รวมพลคนค่าย 18 โรงเรียนบ้านยางใต้ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ (17-31 พฤษภาคม 2547)

18 พ.ค. 47 ณ โรงเรียนบ้านยางใต้ อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ ค่าย #18

มาถึงจนได้ เป็นการเดินทางที่แสนยาวนานจริงๆ สำหรับเรา แต่ก็สนุกดี มีเพื่อน ๆ มีพี่ ๆ ร่วมเดินทางมาด้วยกันแต่นานมาก โคตรนาน ไม่เคยรู้สึกเบื่อกับการเดินทางอย่างนี้มาก่อน อารมณ์เสียเหมือนกัน หงุดหงิดด้วย แต่ก็อดทนได้….แค่นี้เอง หนักกว่านี้ยังเจอมาแล้ว

ค่ายนี้ได้มีโอกาสเป็นหนึ่งในคณะกรรมการค่ายเลยรู้สึกว่าความรับผิดชอบมันเยอะ ตลอดทางที่นั่งรถไฟคิดอยู่ตลอดเวลาว่าเราต้องทำอะไรบ้าง แต่สุดท้ายก็จบตรงที่คำว่า “ช่างมันเถอะ” เรารู้และสำนึกอยู่ตลอดว่าเรากำลังจะไปทำอะไร และเรารู้สึกอย่างไรกับหน้าที่ที่เราได้รับ ถ้ารู้สึกไม่ดีหรือรู้กับมันในด้านลบเราปฏิเสธมันตั้งแต่แรกแล้ว เหนื่อยดีเหมือนกันแต่คนอย่างเราไม่เคยคิดว่าอะไรยากเกินสมองมนุษย์จะคิดทำ ที่สำคัญถ้าเราตัดสินใจแล้วมีอยู่ 2 อย่างเท่านั้นทีเราจะยอมรับ คือ ล้มเหลว กับ ประสบความสำเร็จ จะไม่มีคำอื่นนอกเหนือจาก 2 คำนี้ แล้วเราก็เป็นคนที่มีทางเลือกแค่ 2 ทางเท่านั้นมาตั้งแต่เกิดซะด้วย ไม่เคยมี Choice ให้ตัวเองมากเท่าไหร่ ถ้าคิดทำแล้วไม่ล้มเหลวก็ประสบความสำเร็จ ไม่แพ้ก็ชนะ

เราก็แค่อยากเขียนอะไรออกมาบ้างเผื่อจะทำให้เรารู้สึกหายเหนื่อยจากการเดินทาง และมีกำลังในการทำงานค่ายอาสาได้ดีที่สุด ตามความสามารถที่เราทุ่มเทเต็มที่จริง ๆ ยังมีอีกหลายเรื่องนะเนี่ยที่โคตรเบื่อและอึดอัด แต่เมื่อยแล้ว ขี้เกียจด้วย

รวงข้าว

20 พ.ค. 2547

ในที่สุดการตัดสิดใจครั้งสุดท้ายก็จบลงที่ อ. อมก๋อย จ.เชียงใหม่ กับค่ายอาสาฯ …ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าจะได้มากับค่ายนี้ เพราะคิดว่าคงจะไม่มีเวลาเท่าไหร่ เพราะยังมีเรื่องที่จะต้องทำอีกหลายเรื่อง เพราะความที่อยากจะ เรียนรู้อะไรใหม่ทำให้ความคิดที่จะทำอะไร ๆ อีกหลายเรื่องต้องกลายเป็นอากาศไป และฤดูร้อนสุดท้ายของชีวิตมหา’ลัย ก็คือการที่ได้เข้ามาสัมผัสกับชีวิตของคนชาวค่าย (ค่ายอาสาพัฒนาชนบท) เป็นเรื่องที่ดีที่จะได้มาเรียนรู้อะไร ๆ ใหม่ ๆ ด้วย ดีเหมือนกันเพราะเคยคิดมานานแล้วว่าอยากจะมาออกค่าย และทำกิจกรรมเพื่อชุมชน จะได้ไม่ว่างจนเกินไป เพราะหลังจากเรียน Summer เสร็จก็จะว่างไม่ตรงกันซะที แต่พอตัดสินใจมาที่ค่าย ก็ต้องยอมตัดทุกอย่างที่คิดจะทำให้หมด เพื่อที่จะได้มาทำงานตรงนี้ได้อย่างเต็มที่ และบางทีอาจจะมีอะไร ๆ ใหม่ ๆ ให้เรียนรู้ด้วยก็ได้

