วสันตกาล พ.ศ. 2535 – เช้าวันนั้นผืนฟ้าอึมครึมคล้ายฝนจะหล่นโปรย ผืนนากลับแลโล่งดั่งแล้งเข็ญมายาวนาน คนอีสานเผชิญกับช่วงฝนทิ้งเสียจนชาชิน ยิ่งปีนี้แปดสองหนหรือเดือนแปดสองครั้ง ยิ่งตอกย้ำความเชื่อดั่งเดิมว่าจะแล้งแห้งเป็นสาหัส ผมเห็นเป็นภาพแรกเมื่อแรกก้าวลงจากรถโดยสารปรับอากาศชั้นดี …
ศิลปะเพื่อชีวิต
ฝนแรก (จิระนันท์ พิตรปรีชา)
ฝนแรกเดือนพฤษภารินสายมาเป็นสีแดงฝนเหล็กอันรุนแรงทะลวงร่างเลือดพร่างพราว หลั่งนองท้องถนนเป็นสายชลอันขื่นคาวแหลกร่วงกี่ดวงดาวและแหลกร้าวกี่ดวงใจ บาดแผลของแผ่นดินมิรู้สิ้นเมื่อวันใดอำนาจทมิฬใครทมึนฆ่าประชาชน เลือดสู้จะสืบสายความตายจะปลุกคนวิญญาณจะทานทนพิทักษ์เทิด ประชาธรรม ฝนแรกแทรกดินหายฝากความหมายความทรงจำฝากดินให้ชุ่มดำเลี้ยงพืชกล้า ประชาธิปไตย จิระนันท์ พิตรปรีชา
คาราวาน หรือ คาราบาว “เหลา – สด – ไม่เนื้อ” (นิธิ เอียวศรีวงศ์)
“บัวลอย บัวลอย บัวลอย…” คุณแอ๊ด คาราบาว ร้องตะโกนเสียงสูงปรีดกลางสนามหลวง ก่อนจะจบเพลงฮิตเพลงนี้ลงเมื่อหลายปีก่อน ผู้ชมซึ่งชูกําปั้นตามจังหวะอย่างเมามันลดกําปั้นลงพร้อมกับล้วงระเบิดออกขว้างไปยังกลุ่มอื่น ตูม! เจ็บกันบ้าง …
ถึงบัณฑิต (คมทวน คันธนู)
แต่ละข้ามแต่ละขั้นของบัณฑิตทุกย่างก้าวกว่าพิชิตล้วนยากเข็ญแต่ละช่วงแต่ละฉากล้วนยากเย็นทุกก้าวย่างกว่าจะเป็นแทบวายปราณ ซึ่งสังคมเส็งเคร็งและโสโครกพร้อมสับโขกใครใครที่ไม่ผ่านค่านิยมปริญญาเหมือนปราการคอยแบ่งงานแบ่งเหงื่อแห่งเชื้อชน ก็เหงื่อไคลของใครนั้นไหลหลั่งอยู่เบื้องหลังความสำเร็จอันเผล็ดผลเหงื่อซึ่งสร้างสร้างทางให้หลายหลายคนขึ้นหอคอยคอยปล้นเหงื่อคนกิน สำหรับเธอถึงดั้นถึงบัณฑิตหากความคิดแคบคับถึงทรัพย์สินรักษาตัวตามตำราจนชาชินกระซวกเลือดกำซาบลิ้นเหลือโอชะ จึงบัณฑิตทรราชย์มีกลาดเกลื่อนเสื้อครุยเปื้อนจมปลักความกักขละอนาคตข้างหน้าล้วนภาระเธอต้องกวาดกองขยะให้สังคม แต่ละวารแต่ละวันของบัณฑิตต้องทำลายอภิสิทธิ์ที่สั่งสมแต่ละก้าวแต่ละย่างต้องล้างล้มความโสมมทั้งหมดด้วยมือเธอ คมทวน คันธนูนาฏกรรมบนลานกว้าง, มีนาคม 2525
ลาวแพน เพลงที่สะท้อนวิญญาณแห่งการต่อสู้ของประชาชน (จิตร ภูมิศักดิ์)
มีเพลงไทยสากลอยู่เพลงหนึ่ง ซึ่งสังเกตได้ว่าออกอากาศทางสถานีวิทยุต่างๆ บ่อยครั้งกว่าเพลงอื่น ๆ หลายเพลง ถ้าหากเข้าใจไม่ผิด เพลงนี้ดูเหมือนจะเป็นเพลงใหม่ ชื่อของเพลงและชื่อผู้ประพันธ์เพลงนั้นได้พยายามเงี่ยหูฟังอยู่ แต่ทว่ายังไม่พบว่าได้มีการประกาศเป็นกิจจะลักษณะจึงน่าเสียดายที่ไม่สามารถบันทึกมาเสนอได้ แต่ถึงอย่างไรก็ดี …
