อผ้า ข้าวสารอาหารแห้ง และอื่น ๆ
เวลาประมาณ 07.30 น. พวกนักศึกษาฝึกงาน (หน้าตาดีทั้งหลาย) ก็พากันรีบเร่งลุกขึ้นมาอาบน้ำแต่งตัวเพื่อที่จะไปทำงาน เวลาประมาณ 11.00 น. เหล่าอาสาสมัครซึงมีประมาณ 8 คนก็ออกเดินทางไปยัง สภาคริสตจักรแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถานที่ที่เก็บรวบรวมของบริจาคต่าง ๆ ที่จะส่งไปช่วยผู้ประสบภัยในพม่า ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงก็มาถึงที่หมาย
หลังจากนั้นพวกเราก็พากันมุ่งหน้าไปยังห้องที่เก็บของบริจาค แต่พอไปถึงก็ปรากฏว่าของบริจาคก็ได้ถูกจัดไว้เกือบเสร็จแล้ว โดนฝีมือของนักศึกษาและอาสาสมัครชาวพม่า 3-4 คน หลายคนที่ไปก็คิดในใจว่าคงจะไม่ได้ทำอะไรมากหรอกคงมาเสียเที่ยว เราจึงถามว่า ของบริจาคหมดแล้วหรอครับ? ของบริจาคมีแค่นี้หรอครับ? แล้วเราก็ได้รับคำตอบว่า ยังมีเหลืออยู่อีกแต่ว่าเรายังไม่ได้ไปรับของมา
หลังจากได้ฟังคำตอบทุกคนก็ลงมือทำงานในบรรยากาศการทำงานก็เต็มไปด้วยความสนุกสนาน มีการแซวกัน หยอกล้อกันอย่างสนุก บางคนเห็นเสื้อผ้าที่บริจาคน่ารักและก็สวยดีเลยหยิบเอามาใส่เล่นสร้างเสียงหัวเราะให้กับบรรดาอาสาสมัครและเป็นที่สนุกสนาน บางคนก็เห็นเสื้อบริจาคนั้นสวยเก๋ดีก็เลยอยากได้แล้วก็มีการพูดแซวกันว่า ตัวนี้หรืออันนี้เค้าคงไม่เอาหรอก สร้างความสนุก สร้างเสียงหัวเราะไปทั่วทั้งห้องนั้น
และบรรดานักศึกษาพม่าและอาสาสมัครที่ทำงานในวันนั้นก็มีความน่ารัก มีความเป็นกันเองกับอาสาสมัคร “เหนื่อยมั๊ยค่ะ?” “ทานน้ำมัยคะ?” ซึ่งน้ำเสียงที่ออกมาจากปากสาวพม่าที่เป็นภาษาไทยแต่สำเนียงพม่าซึ่งมันก็ดูน่ารัก จนมีหลายคนนั้นยอมอยากที่จะตกเป็นเมืองขึ้น (ทางหัวใจ) ของสาวพม่า ยอมให้พม่ารุกราน
บรรยากาศในวันนั้นก็เต็มไปด้วยน้ำใจของคนไทยที่มีต่อผู้ประสบภัย เห็นได้จากของบริจาคที่ทยอยเข้ามาในสภาคริสตจักรแห่งประเทศไทย และบรรยากาศในการทำงานก็เต็มไปด้วยน้ำใจ ความมุ่งมั่นในการที่จะช่วยเหลือผู้ประสบภัย ซึ่งสามารถสัมผัสได้ถึงความรู้สึกเหล่านั้นจริง ๆ
หงษ์เหิน