หลังจากที่ฉุกละหุกกับการจ่ายค่าเทอมและการเก็บกระเป๋า ในที่สุดก็เดินทางถึงเชียงใหม่จนได้ เป็นการเดินทางที่ยาวนานมาก เริ่มตั้งแต่การที่มีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ทำให้รถไฟที่จะมารับจะต้องล่าช้ากว่ากำหนดถึงครึ่งชั่วโมงกว่า แต่ในที่สุดเราทุกคนก็ได้ใช้เวลาอันยาวนานกับการนั่ง-นอน-และเล่นบนรถไฟขบวนที่จะเดินทางมาเชียงใหม่จนได้ เฮ้อ…เป็นอะไรที่ยาวนานจริง ๆ สิบสี่ชั่วโมงบนรถไฟและหกชั่วโมงกว่ากับการเดินทางเข้ามายังที่พักของเรา แต่ในที่สุดก็มาถึงจนได้ เฮ้อ….ไม่รู้ว่าการมาครั้งนี้จะได้เจออะไรบ้าง แต่ที่แน่ ๆ เราได้เรียนรู้การทำกิจกรรมร่วมกันของคนกลุ่มหนึ่ง เป็นกิจกรรมที่ทำงานเพื่อสังคม และอีกอย่างที่เราจะได้เจอก็คือ การที่จะได้รู้จักเพื่อนใหม่ ไม่ว่าจะเป็นพี่หรือน้อง สนุกดีได้มีกิจกรรมให้ทำ

การทำงานที่ค่ายนี้ทำกันเป็นระบบมาก เห็นแบบนี้ทำให้รู้สึกถึงความเป็นระเบียบเรียบร้อย ทุกคนต่างก็รู้หน้าที่กันดีด้วยมั้ง รู้จักเพื่อนใหม่เพิ่มขึ้นเยอะเลย เริ่มตั้งแต่ พี่นก พี่เอ พี่เสก พี่หมง พี่คิ้ม ต้อม ตุ้ย (รู้จักมาก่อนแล้ว) แบงค์ แก๊ป เอก รุ่ง (เคยเจอกันมาก่อนแล้ว) ส่วนผู้หญิงก็มี แก้ม หญิง ฮวง สา พิ้งค์ ปุ๋ย และเพื่อนใหม่ค่ายแรกเหมือนกัน คือ ฝน เหมียว หยอย หวังว่าคงจะได้เจอกันที่เอแบคด้วยอีกครั้ง ยังมีอีกหลายคนที่เป็นสมาชิกค่ายฯ คงจะได้เจอพวกเขาสักวัน

สิ่งที่รู้สึกว่าชอบอีกอย่างของค่ายนี้ก็คือระบบการทำงาน ระบบการทำงานของที่นี่จะแบ่งเป็นสามฝ่าย และแต่ละฝ่ายก็มีอะไรที่น่าสนใจให้ได้ศึกษาด้วย แต่ละฝ่ายก็จะมี – โครงงาน (การก่อสร้างอาคารเรียน) – ประชาสัมพันธ์ (พูดคุย, เรียนรู้ชีวิตชาวบ้าน) แล้วก็สุดท้ายที่เป็นหัวใจหลักของค่ายฯ นั่นคือ “สวัสดิการ” (ทำอาหาร) แต่จริง ๆ แล้วทุกฝ่ายก็สำคัญหมดและมีกิจกรรมให้ทำต่างกันด้วย คงจะได้เรียนอะไรอีกเยอะจากแต่ละฝ่าย รู้สึกดีที่ได้มาค่ายในครั้งนี้นะ

“……เมื่อฉันออกแสวงหา
ขุมทรัพย์ของฉัน
บนเส้นทาง
ซึ่งฉันอาจไม่เคยค้นพบ
หากฉันไม่กล้าที่จะทดลองทำ
! สิ่งที่ดูเหมือนเด็กเลี้ยงแกะธรรมดา
ก็จะไม่มีทาง….เป็นไปได้….”