เกิดวันที่ 6 ตุลา 2519 (จิระนันท์ พิตรปรีชา)
เมื่อสายใยในชาติขาดสะบั้นสิ้นสายครรภ์มาตุคามไร้ความหมายก่อนกำหนดกฎกำเนิดเกิดเพื่อตายเพียงลิ่มเลือดเละร้ายคล้ายเศษคน ร่างทารกอัปลักษณ์ทะลักหลุดซากมนุษย์ที่ชีวิตถูกปลิดปล้นประจานเหตุประเทศนี้เกิดวิกลเกลื่อนถนนก่นสังหาร…ลูกหลานใคร? เป็นตราบาปคราบบ้าที่ปรากฏประทับรอยอัปยศครั้งยิ่งใหญ่ภาพนรกหกตุลาจึงพร่าไป(สะดวกใจถ้าไม่ต้องเหลียวมองดู) หากทารกหกตุลายังเหลือรอดเด็กที่คลอดกลางลานประหารหมู่กระสุนกราดสาดสั่งเสียงพรั่งพรูสอนให้รู้หลังตระหนกหกตุลา เป็นวันเกิดที่มากับการดับสิ้นต้องขาดวิ่นสูญวัยไร้เดียงสาน้ำตาหยาดหมาดแล้วในแก้วตาเมื่อแผ่นดินมารดากระด้างเกิน เติบโตและแตกต่างอย่างแกร่งกร้าวปวดร้าวคราวปะทะระหกระเหินดาวศรัทธาที่ส่องสร้างเส้นทางเดินร่วงลับเนิน…ฝังสหายอีกหลายคน คือตำนานเดือนตุลา (ถ้าจะนับ)ยี่สิบเจ็ดปี.. ที่เกิดดับยังสับสนยี่สิบเจ็ดปี…ที่คนขลาดพิฆาตคนและวิญญาณวีรชนยังวนเวียน ใครคือ …
ความหวัง (เสกสรรค์ ประเสริฐกุล)
คืนนี้มืด ใช่มืดสนิทไฟดวงนิดยังมีแสงขอเพียงลมพัดแรงเถ้ามอดแดงก็จะลาม ทุ่งนี้รก ใช่รกหมดนั่นข้าวสดขึ้นแทรกหนามขอเพียงฝนจากฟ้าครามข้าวจะงามทั่วหญ้าคา เสกสรรค์ ประเสริฐกุล, 2518
สนทนาคาราวาน (วิรัช แสงรัตนมณี)
หากจะถามหนุ่มสาววัยรุ่นนักฟังเพลงสักหนึ่งร้อยรายในกรุงเทพมหานครนี้ว่า คุณรู้จักเพลง “คนกับควาย” ไหม ก็อาจจะมีใครสักคนหนึ่งตอบว่า “เอ่อ หนูคิดว่าแฟนของหนูที่อยู่ธรรมศาสตร์เขาเคยพูดถึงเหมือนกันแหละค่ะ” หรือมิฉะนั้นก็อาจจะเป็นว่า “คุณคิดว่าผมเชยหรือ ผมก็เล่นกีต้าร์เป็นเหมือนกันนะ” …
ครบรอบปี – สิบสี่ตุลา (วิสา คัญทัพ)
สิบสี่ตุลา – วันมหาปิติพระปกเกล้าทรงดำริพระราชดำรัสทรงลงพระปรมาภิไธยอนุมัติไทยยังจำ – คำสัตย์ เสมอมา สองสี่เจ็ดห้าถึงสองพันห้าร้อยสิบหกโอ้พระปกฯ – ประชาธิปไตยอยู่ไหนหนาสิ้นแผ่นดินเผด็จการก็ลานตาทุรชนเรียงหน้าเข้าราวี สิบสี่ตุลา …
อหังการของดอกไม้ (จิระนันท์ พิตรปรีชา)
สตรีมีสองมือมั่นยึดถือในแก่นสารเกลียวเอ็นจักเป็นงานมิใช่ร่านหลงแพรพรรณ สตรีมีสองตีนไว้ป่ายปีนความใฝ่ฝันยืนหยัดอยู่ร่วมกันมิหมายมั่นกินแรงใคร สตรีมีดวงตาเพื่อเสาะหาชีวิตใหม่มองโลกอย่างกว้างไกลมิใช่คอยชม้อยชวน สตรีมีดวงใจเป็นดวงไฟไม่ผันผวนสร้างสมพลังมวลด้วยเธอล้วนก็คือคน สตรีมีชีวิตล้างรอยผิดด้วยเหตุผลคุณค่าเสรีชนมิใช่ปรนกามารมณ์ ดอกไม้มีหนามแหลมมิใช่แย้มคอยคนชมบานไว้เพื่อสะสมความอุดมแห่งผืนดิน! จิระนันท์ พิตรปรีชาประชาธิปไตย, 4 พฤศจิกายน 2516
