“พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ” ศิลปินเพลงเพื่อชีวิต สมัยเข้าป่าหลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 ระหว่างใช้ชีวิตในป่าเขากับเพื่อน 5-6 คน ทุกวันก็จะเปลี่ยนเวรกันล่าสัตว์ป่ามาทำอาหาร

วันหนึ่งเป็นเวรของ พงษ์เทพ แกก็คว้าปืนยาวสะพายบ่าเดินเข้าป่าไป อาหารโปรดของพงษ์เทพ คือ “แกงเนื้อลิง” พอเดินเข้าป่าไปได้สักพัก เห็นลิงตัวหนึ่งนั่งอยู่บนต้นไม้หันหลังให้ แกก็รีบยกปืนประทับบ่ายิงเปรี้ยงไปที่ตัวลิง

เหตุการณ์แปลกประหลาดได้เกิดขึ้น เพราะปกติลิงพอถูกยิงจะหล่นตุ๊บจากต้นไม้ทันที แต่ลิงตัวนี้นั่งจับกิ่งไม้เฉยไม่หล่นลงมา จะว่ายิงไม่ถูกก็ไม่น่าเป็นไปได้ เพราะพงษ์เทพแกยิงปืนแม่นระยะแค่นี้ เป้าใหญ่ขนาดนี้ไม่พลาดแน่นอน

ในขณะที่กำลังสงสัยอยู่นั้นลิงตัวที่ถูกยิงร้องโหยหวนเสียงดังมาก ฝูงลิงที่แยกย้ายกัน ออกหากินอยู่บริเวณใกล้ ๆ วิ่งแห่กันเข้ามาหาลิงตัวที่ถูกยิง แล้วร้องโหยหวนเหมือนกันหมด แกตกใจยืนตกตะลึงไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น

สักครู่ลิงตัวที่ถูกยิง โยนวัตถุเล็ก ๆ สีดำ ๆ ชิ้นหนึ่งให้กับลิงตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด แล้วก็หล่นตุ๊บลงมาจากต้นไม้ พงษ์เทพรีบวิ่งไปดู…

ลิงถูกยิงเข้าที่หลัง ทะลุหน้าอกเลือดแดงฉานเต็มตัว

พงษ์เทพ เห็นแล้วต้องเบือนหน้าหนี ลิงที่ตกลงมาเป็นลิงแม่ลูกอ่อน ขณะที่ถูกยิงเธอกำลังให้นมลูก ลิงตัวน้อยกำลังดูดนมอย่างมีความสุข ทันทีที่ถูกยิง ถ้าเป็นลิงตัวอื่นจะหล่นตุ๊บลงจากต้นไม้ แม่ลิงตัวนี้ยังหล่นไม่ได้ยังตายไม่ได้ เพราะเธอยังมีภารกิจใหญ่หลวงที่ต้องทำคือรักษาชีวิตลูกน้อยให้พ้นอันตราย เธอกัดฟันโหนกิ่งไม้ไว้แม้จะเจ็บปวดแทบขาดใจ มองดูเลือดที่ไหลหยดเป็นทางด้วยความตกใจ พยายามรวบรวมพละกำลังที่ยังพอมีเหลือทั้งหมด ตะโกนสุดเสียงร้องเรียกฝูงลิงเข้ามาใกล้ ๆ แล้วก็ฝากฝังให้เลี้ยงลูกน้อยแทนเธอ หลังจากโยนลูกให้จ่าฝูงแล้วมองดูลูกถูกพาไปจนลับสายตาแล้ว แน่ใจว่าลูกปลอดภัยแล้ว จึงหลับตาแล้วหล่นลงมาตาย

พงษ์เทพ ก้มมองหน้าลิงแล้วร้องไห้ เพราะที่เบ้าตาลิงมีหยดน้ำตาใสๆ กำลังไหลริน

พงษ์เทพ รีบเดินกลับที่พักเอาปืนไปเผาทิ้ง ไม่ยอมออกล่าสัตว์อีกเลยตลอดชีวิต

และภาพความรักที่ยิ่งใหญ่ของแม่ลิงที่มีต่อลูกน้อยเป็นแรงบันดาลใจ ให้เขาแต่งเพลงขึ้นมาเพลงหนึ่งชื่อว่า “ลิงทะโมน” เพื่อยกย่องเชิดชูคุณค่าของความรักที่แม่มีต่อลูกนั่นเอง

ลิงทะโมน (พงษ์เทพ กระโดนชำนาญ)