– ขุมทรัพย์ที่ปลายฝัน-

แขกดอย

ช่วงแรก ๆ รู้สึกเหนื่อยใจมาก ๆ อาการเหนื่อยทางกายมันไม่ได้เป็นผลอะไรกับเราเลย ณ เวลานี้พอทุก ๆ อย่างลงตัวขึ้น มันก็ทำให้เราสบายใจขึ้นมาบ้าง หลายวันที่ผ่านมา บ้างก็รู้สึกดี บ้างก็รู้สึกเซ็ง รวม ๆ แล้วก็นับว่าประทับใจในส่วนหนึ่งเลย บรรยากาศดี ๆ นี้เราจะเก็บมันตลอดไป ลืมไม่ลง

ยาดม

24/5/04 : 7.23 น.

เมื่อเช้าเป็นเวรผลัด 3 สมาชิกที่เคยนั่งด้วยกันมาก้อมีเดิมหนึ่ง ใหม่หนึ่ง ได้คุยเรื่องเก่า ๆ ให้น้องฟัง รู้สึกดีไม่รู้ว่าคนอื่นคิดยังไง แต่เราชอบนอนกองไฟนะ มันรู้สึกอบอุ่น เราไม่สามารถจะไปจุดไฟแล้วอิงใกล้ ๆ ได้ถ้าไม่ใช่ในค่ายฯ

อยากพูดถึง Buddy ของตัวเอง น่ารักมาก ประทับใจ หลังจากเฉย ๆ กับการเล่นในหลาย ๆ ค่าย Buddy ให้ลูกอม ให้เพื่อนเอาน้ำมาให้กิน ช่วยเราขุดดิน คุยกะเรามากขึ้น ทั้งที่ปกติไม่ยอมคุยกะใคร ชอบไปนั่งอยู่คนเดียว ส่วนวันนี้เริ่ม Buddog แล้วจะเป็นยังไงต้องติดตามตอนต่อไป รู้แต่ว่าวันนี้ตัวเองเป็น Store จำอุปกรณ์หลายอย่างไม่ค่อยได้แล้ว ยังไงฟื้นฟูความจำละกัน งานของวันนี้คงเป็นงานไม้เพราะงานปูนเหลืออีกนิดเดียว รู้สึกว่างานยังไปไม่ถึงไหน เดี๋ยว P’ นก มาแล้ว คงโดนเฉ่งน่าดู

ผ่านมาได้อาทิตย์นึงแล้ว ทำให้รู้จักนิสัยใจคอของคนที่เรารู้จักมากขึ้น ทั้งดีและไม่ดี เร็วแฮะ อีกเดี๋ยวก้อกลับ เหมือนเพลงที่ว่า “วันเวลาหมุนเปลี่ยนเวียนไป สุขสดใสไม่เคยเดินตาม” เด็ก ๆ เริ่มเข้าหาเรามากขึ้น ดีใจมาก เพราะไม่คิดว่าสภาพตัวเองในตอนนี้จะยังสวยอยู่ มันดำและดูโทรม ๆ ไงไม่รู้

รักค่ายฯ เสมอ

กระแสชล

วันนี้ทำกิจกรรมตามปกติ ที่ได้รับมอบหมาย ก็ทำตามปกติ ตกบ่ายเป็นอะไรที่ดีใจมากที่สุด พี่ชายที่เรารักและเคารพมาก ๆ มาถึงค่ายพร้อมรอยยิ้ม ความรู้สึกมันเริ่มอบอุ่นมากขึ้น ได้พูดคุยกันนิดหน่อยเพราะยังต้องทำงานอยู่

บรรยากาศรอบกองไฟมันกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง เมื่อเรามีเสียงเพลง เสียงกีตาร์ให้เราฟัง เรามีความสุขมาก แต่ก็ยังเผลอน้ำไหลอีกจนได้ ไม่ค่อยเหงาแล้ว กว่าจะนอนก็ดึกมาก นั่งร้องไห้กับพี่ ๆ มีอาหารรอบดึกด้วย