วิญญาณหนังสือพิมพ์ (จิตร ภูมิศักดิ์)
โคลงสี่สุภาพ ขันเอยขันมนุษย์บ้า บวมบอ หุยฮา ! ฟ้าม่านดำทมึนมอ มืดตื้อ ฟอกถ่าน….ถ่านจักลออ ขาวอล่อง มีฤา …
โคลงสรรเสริญเกียรติกรุงเทพมหานครยุคไทยพัฒนา ตอนที่ 3 – หนุมานอมพลับพลา (จิตร ภูมิศักดิ์)
ฉบัง อ้า…กรุงเทพมหานคร ยุคพัฒนากร นอนละเมอเพ้อพัฒนาการ พัฒนาอาชีพเชี่ยวชาญ ไทยนี้ชำนาญ อาชีพแจ่มแจ๋วอัศจรรย์ ซื้อขายสินค้าสำคัญ ยื้อแย่งแข่งขัน …
โคลงสรรเสริญเกียรติกรุงเทพมหานครยุคไทยพัฒนา ตอนที่ 2 – หิรันตยักษ์ม้วนแผ่นดิน (จิตร ภูมิศักดิ์)
ร่ายพัฒนา โอม…ละลายมหาละลายควายเขาระฟ้า บ้าเลือดเดือดดุตาประทุเป็นเปลวเพลิง เคี้ยวดินกระเจิงอยู่คะคึกคะคึก เขมือบป่าลึกอยู่คะโครมคะโครม โฉมหน้าฉุบวมสวมชาติหิรัณยักษ์ แหกหักมหาอวิจี ผุดปฐพีมาเกิด ฟื้นกำเนิดจากรามเกียรติ์ จากภาพเขียนกลียุค …
โคลงสรรเสริญเกียรติกรุงเทพมหานครยุคไทยพัฒนา ตอนที่ 1 – สรรเสริญเกียรติกรุงเทพมหานคร (จิตร ภูมิศักดิ์)
ร่ายพัฒนา โอม…ธรณีประลัย แผ่นดินไทยดั่งดินเดือด ฟ้าสีเลือดคำรณ ครางเกียรติกระดางลางลือระบัด อา…ยุคพัฒนาการ จอมอันธพาลเถลิงอำนาจ ปวงประชาราษฎร์อาเภท เปรตกู่ก้องร้องตระเมิม กระหายเหิมแลบลิ้นอยู่วะวาบวะวาบ …
ศิลปะเพื่อชีวิต ศิลปะเพื่อประชาชน ตอนที่ 1 (จิตร ภูมิศักดิ์)
ประวัติศาสตร์ของมนุษยชาติ คือประวัติแห่งการต่อสู้ของมวลมนุษย์ กล่าวคือ เป็นบันทึกแห่งการต่อสู้ระหว่าง ชนชั้นผู้กดขี่ขูดรีด (Exploiting Classes) กับ ชนชั้นผู้ถูกกดขี่ (Exploited …
การทำบุญ “เพื่อตัวกูดูชอบกล” (จิตร ภูมิศักดิ์)
ทำบุญเชิญคุณคุณช่วยกันคิดสักนิดเหนอทำอย่างไรคือทำบุญนะคุณ…..เออผมคนเซ่อต้องถามเรื่อยเปื่อยเปื่อยไป “การฆ่าไก่ไปวัดจัดเป็นบุญ”จริงเร้อ…..คุณ! ผมชักงงออกสงสัยศีลปาณาห้ามฆ่าสัตว์ถนัดใจไหงฆ่าไก่ตัวเบ้อเร่อ….เฮอ…..นิจจา! บ้างขนของมามากมายถวายพระเพราะหวังลาภสักการะเจียวสิหวาเพื่อชาติอื่นได้เกษมเปรมปรีดาเซ็งลี้บุญเหมือนพ่อค้าค้ากำไร การทำบุญที่แน่แท้ที่สุดคือทำดีแก่มนุษย์ทั้งน้อยใหญ่คือช่วยเหลือเกื้อกูลหนุนกันไปคือปลดให้เขาพ้นทุกข์ที่รุกรน เก็บดอกเบี้ยหูฉี่เงินปรี่ถุงนอนตีพุงกรอกหัวตัวเป็นขนเช้าใส่บาตรเย็นตรวจน้ำพร่ำสวดมนต์นั่นหรือคนทำบุญ….