เหมือนที่เคยกล่าวไว้ในบทความพิเศษว่า บ้านหลังนี้ก้อมีแค่พี่-น้องเท่านั้น เมื่อมีน้องอยู่ลำพังก้อคงจะเหงา อ้างว้าง กลัว… และเป็นธรรมดาที่น้องสาวคนนี้จะดีใจที่เห็นพี่ ๆ เดินเข้ามาในบ้านพร้อมกับความมุ่งมั่นและความฝัน

อยากจะบอกนะว่า ไม่เคยคิดจะผูกพันและรักค่ายไหนเท่าค่ายนี้เลย จะขอตามฝันและสานฝันของตัวเองไปพร้อม ๆ กับ พี่ ๆ นะ

สำหรับเรื่องส่วนตัวก็คือเรื่องส่วนตัว เรื่องงานก็คือเรื่องงาน อยากให้ช่วยเข้าใจบ้างนะ สำหรับใครสักคนที่ผูกพัน (รักมากนะ) จำไว้ว่านี่เรากำลังอยู่ในโลกของความฝัน เมื่อวันที่เรากลับไปสู่โลกของความจริงทุกสิ่งมันจะคงเดิม ขอให้เข้าใจนะ

เมืองหนาวไม้เก่า

ค่ายฯ 18…. รู้สึกแปลก ๆ นะ คงเป็นเพราะไม่มีหน้าที่ประจำ เลยทำให้รู้สึกไม่รู้จะทำอะไรดี ตัวเราจะไปสอนใครได้นะในเมื่อเรายังไม่ค่อยรู้จักตัวเราเลย

ครูใหญ่ ครูเจี๊ยบ พี่สายัณ พี่ตรี…. ดีใจครับ …รู้สึกดีมาก ๆ กรรมการขยันดีครับ อยากให้ตั้งใจกันมาก ๆ นะ และขอโทษด้วยในเรื่องที่ไม่ได้ทำ

ตอนนี้นั่งกัน 2 คนกับ ปธ. กีตาร์ตัวใหม่รึเปล่าก็ไม่รู้ แต่บทเพลงยังคงฟังคุ้นหู คืนนี้บรรยากาศมันดีจริง ๆ…. ฝนตกเล็กน้อยและเงียบสงบ

ท้องฟ้ายังคงเหมือนเดิม ดวงดาวและพระจันทร์ก็ยังคงเดิม แต่สถานที่เปลี่ยน จังหวัดเปลี่ยน แต่ในหมู่บ้านเรายังคงมองบางอย่างที่เหมือน ๆ กันเกือบทุกหมู่บ้าน คือ การเปลี่ยนแปลงอันเนื่องจากการพัฒนา เราควรทำอย่างไรดี….

มาค่ายเที่ยวนี้ได้ออก ปชส. ดีใจมาก ได้หาเห็ดฮอบ (ถ้าผิดก็ขอโทษนะครับ) ด้วย อยากเดินหาทุกวัน มีความรู้สึกเหมือนเราเป็นเด็กเลย (จริง ๆ นะ) ได้เดินเล่น เดินป่า ดูตามพื้น พอหาเจอก็เฮใหญ่ ดีใจมาก ๆ แต่สำหรับชาวบ้านแถวนี้มันไม่ใช่นะสิ เห็ดคือสินในดินของเขา คือ อาหาร คือรายได้ของพวกเขา ไม่น่าเชื่อจริง ๆ นะว่าภูเขา (ธรรมชาติ) จะสร้างเห็ดขึ้นมาได้ แล้วถ้าป่าที่สมบูรณ์นี้จะมีอาหารให้เรากินขนาดไหนนะ ถ้าเพียงแต่คนเราแบ่งปันกัน อาหารคงมีเพียงพอสำหรับคนทั้งโลก ไม่ใช่ใครมีก็จะขายลูกเดียวให้แก่คนที่มีเงิน คนที่มีเงินก็พยายามครอบครองทรัพยากรให้มากที่สุดโดยไร้ซึ่งการแบ่งปัน

ท่าน ปธ. ยังคงเล่นกีตาร์เสียงแปร่ง ๆ กับเสียงร้องที่เพี้ยน ๆ แต่ก็เพียงพอที่จะสะกดให้ผมนั่งฟังแกร้องได้อย่างตั้งใจ และร้องตามบ้างอย่างไม่เขิน (เพราะเสียงเพี้ยนพอกัน)

มีคนมานั่งเพิ่มอีก 2 คน แต่บรรยากาศยังเหมือนเดิม

นอนดีกว่า ปวดหลังแล้วด้วย

ขมจัง

30 พ.ค. 47 ก่อนขึ้นรถไฟ…. 20.15 น.

วันนี้ก้อเป็นวันสุดท้ายที่เชียงใหม่ อีกไม่นานก้อจะก้าวขึ้นรถไฟ กลับ กทม. แล้ว เดินทางมาทั้งวันเลยตั้งกะบ่าย นั่งรถ Pick up ลงมาจากโรงเรียน เมารถ อ๊วกแตกเลย อ๊วกกันทั้งคันเลย (ผู้หญิงอ่ะน่ะ) อาจเป็นเพราะไม่ได้นั่งรถนานแล้วทางลงก้อคดเคี้ยวดีด้วย คนขับก้อคงบ้ารถใหม่ด้วยมั้ง 555… แถมเบียร์ช้างอีก 1 ลัง ตอนนี้อยู่ที่สถานที่รถไฟแล้ว อยู่พร้อมหน้ากันทุกคน อีกไม่นานก้อต้องกลับ กลับสู่ชีวิตที่ยุ่งเหยิง

ตอนนี้ก้ออารมณ์ดีปนเสียใจด้วยหล่ะมั้ง !!! หลังจากไม่ได้กินหมูเยอะ ๆ มานาน ตะกี้ไปกินกินจนสะใจเลย พออิ่มก้อเริ่มมานั่งทบทวนสิ่งต่าง ๆ ที่ผ่านมาในช่วง 10 วันที่ผ่านมา

วงเวียนปราบเซียนคราวนี้ก้อเหมือนเดิม น้ำตาแตกอีกรอบ แต่คราวนี้สิ่งที่พูดคุยกันรู้สึกจะมีความหมายมากขึ้น ไม่รู้ทำไม??? เมื่อคืนก่อนก้อเปิดใจ…… ร้องไห้ทำมัย???? เราก้อต้องมานั่งคิดทบทวนสิ่งต่าง ๆ และตัวเราอีกที ค่อย ๆ มองย้อนกลับไปทีละเรื่องละเรื่อง บางเรื่องก้อยังคาใจ น้อง ๆ ที่เคยมาหาเรา อย่าง แปะจา ปุเหน่ วันกลับอย่างวันนี้ดันไม่เจอ……..ไม่ได้ลา………แต่ก้อคิดว่าจากไปเงียบ ๆ ลากันแบบนี้ อาจจะไม่เสียใจมากก้อได้ มีหลายครั้งหลายอย่างผ่านเข้ามาในหัวตอนนี้ หลาย ๆ สิ่งจากประสบการณ์รอบตัว คำแนะนำจากพี่ ๆ เพื่อน ๆ เยอะแยะไปหมด มันคงช่วยให้เราปรับปรุงตัวเองให้ดีขึ้นไปอีกสักนิดก้อยังดี…..และทำได้อ่ะน่ะ

นี่คงเป็นการเขียนครั้งสุดท้าย ณ ที่จังหวัดเชียงใหม่…………..บ๊ะบาย อมก๋อย

ปล. จะจำทุกอย่าง ญ บ้านยางใต้ ไม่ว่าจะทุกข์ สุข เหงา โกรธ น้อยใจ ไม่พอใจ เสียใจ ดีจัย มีความสุข…….ทุกอย่าง…….

ซุ่มซ่ามจัง


เสื้อค่าย รุ่นป้ายชมรม ค่ายฯ 18 จ.เชียงใหม่ ด้านหน้าเป็นรูปป้ายประจำชมรม ด้านหลังรูปกองไฟเล็ก ๆ พร้อมรายละเอียดของกิจกรรม


จุลสารค่าย ฉบับที่ 31
ปลาเป็น-ปลาตาย เล่มที่ 20 ประจำค่ายฯ 18 (เชียงใหม่)