บุญ…นิจจา! สร้างบ่อน้ำทำสะพานการกุศลสร้างถนนบำรุงด้านการศึกษาเพื่อมวลชนทั่วทั่วไปได้พึ่งพาจักได้บุญเสียยิ่งกว่าพร่ำสวดมนต์ การสร้างพระสร้างเจดีย์ที่โตใหญ่เห็นจะพอแล้วผองไทยฟังเหตุผลเรามีวัดมากจนเกินเดินแทบชนพระภิกษุสมตนแล้วทั่วกัน มาเถิดมาทำบุญสุนทรทานช่วยพยุงชีพชาวบ้านให้สุขสันต์เขายังทุกข์มิใช่น้อยนับร้อยพันเป็นภาระที่สำคัญกว่าเจดีย์ เมื่อทุกคนได้อยู่ดีมีความสุขเขาย่อมมีใจสนุกกันเต็มปรี่ย่อมจักสร้างวัดหลากมากทวีสมกับที่เป็นแดนพุทธสุดวิมล …
สหายเอย (จิตร ภูมิศักดิ์)
สหายเอยวานเฉลยว่าสตรีสวยที่ไหนสวยที่ตาซึ้งงามหวามหวิวใจสวยที่แก้มพริ้มอำไพผ่องชมพู? สวยที่โอษฐ์เต็มอิ่มยิ้มน่าจูบสวยที่รูปร่างระหงทรงเพรียวหรู!สวยที่อกอันชายต้องร้องอู้ฮูสวยตะโพกผายชวนดูเดินแนบเนียน บ้างว่าสวยพริ้มพรายยามอายเหนียมบ้างว่าเยี่ยมก็ตรงตอนงอนปวดเศียรบ้างว่าสวยพร้อมสรรพเมื่อดับเทียนบ้างว่าสวยเพราะเธอเพียรให้ชมเชย สวยเพราะแสนรักผัวจนกลัวหงอสวยเพราะรอเป็นเท้าหลังฟังเฉยเฉยสวยเพราะผัวมีเมียน้อยปล่อยตามเคยสวยเพราะเป็นทาสเชลยเสมอไป สหายเอ๋ยคำเฉลยต่อไปนี้เข้าทีไหมสวยเพราะทำงานแข็งกร้านแกร่งไกรเพื่อช่วยมวลชนไทยที่มืดมน เพื่อช่วยให้เขาได้มีที่เรียนร่ำมีงานทำมีเงินจ่ายหายขัดสนมีบ้านอยู่อย่างเป็นสุขทั่วทุกคนงานเพื่อชนทั้งสิ้นอยู่กินดี สวยเพราะเป็นเท้าหน้าขวาหรือซ้ายเทียมเท่าชาย…เชิดความรักในศักดิ์ศรีใช่แขวนชีพไว้กับผัวชั่วตาปีใช้ความสามารถที่มีกอบกิจกรรม จงตื่นเถิด ! รู้ตนว่าตนสามารถจงองอาจอย่ายอมให้ใครเหยียบย่ำแม่แห่งลูก, …
สู้อย่างไร? นักปรัชญาบอกข้าที (จิตร ภูมิศักดิ์)
ลุกขึ้นเถิดเพื่อนยาไยหน้าเศร้า คำเก่า ๆ มิได้บอกไว้ดอกหรือ อย่างท้อแท้แพ้พึมชึมกระทือ “ชีวิตคือการต่อสู้” รู้หรือยัง? กันก็รู้อยู่หรอกเหนอไอ้เกลอแก้ว ก็สู้แล้วจนหมดเนื้อเหลือแต่หนัง ยิ่งนับวันมันยิ่งหดหมดกำลัง …
ความเปลี่ยนแปลง (นายผี)
โอ้เมืองไทยนี้มีตำ-นานคือเมืองคำแลใคร บ่ เคย เข็ญขร มีศิลาจารึกลือขจรโคลงฉันท์กาพย์กลอนก็ว่าบมีเวรภัย แสนสระนุกทุกทั่วกรุงไทยไพร่ฟ้าหน้าใสประดุจด้าวแดนสวรรค์ ชาวประชาหากินด้วยกันซื้อขายให้ปันบมีจะเป็นปากเสียง เทวราชบมิรู้ลำเอียงรู้เปรียบเทียบเคียงจะครองแผ่นดินโดยธรรม เพราะเมืองไทยนี้มีตำ-นานคือเมืองคำเพราะใครบเคยเข็ญขร จึงกระเดื่องเลื่องล้ำกำจรทั่วทุกนครมาขุดเอาทองแดนไทย …